กลุ่มปตท. หนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่นักลงทุนไทยให้ความสนใจและติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด ซึ่งหลังจากประกาศตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 3/68 ก็เริ่มที่จะมีนักลงทุนคาดการณ์ตัวเลขกำไรไตรมาส 4/68 ออกมา ในวันนี้ทางเราก็ได้เอาคาดการณ์ดังกล่าวจากนักวิเคราะห์มาให้ได้ชมกัน
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด คาด PTT ในไตรมาส 4/68 จะมีกำไรอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท ทรงตัวจากช่วงเดียวกัน ได้ธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี ที่ค่าการกลั่นฟื้นตัวสูง และปิโตรเคมีต้นทุน feedstock และค่าใช้จ่ายคงที่ลดลง (ปิดธุรกิจไม่ทำกำไร) ชดเชยธุรกิจ E&P ที่อัตรากำไรลดลงตามราคาน้ำมันดิบได้
ทั้งนี้ แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 32.50 บาท เนื่องจากระยะสั้นขาดปัจจัยหนุนซึ่งกำไรปกติไตรมาส 4/68 ทำเพียงทรงตัวจากช่วงเดียวกัน และการปรับโครงสร้างก๊าซฯมีแนวโน้มไม่ทันในรัฐบาลปัจจุบัน ธุรกิจโรงแยกก๊าซฯยังต้องแบกรับภาระ single pool gas สามารถรอดูความชัดเจนการปรับโครงสร้างก๊าซฯในรัฐบาลถัดไปก่อนได้
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) คาดการณ์กำไรหลักไตรมาส 4/68 ของ PTTEP มีแนวโน้มจะลดลงจากช่วงเดียวกัน เนื่องจากราคาขายปิโตรเลียมเฉลี่ยที่ลดลงและค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ปริมาณขายปิโตรเลียมอยู่ที่ 540,000 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกัน
สำหรับการลงทุน แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 130 บาท แม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะไม่น่าตื่นเต้น แต่การเติบโตกำไรไตรมาส 4/68 จากไตรมาสก่อนหน้า และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีน่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้น คาดว่าความแข็งแกร่งทางการเงินของ PTTEP จะช่วยให้บริษัทสามารถรักษาอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลไว้ที่ 6-7% ได้ต่อไป นอกจากนี้ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์อาจนส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนกำไรให้ปรับเพิ่มขึ้น
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) คาด PTTGC ในไตรมาส 4/68 จะฟื้นจากช่วงเดียวกัน เพราะฝั่งโรงกลั่นซัพพลายที่ตึงตัวในรัสเซีย ได้รับผลกระทบสงครามฯและคว่ำบาตร หนุนส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์และฝั่งปิโตรเคมี ต้นทุน LPG ลดลง และไม่มีผลกระทบปรับสูตรราคากับ PTT เหมือนไตรมาส 4/68
ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 28 บาท ระยะสั้นมีปัจจัยกดดันจากไตรมาส 4/68 ที่มีปิดซ่อมใหญ่โรงกลั่น แต่ P/BV ราว 0.4 เท่าน่าจะสะท้อนช่วงผลประกอบการต่ำในวัฏจักรขาลงของปิโตรเคมีไประดับหนึ่งแล้ว แต่ระยะยาวเป็นหนึ่งในผู้อยู่รอดและได้ประโยชน์หลังอุตสาหกรรมเข้าสู่วงจรฟื้นตัว (อำนาจต่อรองของผู้ขายสูงขึ้น)
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) คาด TOP จะรายงานกำไรหลักไตรมาส 4/68 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น (อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงกลั่นโรงงานอะโรเมติกส์และโรงงานน้ำมันหล่อลื่นที่สูงขึ้นหลังการปิดซ่อมบำรุงในไตรมาส 3/68) และค่าการกลั่นตลาดรวมที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 40 บาท เนื่องจากไตรมาส 4/68 ที่พลิกกลับเป็นกำไรจากไตรมาสก่อน จะหนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้มูลค่าปัจจุบันอยู่ในระดับราคาไม่แพง โดยซื้อขายที่ P/BV ปี 2569 เพียง 0.4 เท่า และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในปี 2569 ที่ 6.9% ซึ่งน่าจะช่วยหนุนราคาหุ้นต่อไป
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) คาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/68 ของ OR จะฟื้นตัวจากช่วงเดียวกัน ได้แรงหนุนจากธุรกิจ Mobility ปริมาณขายฟื้นตัวตามปัจจัยฤดูกาลและกำไรขั้นต้นต่อลิตรยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงราว 0.9-1.0 บาทต่อลิตร และธุรกิจ Lifestyle ปริมาณขายฟื้น ตามการขยายสาขาและรายได้ค้าปลีก
ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 18 บาท เนื่องจากกำไรขั้นต้นต่อลิตรไตรมาส 3/68 ได้สะท้อนการแทรกแซงของรัฐที่ลดลง มองต้นทุนน้ำมันที่ผันผวนในไตรมาส 4/68 จากซัพพลายตึงตัวและรัฐปรับลดราคาหน้าปั๊มเป็นปัจจัยระยะสั้น คงมุมมองราคาน้ำมันที่กลับสู่สภาวะปกติสุดท้ายจะทำให้ภาครัฐลดการแทรกแซง หนุนกำไรขั้นต้นต่อลิตรและธุรกิจ Mobility ฟื้นตัวต่อเนื่อง
สุดท้าย GPSC นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) คาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/68 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน จากส่วนแบ่งกำไร CFXD ที่เข้าสู่ไฮซีซั่นชดเชยกับปริมาณการขายไฟและไอน้ำที่ลดลง และราคา Pool gas ที่คาดปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ราว 289 บาทต่อหนึ่งล้านบีทียู จากผลของฤดูหนาว
ทั้งนี้ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 45 บาท โดยระยะยาวกำไรปกติปี 2568 - 2570 เติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี สอดคล้องไปกับการฟื้นตัวของกำไรจากโรงไฟฟ้า IPP และ SPP มองราคาหุ้นที่ปรับตัวลงตอบรับกับงบการเงินไตรมาส 3/68 ที่ออกมาต่ำกว่าคาดแล้วและอยู่ระหว่างรอรับอัพไซด์หลายปัจจัยที่อาจเริ่มเห็นความคืบหน้าในไตรมาส 4/68
ยอดนิยม
“การบินไทย” โชว์งบ 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 2.63 หมื่นล้านบาท รายได้ขนส่งเพิ่ม-กำไรอัตราแลกเปลี่ยน
“เถ้าแก่น้อย” งบ 9 เดือน ดิ่งหนัก กำไรทรุดกว่า 57% เหลือแค่ 297 ลบ. เหตุยอดขายหด แต่ต้นทุนสาหร่ายเพิ่มขึ้น
เปิดงบ 2 บริษัท “กลุ่มชาญวีรกูล” STECON งบ 9 เดือนพลิกกำไร 1.12 พันลบ. ส่วน STPI กำไรสุทธิโตสนั่น 6,975%