อสังหาฯ เดือดหนัก! รายใหญ่รุกกินตลาด-รายเล็กคุมเงินทุน คาดปีหน้ายอดจอง-เปิดตัวโครงการใหม่ทรุด
โบรกฯ น้ำหนัก “OVERWEIGHT” ต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จากมูลค่าที่น่าสนใจและศักยภาพด้านอัตราผลตอบแทนเงินปันผล โดยมอง AP และ SIRI เป็นหุ้นแนะนำในกลุ่ม พร้อมมองรายเล็กกำลังใช้กลยุทธ์การรักษาเงินทุนเชิงรับ คาดยอดจองและปริมาณการเปิดตัวโครงการใหม่จะลดลงในปี 2569
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์กิจกรรมการซื้อที่ดินชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดในอุตสาหกรรมโดยรวม โดยมีเพียงผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่เท่านั้นที่ยังคงกระตือรือร้นที่จะคว้าส่วนแบ่งทางการตลาด แนวโน้มนี้บ่งชี้ถึงการแยกตัวของตลาด โดยผู้นำตลาดกำลังรุกเข้าซื้อโครงการท่อส่งในอนาคตอย่างแข็งขัน ขณะที่คู่แข่งรายเล็กกำลังใช้กลยุทธ์การรักษาเงินทุนเชิงรับ ซึ่งยิ่งทำให้ช่องว่างทางการแข่งขันยิ่งกว้างขึ้น
โดยยังคงให้น้ำหนัก “OVERWEIGHT” ต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จากมูลค่าที่น่าสนใจและศักยภาพด้านอัตราผลตอบแทนเงินปันผล โดยมอง AP และ SIRI เป็นหุ้นแนะนำในกลุ่มที่อยู่อาศัย ด้วยจุดแข็งด้านการดำเนินงานที่พิสูจน์แล้วและช่องทางรายได้จากการโอนที่มั่นคง ทั้งนี้คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ AP โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 11.80 บาทและ SIRI มูลค่าที่เหมาะสม 2.20 บาท
สำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านของรูปแบบการรับรู้รายได้ ยอด backlog ที่แข็งแกร่งในปี 2569 แสดงให้เห็นถึงภาวะปกติเชิงโครงสร้างหลังจากเกิด "ช่องว่างอุปทาน" ในช่วงการระบาดใหญ่ (2564-65) กิจกรรมการเปิดตัวที่จำกัดในช่วงเวลาดังกล่าวส่งผลให้สินค้าคงคลังที่พร้อมโอนมีจำนวนน้อยตลอดปี 2567-68
ในทางกลับกัน การกลับมาเปิดโครงการใหม่อย่างแข็งขันในช่วงปี 2566-67 กำลังใกล้ถึงจุดอิ่มตัว ซึ่งสร้างความมั่นคงให้กับผู้พัฒนาโครงการหลายรายในปี 2569
ดังนั้น คาดการณ์ว่ายอดจองและปริมาณการเปิดตัวโครงการใหม่จะลดลงในปี 2569 เนื่องจากจำนวนการเปิดตัวโครงการโดยเฉลี่ยลดลง อันเนื่องมาจากการจัดสรรเงินทุนเพื่อการลงทุน (CAPEX) ที่ดินที่ลดลง กิจกรรมการรับรู้รายได้และการโอนกรรมสิทธิ์ของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยังคงได้รับแรงหนุนจากยอด backlog คอนโดมิเนียมของแต่ละราย
ทั้งนี้ความชัดเจนของผลประกอบการยังคงไม่สม่ำเสมอในรายงาน ทำให้เกิดกรอบเวลาการฟื้นตัวที่ชัดเจน AP และSIRI แสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องที่แข็งแกร่งที่สุด การเปิดตัวโครงการอย่างต่อเนื่องของทั้งสองบริษัททำให้มี backlog จำนวนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงรายได้ที่ชัดเจนจนถึงปี 2569
ในทางตรงกันข้าม LH มีจังหวะการฟื้นตัวที่ช้ากว่า โดย backlog จำนวนมาก โดยเฉพาะจากโครงการมูลค่าสูงที่สำคัญ ได้เลื่อนออกไปเป็นกลางปี 2570 แทนที่จะเป็นปี 2569
ขณะเดียวกัน SPALI อยู่ในสถานะที่โดดเด่น ด้วยจำนวนคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้วเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งมีกำหนดโอนในปี 2569 แม้ว่าตัวเลขนี้จะให้ความสามารถในการสร้างรายได้ทันที แต่ศักยภาพในการเติบโตขึ้นอยู่กับการดำเนินการของบริษัทในการแปลงสต็อกคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้วนี้ให้เป็นรายได้ที่รับรู้ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมของความต้องการที่ฟื้นตัว
ยอดนิยม
AOT เขย่าดิวตี้ฟรี! ลุ้นบอร์ดศุกร์นี้ โบรกฯ ผวารายได้ประกันขั้นต่ำสุวรรณภูมิ อาจหดเหลือ 7 พันล้าน แนะ "ขาย"
"เน็ตประชารัฐ" หนุนเต็มสูบ ADVANC-TRUE จ่อฟันกำไรเพิ่ม โบรกฯ คาดหนุนลูกค้าใช้งาน-ดัน ARPU เพิ่ม
โบรกฯชี้หุ้นไทยทรุด 3.2% รับผลกระทบ MSCI Rebalance ปรับสถานะล่วงหน้า-ลุ้นรีบาวด์
ทองโลกชูสัญญาณ “Bullish Flag” รับแรงหนุนเฟดจ่อผ่อนเงิน ทองไทยพุ่ง 750 บาท ยืนเหนือ 63,000 บาท