วิกฤติน้ำท่วมใหญ่ ฉุดเศรษฐกิจ เปิดโอกาสแบงก์ชาติหั่นดอกเบี้ย โบรกฯ ชูหุ้นได้อานิสงส์ดอกเบี้ยขาลง

โบรกฯ มองวิกฤติน้ำท่วมหาดใหญ่-ภาคใต้ เพิ่มดาวน์ไซด์ให้เศรษฐกิจ แต่เปิดโอกาสให้ธปท.ลดนโยบายดอกเบี้ยลง ชูธีมหุ้นเด่นรับประโยชน์ดอกเบี้ยขาลง
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า ความคาดหวังปรับลดดอกเบี้ยดังขึ้นอีกครั้งหลังจากตัวเลขย่ำแย่ ในไทยฟันธงว่าดอกเบี้ยลงแน่นอนจาก FED ลดดอกเบี้ยผสานกับดาวน์ไซด์เศรษฐกิจจากน้ำท่วมวิกฤตในหาดใหญ่ ระยะสั้นเน้นธีมดอกเบี้ยลง อย่าง Non Bank
โดยความคาดหวังว่า FED จะลดดอกเบี้ย (CME FED Watch ล่าสุดให้น้ำหนัก 84% ที่ FED จะลดดอกเบี้ยเดือน ธ.ค. และเมื่อประกอบกับน้ำท่วมในหาดใหญ่กับภาคใต้สร้างความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยผสานกับเงินเฟ้อที่ต่ำยิ่งเพิ่มความน่าจะเป็นในการลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับวันนี้ประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,260 – 1,280 จุด ตลาดมีจิตวิทยาเชิงบวกจากการปรับขึ้นของหุ้นสหรัฐฯประกอบกับความคาดหวังลดดอกเบี้ยของ FED , ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้น คืนนี้รอติดตามจำนวนขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.26 แสนรายหากมากกว่าคาดการณ์จะหนุนตลาด
ทั้งนี้ ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนเน้นที่ Theme ดอกเบี้ยปรับลง อาทิ การเงิน (MTC TIDLOR) อสังหาฯ (AP SPALI) ค้าปลีก (CPALL HMPRO DOHOME) กลุ่มธนาคาร (SCB) หากปรับลงมาจากความกังวลดอกเบี้ยมองเป็นโอกาส
ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า สถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ที่รุนแรงกว่าปีปกติอย่างมีนัยสำคัญ มีแนวโน้มลากยาวกว่า ประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะกระทบราว 1 สัปดาห์ ปัจจุบันเราคาดยาวนาน 2-3 สัปดาห์ และยังต้องใช้เวลาฟื้นฟูหลังจากนั้น
โดยประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สถานการณ์ดังกล่าวคาดมีผลดาวน์ไซด์ต่อ GDP อิงภาคใต้ที่มีสัดส่วน 5-8% ต่อ GDP ทั้งหมด ขณะที่พื้นที่เศรษฐกิจหลักหาดใหญ่ จ.สงขลา คาดสร้างความเสียหาย 3 ส่วน คือ การค้าชายแดน, เกษตรสินค้ายาง ยางพารา และนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย (14% ของนักท่องเที่ยวรวม) ปัจจุบัน จ. สงขลามีสัดส่วน GDP ราว 1.5% ของ GDP แต่คาดผลกระทบเปิดโอกาสให้การประชุม BOT รอบ ธ.ค. 68 มีโอกาสลดดอกเบี้ยสูงขึ้น
สำหรับกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลกระทบ ส่วนใหญ่ค่อนข้างจำกัด อาทิ ธนาคาร+เช่าซื้อ (หลักประกัน โดยเฉพาะรถยนต์เสียหาย) กระทบหุ้นที่มีสินเชื่อเชื่อมโยง Hire Purchase หรือจำนำทะเบียนสูง อาทิ ธนาคาร (KKP TISCO TTB) เช่าซื้อ (MTC, SAWAD) ที่ระยะสั้นคาดต้องมีการออกมาตรการช่วยเหลือ อย่างไรก็ดีประเมินสัดส่วนสินเชื่อไม่มาก เพราะจำกัดเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบในภาคใต้
ถัดมาเป็น STA ผลกระทบน้ำท่วม จ.สงขลามีผลราว 5% ของกำลังผลิต, กลุ่มประกันที่อาจจะมีค่าใช้จ่ายจากการเคลมความเสียหายจากน้ำท่วม กลุ่มค้าปลีก ส่วนใหญ่มีสาขาราว 1-3 แห่ง และสัดส่วนรายได้น้อยกว่า 1% ของรายได้รวม, กลุ่มท่องเที่ยว CENTEL มีโรงแรม 1 แห่ง (จาก 16 แห่งในไทยที่บริษัทเป็นเจ้าของ) ส่วน ERW โรงแรมแบรนด์ Hop Inn ของ ERW จำนวน 2 แห่ง (จาก 79 แห่งในไทย) และกลุ่มโรงพยาบาล BDMS มีโรงพยาบาลในพื้นที่หาดใหญ่ 1 ร.พ. สัดส่วนรายได้ 2%
ส่วนกลุ่มที่เป็นกลางและบวก คือหุ้นกลุ่มจำหน่ายสินค้าซ่อมแซม+ปรับปรุงบ้าน อาทิ HMPRO ที่แม้ยอดขายระยะสั้นอาจจะสะดุด แต่มีการสาขาในพื้นที่มากสุด (3 แห่ง) DOHOME (1 แห่ง) GLOBAL (ไม่มี) ช่วงฟื้นฟูมีโอกาสเห็นยอดขายเพิ่มกลับมาชดเชยได้
กลุ่มโรงไฟฟ้า EGCO ที่คาดเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าโรงไฟฟ้าขนอมช่วยชดเชยโรงอื่นในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ และหุ้นที่ดอกเบี้ยขาลงหนุน อาทิ ไฟฟ้า (GULF, BGRIM, GPSC ) High Yield (ADVANC, อสังหาฯ , REIT, Infra Fund) หนี้สูง (CPALL, TRUE) เช่าซื้อรอตั้งรับจากจิตวิทยาลบน้ำท่วม (MTC, SAWAD (เก็งเข้า SET50 > พื้นฐาน)