จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : SA ขยายธุรกิจบุกกลุ่มโรงแรม เจาะลูกค้านักท่องเที่ยวไทย-ต่างชาติ สร้างรายได้เติบโตยั่งยืน
13 พฤศจิกายน 2568

บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) ขยายฐานลูกค้านักท่องเที่ยว บุกตลาดธุรกิจโรงแรม หวังสร้างรายได้เติบโตอย่างมั่นคง ชูจุดแข็งจับมือแบรนด์โรงแรมระดับโลก ตอกย้ำการให้บริการชั้นเลิศ
การสร้างรายได้ให้เติบโตได้อย่างมั่นคง รองรับความผันผวนหรือปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี ผู้บริหารจะต้องมีวิสัยทัศน์ในการขยายฐานลูกค้าให้มีความหลากหลาย เห็นได้จากกรณี บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA)ที่ได้มีการขยายธุรกิจไปทำโรงแรม เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวที่มีเครื่องยนต์หลักที่สำคัญของไทย
โดย นายมณเฑียร ยิ่งดำนุ่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการร่วมและประธานเจ้าหน้าที่สายงานพัฒนาธุรกิจ SA ยอมรับว่า บริษัทได้เดินหน้าขยายธุรกิจโรงแรม ยกระดับศักยภาพการแข่งขันและขยายฐานลูกค้าครอบคลุมนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ เพื่อช่วยเสริมการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว และแนวโน้มครึ่งปีหลังถือว่าน่าจับตา เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว
และเมื่อรวมกับแรงหนุนจากการเดินทางของนักธุรกิจและนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยบวกสนับสนุนให้ธุรกิจโรงแรมของ SA เติบโตแข็งแกร่ง และก้าวขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งเสาหลักใหม่ควบคู่กับธุรกิจอสังหาฯของบริษัทในอนาคต
ทั้งนี้ปัจจุบัน SA มีโรงแรมเปิดให้บริการแล้ว 954 ห้อง ภายใต้การดำเนินงานร่วมกับแบรนด์โรงแรมระดับโลก เช่น Wyndham, Ramada, TRIBE, Cassia ครอบคลุมทำเลศูนย์กลางธุรกิจและย่านท่องเที่ยวสำคัญ อาทิ ถนนสุขุมวิท, สุขุมวิท 39, สุขุมวิท 42, สุขุมวิท 48, สุขุมวิท 87 และพระราม 9
ซึ่งการร่วมมือกับโรงแรมชั้นนำระดับโลก จะสนับสนุนการให้บริการกับลูกค้ามีมาตรฐานในระดับสากล และยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศไทยและต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว
โดยมีอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) ของโรงแรมในกลุ่มจะอยู่ที่ประมาณ 60%-65% แม้จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่ยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และอัตรากำไรขั้นต้น ประมาณ 49.8% ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมมีสัดส่วนรายได้กว่า 19% ของรายได้รวม และบริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจนี้
สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยในช่วงที่ผ่านมา น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-9 พ.ย. 68 ทั้งสิ้น 27,587,845 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,275,522 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย 3,971,783 คน จีน 3,870,078 คน อินเดีย 2,056,933 คน รัสเซีย 1,478,167 คน และเกาหลีใต้ 1,308,510 คน
สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (3-9 พ.ย. 68) จากการออกเดินทางท่องเที่ยวในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (High season) นั้น ส่งผลให้นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) และนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในทั้ง 2 กลุ่มตลาด จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดหลัก อาทิ มาเลเซีย จีน และอินเดีย และการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวภูมิภาคยุโรป และอเมริกา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ดีของตลาดระยะไกลในฤดูกาลท่องเที่ยวของ Season นี้
ส่งผลให้ภาพรวมในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 698,389 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 54,210 คน หรือ 8.42% คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย เฉลี่ยวันละ 99,770 คน โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ มาเลเซีย 89,931 คน จีน 74,538 คน อินเดีย 55,466 คน รัสเซีย 47,319 คน และสหรัฐอเมริกา 30,620 คน
"นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา รัสเซีย จีน และอินเดีย มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 16.66% 16.29% 9.40% 2.85% และ 1.81% ตามลำดับ"