รายงานพิเศษ : TIDLOR สินเชื่อโตก้าวกระโดด พอร์ตโฟลิโอแข็งแกร่ง หนุนผลงานเติบโตอย่างมีคุณภาพ
บมจ.ติดล้อ โฮลดิ้งส์ (TIDLOR) สินเชื่อไตรมาส3 เติบโตอย่างมีคุณภาพ เดินหน้าสู่การทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยบล.ทิสโก้ ออกบทวิเคราะห์ บมจ.ติดล้อ โฮลดิ้งส์ (TIDLOR) โดยระบุว่า การเติบโตของสินเชื่อปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 3/68 (เราประเมินไว้ที่ประมาณ 2% จากไตรมาสก่อน)
ขณะที่อัตราผลตอบแทนปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน และต้นทุนทางการเงินก็ดีขึ้นกว่าที่บริษัทคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้เล็กน้อย ส่วนคุณภาพสินทรัพย์ยังคงทรงตัวจากไตรมาสก่อน โดยได้รับแรงหนุนจาก
1) พอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่ง (พอร์ตโฟลิโอที่ผ่านเกณฑ์)
2) อัตราการเก็บหนี้ที่ดี
3) โครงการช่วยเหลือทางการเงิน (ประมาณ 2% ของพอร์ตโฟลิโอ) สอดคล้องกับปัจจัยฤดูกาล คาดว่าอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงครึ่งหลัง (อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้อยู่ที่ประมาณ 55-56%)
ขณะเดียวกัน TIDLOR ได้เปิดสาขาใหม่ประมาณ 50 สาขาในช่วงครึ่งปีแรก เปิดสาขาใหม่ 33 สาขาในไตรมาส 3/68 และมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มอีกประมาณ 20 สาขาในไตรมาส 4/68
ดังนั้นเรามีมุมมองเชิงบวกโดยเชื่อว่า TIDLOR กำลังอยู่ในเส้นทางที่จะทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งใน 3Q25F การเติบโตของสินเชื่อที่ชะลอตัวลงเล็กน้อยนับตั้งแต่ต้นปี
สอดคล้องกับเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวกว่าที่คาดการณ์ไว้ เราคาดว่าสถาบันการเงินส่วนใหญ่จะเริ่มปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และเร่งการเติบโตของสินเชื่อตั้งแต่ไตรมาส 4/68 เป็นต้นไปจนถึงปี 69 (ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น)
สำหรับไตรมาส 3/68 อัตราผลตอบแทน ต้นทุนทางการเงิน และต้นทุนสินเชื่อที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ช่วยหนุนกำไรสุทธิ จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ TIDLOR โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 19.00 บาท
ด้านนายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจที่ผ่านมาของ Tidlor Holdings และกลุ่มบริษัท ยังคงยึดมั่นแนวทางสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพทั้งธุรกิจสินเชื่อและธุรกิจนายหน้าประกัน โดยที่ผ่านมาหลังจากบริษัทเริ่มดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันในปี 2559 สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่องเฉลี่ยมากกว่า 40% ต่อปี ซึ่งเปอร์เซ็นต์การเติบโตเฉลี่ยเมื่อเทียบกับธุรกิจสินเชื่อมากกว่า 2 เท่า
ซึ่งถือเป็นการบริหารจัดการความเสี่ยงและสร้างสมดุลให้กับภาพรวมธุรกิจของ Tidlor Holdings และกลุ่มบริษัทได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ช่วงที่ผ่านมาหลังจากปรับโครงสร้างองค์กรเป็น Holding แล้ว บริษัทได้ปรับโครงสร้างทีมผู้บริหารระดับสูงเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจสินเชื่อและธุรกิจนายหน้าประกัน ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพตามเป้าหมายที่วางไว้