"ทวีฉัตร จุฬางกูร" ซื้อหุ้น WARRIX เพิ่มเท่าตัว ขึ้นแท่นหุ้นใหญ่ อันดับ 3
ภาพรวมตลาดหุ้นไทยเริ่มต้นเดือนแรกในไตรมาส4/68 ดัชนียังคงผันผวนต่อเนื่อง และหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินประกาศผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปีและไตรมาส3/68 ซึ่งมีบางแห่งที่มีกำไรเติบโตได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
จากการสำรวจพอร์ตลงทุนของ "ทวีฉัตร จุฬางกูร"นักลงทุนรายใหญ่ โดยมีการลงทุนถือหุ้นไทย จำนวน 33 บริษัท โดยพบว่าในเดือนตุลาคม 68 ได้เพิ่มการสัดส่วนการถือครองหุ้น WARRIX ล่าสุดถือครอง จำนวน 29,878,600 หุ้น คิดเป็น 5.0720% จากเดิมเดือนมี.ค.68 ถือหุ้น 15,880,300 หุ้นคิดเป็น 2.65% ดังนั้นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว
นอกจากนี้หากพิจารณาที่โครงสร้างผู้ถือหุ้นสะท้อนได้ว่า "ทวีฉัตร จุฬางกูร"ได้ขึ้นแท่นขยับขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 ทันที
ทั้งนี้ โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1ถึง 10 ของหุ้น WARRIX ณ เดือน มี.ค. 68 ประกอบด้วย
นาย วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล 261,887,470 หุ้น คิดเป็น 43.65 %
นาย พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี 54,356,200 หุ้น คิดเป็น 9.06 %
นาย สมชาย พิทักษ์กัมพล 18,067,800 หุ้น คิดเป็น 3.01 %
นาย ทวีฉัตร จุฬางกูร 15,880,300 หุ้น คิดเป็น 2.65 %
บริษัท ไฮ-เทค แอพพาเรล จำกัด 14,942,530 หุ้น คิดเป็น 2.49 %
บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 12,204,039 หุ้น คิดเป็น 2.03 %
นาย ประสิทธิ์ วิตนากร 11,885,000 หุ้น คิดเป็น 1.98 %
บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) 10,920,000 หุ้น คิดเป็น 1.82 %
UBS AG SINGAPORE BRANCH 10,500,000 หุ้น คิดเป็น 1.75 %
นาย กิตติพงษ์ ภัทรชัยกุล 9,345,600 หุ้น คิดเป็น 1.56 %
สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้น WARRIX ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 8.85% ขณะที่บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส เผยแพร่บทวิเคราะห์ หุ้น WARRIX แนะนำ Fully valued ราคาพื้นฐาน 1.50 บาท ยังเผชิญความท้าทาย โดย WARRIX ขาดทุนสุทธิครั้งแรกในไตรมาส 2/68 โดยบริษัทรายงานขาดทุนสุทธิ -21 ล้านบาท แย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ สาเหตุหลักมาจากรายได้ที่ต่ำกว่าคาด โดยเฉพาะในช่องทาง Project-based และ Modern trade, สัดส่วน SG&A ต่อรายได้พุ่งขึ้นเป็น 53.4% ในไตรมาส 2/68
แนวโน้มยังเผชิญความท้าทาย ฝ่ายบริหารปรับลดเป้าหมายการเติบโตของรายได้ปี 68 ลงเหลือ 5-10% (จากเดิม 10-15%) อย่างไรก็ตาม เรามองว่าเป้านี้ยังยากที่จะทำได้ เนื่องจาก 1) รายได้มีแนวโน้มลดลงจากปีก่อน ต่อในครึ่งหลังปี 68 จากยอดขายโครงการ (project-based) ที่ชะลอ ความต้องการเสื้อฟุตบอลลดลงหลังจากทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทยไม่ผ่านการคัดเลือกไปฟุตบอลโลก 2026 รวมถึงสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับผู้เล่นรายใหม่, 2) อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) มีแนวโน้มลดลงเหลือ 48-49% ใน 2H25F จากสัดส่วนยอดขายสินค้าลิขสิทธิ์ที่มีมาร์จิ้นสูงลดลง
ค่าใช้จ่ายดำเนินงานยังคงสูง จากการขยายสาขา โดยมีแผนเปิดสาขา 13 แห่งในครึ่งหลังปี 68 (ปัจจุบันมี 17 สาขา แต่จะปิด 10 สาขาที่ไม่ทำกำไร) ส่วนธุรกิจในต่างประเทศยังคงขาดทุน จึงปรับคำแนะนำเป็น Fully Valued (เดิมถือ) ปรับราคาพื้นฐานเป็น 1.50 บาท โดยเราปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 68-69 ลง 59%/36% สะท้อนยอดขายและมาร์จิ้นลดลง รวมทั้งค่าใช้จ่ายดาเนินงานเพิ่มขึ้น
อนึ่ง พอร์ตลงทุนของ"ทวีฉัตร จุฬางกูร" มีดังนี้
AF 67,893,800 หุ้น คิดเป็น 4.24 %
AIRA 1,398,104,298 หุ้น คิดเป็น 22.14 %
ALT 7,000,000 หุ้น คิดเป็น 0.62 %
AMATAV 25,739,604 หุ้น คิดเป็น 2.41 %
APURE 36,899,880 หุ้น คิดเป็น 3.85 %
ASAP 94,295,700 หุ้น คิดเป็น 12.99 %
BAM 13,733,700 หุ้น คิดเป็น 0.42 %
BEC 284,844,000 หุ้น คิดเป็น 14.24 %
CI 244,444,200 หุ้น คิดเป็น 22.91 %
FN 86,253,200 หุ้น คิดเป็น 8.63 %
GRAMMY 134,735,723 หุ้น คิดเป็น 16.43 %
GSTEEL 432,208,900 หุ้น คิดเป็น 1.49 %
IFS 5,334,900 หุ้น คิดเป็น 1.08 %
INET 5,038,100 หุ้น คิดเป็น 0.84 %
JCKH 5,472,322 หุ้น คิดเป็น 1.03 %
KASET 13,500,000 หุ้น คิดเป็น 4.86 %
KKC 13,231,600 หุ้น คิดเป็น 0.88 %
LOXLEY 96,022,100 หุ้น คิดเป็น 4.24 %
MODERN 50,474,500 หุ้น คิดเป็น 6.73 %
MUD 66,380,800 หุ้น คิดเป็น 6.3 %
NNCL 506,006,000 หุ้น คิดเป็น 24.7 %
NWR 38,486,800 หุ้น คิดเป็น 1.49 %
ONEE 96,668,200 หุ้น คิดเป็น 4.06 %
SAMART 12,112,000 หุ้น คิดเป็น 1.2 %
SDC 106,234,600 หุ้น คิดเป็น 0.31 %
SE-ED 97,950,000 หุ้น คิดเป็น 24.99 %
SST 62,059,832 หุ้น คิดเป็น 11.79 %
TAE 9,957,100 หุ้น คิดเป็น 1 %
TSC 21,942,600 หุ้น คิดเป็น 8.45 %
TVT 39,447,500 หุ้น คิดเป็น 4.93 %
TWPC 6,807,500 หุ้น คิดเป็น 0.77 %
WARRIX15,880,300 หุ้น คิดเป็น 2.65 %
WORK 3,460,000 หุ้น คิดเป็น 0.78 %