จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : ธุรกิจ “EV Bike-คาร์บอนเครดิต” หนุนรายได้ OTO โตยั่งยืน


23 มีนาคม 2566
ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับจักรยานยนต์ไฟฟ้า และการซื้อขายคาร์บอนเครดิต นับเป็นธุรกิจแห่งโลกอนาคตที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนและเข้มแข็ง จากกระแสการลดภาวะโลกร้อน  ซึ่งส่งผลดีต่อ บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ (OTO) ให้มีการเติบโตที่แข็งแกร่ง
รายงานพิเศษ ธุรกิจEV Bike-คาร์บอนเครดิต หนุนรา230323.jpg
ปี 2023 นี้ ถือว่าเป็นปีที่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้น เนื่องจากน้ำมันมีราคาแพง และการรัฐบาลมีนโยบายลดภาวะโลกร้อน การใช้พาหนะที่ใช้พลังงานทดแทนอย่างไฟฟ้าจึงเริ่มได้รับความนิยมในการซื้อมาใช้งาน

สำหรับการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันแตกต่างจากอดีตอย่างมาก เพราะมีการออกแบบทั้งพลังงานแบตเตอรี่ ตัวเครื่องยนต์ ให้มีพละกำลังและประสิทธิภาพที่สูงขึ้น จึงทำให้คนรุ่นใหม่หันมาเลือกใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 

ดังนั้น ตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในประเทศไทยจึงยังคงเปิดกว้างอยู่มาก อีกทั้งรัฐบาลไทยอนุญาตให้ผู้นำเข้าอิสระสามารถเป็นตัวแทนจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นต่าง ๆ มาเป็นตัวเลือกให้กับนักขับขี่

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ยอดขายรถจักรยานยนต์ทั้งปี 64 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.53 ล้านคัน หรือขยายตัวเพียง 1% จากปี 63  โดยจักรยานยนต์บิ๊กไบค์รุ่นขนาด 251- 400 ซีซี ที่ได้รับปัจจัยบวกจากการเป็นกลุ่มจักรยานยนต์ไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมในตลาดผู้บริโภคที่มีฐานรายได้มั่นคง และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งได้รับความสนใจมากขึ้นเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการถือครองต่ำกว่ารถจักรยานยนต์ใช้น้ำมัน   

 อย่างไรก็ตาม รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มีการทำตลาดในปัจจุบัน ยังเป็นเพียงกลุ่มตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ากระแสใหม่ทั้งรูปแบบการนำเข้ามาและผลิตเองในประเทศ  ซึ่งประกอบด้วย 2 กลุ่มคือ กลุ่มธุรกิจพลังงานที่ต้องการรุกตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อโอกาสในการสร้างรายได้จากพลังงานทางเลือกอื่นทดแทนน้ำมันที่จะลดบทบาทลงเรื่อยๆ ในอนาคต 

และกลุ่มผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าหรือที่ร่วมทุนกับนักลงทุนต่างประเทศซึ่งเป็นหน้าใหม่ในวงการรถจักรยานยนต์ ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้สามารถสร้างส่วนแบ่งการตลาดให้กับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าได้เพียง 0.2% ของตลาดรถจักรยานยนต์รวมในปัจจุบันเท่านั้น เนื่องจากยังมีจุดอ่อนสำคัญในด้านระดับราคาแบตเตอรี่ที่ยังอยู่ในระดับสูง ยากต่อการเข้าถึงตลาดผู้ซื้อหลักกลุ่มฐานรากอย่างเกษตรกรและผู้ใช้แรงงาน  ขณะที่การชาร์จพลังงานไฟฟ้าก็ยังไม่ตอบโจทย์ผู้ซื้อเท่าที่ควรทั้งในแง่ความสะดวกและระยะเวลาในการชาร์จ  

ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการอาศัยจังหวะนี้รุกชิงส่วนแบ่งตลาดในลักษณะที่มั่นคงระยะยาว ก่อนที่ค่ายรถจักรยานยนต์กระแสหลักจะลงมาลุยตลาดในปี 2567 อาจต้องแสวงหาความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้นในการพัฒนาแพลตฟอร์มรถจักรยานยนต์เพื่อการใช้แบตเตอรี่ไฟฟ้าร่วมกัน เพื่อให้เกิดการสร้างแพลตฟอร์มร่วมอันจะทำให้ต้นทุนการผลิตรถจักรยานยนต์ลดลงอย่างรวดเร็วจากผลของ Economies of Scale  

นอกจากเรื่องระบบขับเคลื่อนที่ใช้พลังงานไฟฟ้าสิ่งที่จะมีการกล่าวถึงมากขึ้นในอนาคต คงหนีไม่พ้นเรื่องคาร์บอนเครดิต ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรหรือหน่วยงานที่ดำเนินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่สิ่งแวดล้อม โดยหนึ่งในเครื่องมือเหล่านั้นคือการซื้อขายปริมาณการกักเก็บคาร์บอนในธรรมชาติ  ซึ่งในอนาคตการซื้อขายคาร์บอนเครดิต จะสร้างรายได้ที่เข้มแข็งและยั่งยืนให้กับภาคธุรกิจได้

ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า หรือคาร์บอนเครดิต  นับเป็นNew S-Curve ซึ่งสอดรับกับธุรกิจใหม่ของบริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) (OTO)  “คณาวุฒิ วรรทนธีรัช”  ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า บริษัทมีแผนแตกไลน์ 2 ธุรกิจใหม่ เพื่อสร้าง New S Curve ให้กับบริษัทฯ สอดรับเมกะเทรนด์  ซึ่งในส่วนของธุรกิจ EV Bike คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ภายในครึ่งปีแรกของปี 66 เป็นต้นไป ส่วนธุรกิจใหม่ Carbon Credit ที่บริษัทฯ เตรียมเข้าลงทุน คาดว่าจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันรายได้ในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
  
สำหรับธุรกิจหลักของบริษัทฯ ทั้ง Call Center และ Contact Center ในปี 65 ฟื้นตัวได้อย่างโดดเด่น อีกทั้งมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการให้บริการสื่อสารการตลาดบนแพลตฟอร์มเกมส์ออนไลน์ และการแข่งขันกีฬาอีสปอรต ของบริษัทย่อยที่ได้มีการลงทุนในช่วงต้นปี 2565 ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน 620.5 ล้านบาท (ไม่รวมรายได้อื่นๆ) เพิ่มขึ้น 23 ล้านบาท หรือ 3.9% เทียบกับปี 64 และมีกำไรจากการดำเนินงาน 44.8 ล้านบาท
OTO