โบรกฯเกอร์เลือดสาด งบ 9 เดือน ธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ รายได้-กำไรลด เซ่นพิษวอลุ่มเทรดต่ำ

จากการสำรวจข้อมูลมูลค่าการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาพบว่าเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2568 ที่มีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 17,321 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี



ทั้งนี้เมื่อมูลค่าการซื้อขายในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลง ก็คงจะปฎิเสธได้เลยว่าอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ก็คือบริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ หรือโบรกเกอร์

โดยหากย้อนดูผลประกอบการของเหล่าบริษัทโบรกเกอร์ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ รายงานผลประกอบการในงวด 9 เดือนที่ผ่านมาต่างยอมรับว่ารายได้และกำไรจากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ระบุว่า สําหรับผลดําเนินงานตามงบการเงินรวมงวด 9 เดือนปี 2568 บริษัทมีกําไรสุทธิเป็นจํานวนเงิน 178.57 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2567 จํานวนเงิน 293.43 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 39 โดย บริษัทมีกําไร(ขาดทุน)และผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงินลดลง 81.28 ล้านบาท หรือ ลดลงร้อยละ 26 จากปีก่อน และมีรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 29.73 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 9 จากปีก่อน

ขณะที่บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GBX รายงานผลการดำเนินงานในส่วนของธุรกิจรายได้ค่านายหน้าธุรกิจหลักทรัพย์ งวด 9 เดือน ปี 68 มีรายได้ค่านายหน้าธุรกิจหลักทรัพย์ 96.21 ล้านบาท ลดลง 22.32 ล้านบาท หรือลดลง 18.8% รายได้ค่านายหน้าจากสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 14.02 ล้านบาท ลดลง 3.32 ล้านบาท หรือลดลง 19.1% ลดลงจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ลดลง

ส่วน บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI เปิดเผยว่า รายได้ค่านายหน้าสําหรับงวด 9 เดือน ปี 2568 อยู่ที่ 513 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้ที่ลดลงมาจากค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ และค่านายหน้าจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า สาเหตุหลักเนื่องจากการซื้อขายของลูกค้าทั่วไปลดลง

เช่นเดียวกับบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MST รายงานผลประกอบการสําหรับงวด 9 เดือนปี 2568 โดยบริษัทมีกําไรสุทธิ 198 ล้านบาท ลดลง 166.72 ล้านบาท หรือลดลง ร้อยละ 45.71 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกําไรสุทธิ 364.72 ล้านบาท

โดยรายได้ค่านายหน้าลดลง 90.18 ล้านบาท จาก 790.03 ล้านบาท เหลือ 699.84 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 11.42 เนื่องจาก  รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 73.96 ล้านบาท จาก 677.91 ล้านบาท เหลือ 603.95  ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 10.91 อันเป็นผลจากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ลดลง

ด้าน บริษัท ฟินันเซีย เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ FSX รายงานว่า ผลประกอบการงวด 9 เดือนรายได้ค่านายหน้าตามงบการเงินรวมเท่ากับ 564.79 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนลดลงจำนวน 78.23 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.17 โดยภาพรวมของตลาดสำหรับงวด 9 เดือน ปี 2568 ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของตลาดฯ ลดลงจากจำนวน 43,454 ล้านบาท เป็นจำนวน 40.467 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.87 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ UOBKH แจ้งผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/68 มีรายได้ค่านายหน้าลดลงจาก 148,671,772 บาท เป็น 123,995,833 บาท หรือลดลงร้อยละ 16.60 ซึ่ง เป็นผลมาจากปริมาณการซื้อขายของบริษัทที่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับ บริษัท ไอร่า แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA ระบุว่า ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2568 รายได้ค่านายหน้า และรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้กู้ยืม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์ 228 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 17 จากงวดเดียวกันของปีก่อน

เนื่องจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์โดยเฉลี่ยของบริษัทย่อยมีแนวโน้มชะลอตัวตามสภาวะ ตลาด และนักลงทุนยังคงระมัดระวังในการลงทุนส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายโดยรวมลดลง โดยมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของตลาด หลักทรัพย์ฯ ลดลงถึงร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในส่วนของบริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ TNITY รายงานงบงวด 9 เดือนรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์ลดลงจาก 256.97 ล้านบาทในงวดเก้าเดือนป 2567 เป็น 200.77 ล้านบาทในงวดเดียวกัน ของปี 2568 หรือลดลงในอัตราร้อยละ 21.87 ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของ รายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพยลดลงจาก 85.41 ล้านบาทในงวด 9 ปี 2567 เป็น 79.53 ล้านบาทใน งวดเดียวกันของปี 2568 หรือลดลงในอัตราร้อยละ 6.88 ซึ่งเป็นผลจากการลดลงของปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์โดยรวมของตลาดหลักทรัพย์ที่ลดลง