Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 25-11-25 (เริ่มชัด!อาจยุบสภาฯเร็วกว่าคาด)


25 พฤศจิกายน 2568

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 25-11-25 (เริ่มชัด!อาจยุบสภาฯเร็วกว่าคาด)

 

25-11-25 สวัสดี “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ 

***12 ธ.ค.นี้รู้เรื่อง!!!!  ทิศทางการเมืองไทยเริ่มกลับมามีความอ่อนไหวอีกครั้ง เนื่องจาก “นายกฯหนู-อนุทิน” เริ่มมีท่าทีที่อาจจะยุบสภาเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบหรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคประชาชน ได้ระบุเงื่อนไขหลัก 3 ข้อสำหรับการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งรวมถึงการที่นายกฯ ไม่ยุบสภาภายในวันที่ 31 ม.ค. 2569 และการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่เสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้ หากนายกฯ ตัดสินใจยุบสภา เช่น ในวันที่ 12 ธ.ค. โดยที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่เสร็จสิ้น จะถือว่าขัดต่อเงื่อนไข MOA ที่ทำไว้ ดังนั้นความไม่แน่นอนทางการเมืองนี้อาจเป็นปัจจัยที่เข้ามากดดันตลาดหุ้นในช่วงสัปดาห์นี้

***โดยสรุปภาพรวมคือ กระแสการเมืองช่วงเริ่มคึกคักขึ้นด้วยเรื่องของ

1.) พรรคประชาชน เปิดตัว 3 ตัวเลือกนายกฯ และนโยบายชุดแรก "ความมั่นคงใหม่ เศรษฐกิจใหม่บริหารประเทศแบบใหม่ ไทย-ทัน-โลก"

2.) การเปิดตัว ส.ส. ใหม่เข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย และคุณอนุทินฯ หัวหน้าพรรคแจ้งพรรคร่วมรัฐบาลสแตนด์บายรอฟังสัญญาณยุบสภา 12 ธ.ค. นี้

***กูรูหุ้นให้ความเห็นเรื่องนี้ว่า ในระยะสั้น ประเมินเป็นภาพเตรียมพร้อมต่อการเลือกตั้งรอบใหม่ ดังนั้น แม้ระยะสั้นการยุบสภาอาจจะทำให้ตลาดหุ้นสะดุดเล็กๆ แต่ยังคงมุมอมงตลาดมีโอกาสฟื้นเร็ว จากความคาดหวัง Election Rally เนื่องจากจะต้องเข้าสู่การเลือกตั้งใหม่ใน 45-60 วัน และมีโอกาสได้รัฐบาลใหม่ที่มีเสถียรภาพพร้อมขับเคลื่อนนโยบาย Reform ประเทศระยะกลาง-ยาว

***ย้ำชัดๆ เรื่อง MSCI Rebalance: MSCI Index Rebalance Nov2025 จะมีผลราคาปิดเมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) คาดเม็ดเงิน net outflows ราว – 70 ล้านเหรียญฯ โดยหุ้นเข้า/ออก มีรายละเอียด ดังนี้

-Standard index (Large+Mid cap)

  • หุ้นเข้า: ไม่มี
  • หุ้นออก: ไม่มี

-Small cap Index

  • หุ้นเข้า : M
  • หุ้น ออก : AAV, CKP, JTS, QH, TPIPP

***FTSE Rebalance Announcement : FTSE GEIS rebalance รอบเดือนธ.ค. มีผลราคาปิดวันที่ 5 ธ.ค.ouh

-Standard Index (Large + Mid cap): ไม่มีหุ้นเข้า/ออก

-Small Cap Index: ไม่มีหุ้นเข้า/ออก

-Micro Cap Index: ไม่มีหุ้นเข้า/ออก

***มาถึงเรื่องต่างประเทศบ้าง เกี่ยวกับแผนสันติภาพยูเครน-รัสเซีย: ข้อเสนอสันติภาพ 28 Point ระหว่างทูต สหรัฐฯ และรัสเซีย (ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดี ทรัมป์) จะบังคับให้ยูเครนต้องยกดินแดนจำนวนมากที่รัสเซียยึดไป (เช่น ไครเมีย, ลูฮันสค์, โดเนตสค์ เป็นของรัสเซียโดยพฤตินัย) จำกัดขนาดกองทัพ และยุติความพยายามเข้าเป็นสมาชิก NATO แม้ว่าพันธมิตรของยูเครน (เช่น สหราชอาณาจักรและกรีซ) จะออกมาแสดงความเห็นว่าแผนนี้มีปัญหาและต้องได้รับความเห็นชอบจากยูเครน

***เรื่องนี้โดยภาพรวม วงการตลาดหุ้นยังคงมองบวกกับข้อตกลงดังกล่าว  และมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ของสัปดาห์นี้ รองจากข่าวความกังวลต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจาก การยุติสงครามตามแผนนี้ รัสเซียได้เปรียบ(จบง่ายกว่า)และการยุติสงคราม ดีต่อเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะยุโรป และทิศทางเงินเฟ้อ(ลดลง)

***แต่ที่แน่ๆ เรื่องนี้โยงไปถึงราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงต่อเนื่อง ปัจจัยลบยังเป็นเรื่องเดิม การที่สหรัฐเดินหน้าผลักดันข้อตกลงสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน ตลาดประเมินหากข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นจริงรัสเซียจะกลับมาส่งออกน้ำมันได้อีกครั้งซ้ำเติมภาวะอุปทานล้นตลาด ประกับค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยลบกดดันราคาน้ำมันดิบ

***สำหรับราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงเป็นจิตวิทยาลบกดดันหุ้นกลุ่มน้ำมัน PTTEP, PTT รวมถึงหุ้นกลุ่มโรงกลั่น (TOP,SPRC, BCP) โดยเฉพาะหากราคาน้ำมันดิบยังลดลงต่อเนื่องหรือต่ำกว่าระดับ US$55/barrel จะทำให้กลุ่มโรงกลั่นมีความเสี่ยงจากการบันทึก Stock loss

***ส่วนเรื่องในประเทศนอกจาก “การเมือง” ก้อมีเรื่องดอกเบี้ยที่นักลงทุนให้ความสนใจ..มีสัญญาณที่เริ่มเห็นชัดว่า ธปท. เปิดช่องให้ลดดอกเบี้ย  โดย “วิทัย รัตนากร” ผู้ว่าแบงก์ชาติระบุว่าค่าเงินบาทควรจะอ่อนค่าลงเพื่อให้สะท้อนกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และชี้ว่ายังมีช่องว่างสำหรับการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมได้ ดังนั้นด้วยประเด็นต่อเนื่องกัน ทำให้มีโอกาสที่การประชุม กนง. 17 ธ.ค.นี้ จะมีการปรับลดดอกเบี้ย จากปัจจุบันที่ 1.5% ดอกเบี้ยที่ลดลง แม้จะไม่ impact ต่อต้นทุนและเศรษฐกิจมาก แต่ดีต่อ sentiment ตลาดหุ้น ขณะที่หุ้นธนาคาร อาจถูกมองในเชิงลบ

***สู้กันต่อไปค่ะพวกเรา!!! สู้ๆๆๆๆ นะ