โรบอทเทรด “ทุบหุ้นไอพีโอ” สะเทือนตลาดทุนไทย ถึงเวลาทบทวนกติกา! สนามแข่งเป็นธรรม
Mr.Data
จับตาความผิดปกติของโรบอทเทรด ความเชื่อมั่นรายย่อยสั่นคลอน ถึงเวลาทบทวนกติกา! คุมสปีด–เปิดเผยข้อมูล–สร้างสนามแข่งขันที่เป็นธรรม
“โรบอทเทรด” ถล่มหุ้น IPO?
หลังหุ้นน้องใหม่ไอพีโอ ATLAS และ MASTEC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯวันแรก ปรากฏแรงขายขนาดใหญ่เข้ามากดราคาหุ้นลงอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงไม่กี่นาที จนหลายฝ่ายตั้งคำถามว่า นี่คือแรงขายจากนักลงทุนทั่วไป หรือฝีมือของ High-Frequency Trading (HFT)
...หรือเป็นฝีมือของ Program Trade ที่มีความเร็วต่ำกว่า HFT อะไรกันแน่ ???
เพราะมีการส่งคำสั่งซื้อขายความถี่สูงผิดปกติในช่วงเปิดตลาดและปิดตลาด ที่ซ่อนปริมาณจริงไว้หลังคำสั่งเล็กๆ หลายชุด สร้างแรงกดดันทางจิตวิทยาต่อฝั่งซื้อ จนรายย่อยเทขายตามแรงตลาด
ขย้ำ ATLAS-MASTEC ต่ำจอง
ATLAS เข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ฯ วันที่ 21 ตุลาคม 2568 พบว่ามีมูลค่าซื้อขายผ่าน Program Trade 34.40 ล้านบาท หรือ 4.02% เทียบมูลค่าการซื้อขายแบบ Auto Matching
MASTEC เข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ฯ วันที่ 27 ตุลาคม 2568 พบว่ามีมูลค่าซื้อขายผ่าน Program Trade 25.02 ล้านบาท หรือ 4.09%
ทำไมไม่กล้าเปิดขัอมูล HFT ?
ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ได้แยกแยะชัดเจนว่า การซื้อขายผ่านโปรแกรมเทรด อันไหนเป็นการซื้อขายผ่าน HFT หรือ Program Trade ที่มีความเร็วต่ำกว่า ทำให้นักลงทุนตั้งข้อสงสัยว่า HFT แหกด่านตลาดหลักทรัพย์ฯหรือไม่ เพราะเพิ่งประกาศมาตรการคุมไม่ให้ HFT ซื้อขายนอก SET100
แต่ในความเป็นจริง...มีรูรั่วเล็กๆ ที่เปิดช่องให้ Program Trade ที่มีความเร็วต่ำกว่า HFT เข้ามาขย้ำหุ้นในตลาดได้อย่างสบายอุรา
....แล้วทำไมตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่เปิดเผยข้อมูลอันไหนเป็นฝีมือ HFT แล้วอันไหนเป็น Program Trade ที่มีความเร็วต่ำกว่า ?
โรบอทเทรดได้เปรียบคนตรงไหน?
ความเร็วที่เหนือมนุษย์ ทำให้สามารถส่ง–ยกเลิกคำสั่งได้ก่อนที่มนุษย์จะตอบสนอง ส่งผลให้รายย่อยเสียเปรียบในการตั้งราคาและตัดสินใจ
การส่งคำสั่งซื้อ–ขายหลอก ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเรื่อง “แรงซื้อ–แรงขายจริง” และทำให้ตลาดเกิดความผันผวนเกินเหตุ
หุ้นใหม่ที่เพิ่งเข้าซื้อขายควรสะท้อนดีมานด์–ซัพพลายจริง แต่เมื่อถูกเจาะด้วยคำสั่ง Program Trade ปริมาณมาก ราคาจึงผันผวนผิดธรรมชาติ จนสร้างความหวาดระแวงให้กับนักลงทุนรายย่อย
...หลายคนตั้งคำถามตลาดหลักทรัพย์ฯยังไม่ได้เข้าไปคุมโปรแกรมเทรด และมีช่องโหว่อีกมากที่ไม่สามารถเข้าไปจัดการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่าง "โรบอทเทรด" กับ "คนเทรด" ที่ความเร็วเหนือกว่ากันมาก
และที่เหนือกว่านั้น การเข้าไปตรวจสอบที่ตลาดฯพร้อมตรวจสอบ "คน" แต่ถ้าเป็น "โปรแกรมเทรด" หรือ "โปรแกรมเถื่อน" เท่าที่ผู้รู้บอกมาคำตอบที่ได้กลับมาคือ "โปรแกรมเทรดไม่ใช่คน" ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ
ทางออกแก้ปัญหาโรบอทเทรด!
กูรูในแวดวงตลาดทุนแนะนำว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯควรจำกัดความเร็ว หรือกำหนดระยะเวลา Delay สั้นๆ ระหว่างคำสั่งเพื่อป้องกันการโจมตีด้วยความเร็วสูง เหมือนที่ต่างประเทศใช้
นอกจากนี้ ควรใช้ระบบ AI ตรวจสอบคำสั่งที่ถูกยกเลิกจำนวนมากภายในเสี้ยววินาที เพื่อแยกพฤติกรรมเก็งกำไรเชิงเทคนิคออกจากการซื้อขายจริง
และบังคับให้โบรกเกอร์ระบุรหัสคำสั่ง เพื่อให้ตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าเป็นคำสั่งจากระบบใด หากเกิดการบิดเบือนราคา
กำหนด “Fair Access” ให้รายย่อยเข้าถึงข้อมูลได้เท่าเทียม ลดช่องว่างการเข้าถึงข้อมูลระหว่างผู้ใช้ระบบโปรแกรมเทรดกับนักลงทุนทั่วไป
...ตลาดทุนไทยต้องหาจุดสมดุลระหว่าง “ประสิทธิภาพของเทคโนโลยี” กับ “ความเป็นธรรมในการแข่งขัน” หากปล่อยให้โรบอทเทรดเติบโตโดยไร้กรอบกำกับ อาจกระทบภาพลักษณ์ตลาดในระยะยาว เพราะสิ่งที่นักลงทุนต้องการมากที่สุดไม่ใช่แค่ “กำไร” แต่คือ “ความเชื่อมั่น” ในกติกาที่ทุกคนแข่งขันได้อย่างเท่าเทียม