“เสี่ยสุระ” ติดโผผู้ถือหุ้น BA เดือน ก.ย.68 ถือครอง 10.85 ล้านหุ้น กอดคอ “พงศ์ศักดิ์” รับปันผลเพียบ!
ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในส่วนโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BA ณ วันที่ 11 ก.ย. 68 พบว่า มี"สุระ คณิตทวีกุล"ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) (COM7) และในฐานะนักลงทุนรายใหญ่ชื่อดังได้เข้ามาถือหุ้น BA จำนวน 10,850,000 หุ้นคิดเป็น 0.52% จากโครงสร้างผู้ถือหุ้นครั้งก่อนในเดือนมี.ค.68 ไม่ปรากฎรายชื่อในการถือครอง
ขณะเดียวกัน ยังเห็นว่า "น.พ. พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี"หรือเสี่ยพงศ์ศักดิ์"ยังคงถือครองในสัดส่วนใกล้เคียงเดิม จำนวน 19,652,500 หุ้น คิดเป็น 0.94% จากเดิมถือ 19,622,500 หุ้น คิดเป็น 0.93%
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2568 BA ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท ส่งผลให้นักลงทุนรายใหญ่ได้รับเงินปันผลจำนวนไม่น้อย โดย"สุระ คณิตทวีกุล" ได้รับเงินปันผล 5,425,000 บาท และ"น.พ. พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี"ได้รับเงินปันผล 9,826,250 บาท
สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้นเดือนก.ย.68 ราคาปรับตัวลดลง 2.22%
ส่วนโครงสร้างผู้ถือหุ้น BA ล่าสุดประกอบด้วย
-
นาย พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ 523,387,900 หุ้น คิดเป็น 92%
-
นาง อาริญา ปราสาททองโอสถ 243,440,900 หุ้น คิดเป็น 59%
-
นาย ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ 238,942,000 หุ้น คิดเป็น 38%
-
น.ส. ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ 136,300,000 หุ้น คิดเป็น 49%
-
ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 105,000,000 หุ้น คิดเป็น 5%
-
นาง จารุณี ชินวงศ์วรกุล 95,999,900 หุ้น คิดเป็น 57%
-
บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 90,335,790 หุ้น คิดเป็น 3%
-
น.ส. สมฤทัย ปราสาททองโอสถ 77,542,900 หุ้น คิดเป็น 69%
-
บริษัท สินสหกล จำกัด 63,934,400 หุ้น คิดเป็น 04%
-
SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED 26,348,000 หุ้น คิดเป็น 25%
-
น.พ. พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี 19,652,500 หุ้น คิดเป็น 94%
-
บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) 17,905,600 หุ้น คิดเป็น 85%
-
บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) 13,496,300หุ้น คิดเป็น 64%
-
กองทุนเปิด บัวหลวงเฟล็กซิเบิ้ลเพื่อการเลี้ยงชีพ 12,350,200 หุ้น คิดเป็น 59%
-
นาย สุระ คณิตทวีกุล 10,850,000 หุ้น คิดเป็น 52%
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนะนำ ซื้อ BA ราคาพื้นฐาน 16.70 บาท เนื่องจาก แผนพัฒนาสนามบินและขยายฝูงบิน
โดยแผนการลงทุนมีความชัดเจนมากขึ้นในการพัฒนาสนามบินตราดและสนามบินสมุย ที่มีศักยภาพท่องเที่ยวทางภาคตะวันออกและสมุยที่เป็นเส้นทางหลัก รวมถึงแผนการปรับและเพิ่มฝูงบิน เพื่อการเติบโตระยะยาว โครงการสนามบินอู่ตะเภามีความล่าช้าอยู่มาก อาจยกเลิกสัญญาและเรียกเงินลงทุนคืนมองโครงการอาจไม่คุ้มค่าการลงทุนเหมือนตอนได้มา เพราะสถานการณ์ท่องเที่ยวเปลี่ยนไปและแผนพัฒนาของ AOT
ผู้บริหารประกาศพัฒนาสนามบินตราดและเริ่มพัฒนาสนามบินสมุย : คุณพุฒิพงศ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่กล่าวถึงแผนการลงทุนในการพัฒนาสนามบิน 2 แห่ง คือ
1.สนามบินตราดเพื่อให้เป็น Hub ภาคตะวันออก เงินลงทุน 800 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 เฟส ๆ ละ 400 ล้านบาท เฟสแรกเริ่มลงทุนปลายปีนี้และเสร็จไตรมาส 3/69 ประกอบด้วย การขยายรันเวย์จาก 1,800 เมตร เป็น 2,000 เมตร, สร้างลานจอดอากาศยาน, ปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเพิ่มพื้นที่เป็น 3,400 ตรม. รับผู้โดยสารได้สูงสุด 2.5 แสนคน/ปี และเพิ่มจำนวนเคาน์เตอร์เช็กอินเป็น 8 เคาน์เตอร์ ส่วนเฟส 2 รอดูดีมานด์การเดินทางของผู้โดยสาร ซึ่งสนามบินตราดมีผู้โดยสารราว 9 หมื่นคน/ปี
2. สนามบินสมุยก่อสร้างปลายปีนี้ -ต้นปี 2569 ให้ระยะเวลา 2 ปีเศษ งบลงทุน 3 พันล้านบาท เฟสแรกใช้งบ 1.5 พันล้านบาท รองรับเที่ยวบินจาก 50 เที่ยว เป็น 73 เที่ยวบิน/วัน (ปัจจุบัน 60 เที่ยวบิน) ผู้ โดยสารจาก 3 ล้านคน เป็น 6 ล้านคน (ทุกเฟสแล้วเสร็จ) พื้นที่พาณิชย์จาก 1,800 ตรม. เป็น 4,000 ตรม.
ขยายฝูงบินเพิ่มอีก 10 ลำ : ปัจจุบัน BA มีเครื่องบินที่ 23 ลำ ปี 2569 รับมอบเครื่องบินแอร์บัส 2-3 ลำ และได้เซ็นสัญญาซื้อเครื่องบินใหม่ ATR อีก 10 ลำ ใช้เงินลงทุน 6-7 พันลบ. จะรับมอบในปี 2569-2571 และมีแผนปรับฝูงบินซื้อเครื่องบินลำตัวแคบใหม่ 20 ลำ ซึ่งจะมีการทยอยคืนเครื่องบินเช่าเก่า คาดให้ยื่นข้อเสนอปลายปี 2569 เป้าจะให้มีเครื่องบินที่ 40 ลำเท่าก่อนโควิด
โครงการสนามบินอู่ตะเภาไม่คืบหน้า : UTP (ผู้ถือหุ้น BA:BTS:STECON=40%:40%:20%) หลังจากเซ็นสัญญามา 5 ปี ยังไม่สามารถก่อสร้างได้ เนื่องจากยังมีเงื่อนไขบางอย่างที่รัฐยังทำไม่ได้เช่น รถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โดยบอร์ด EEC ได้เลื่อนหนังสือแจ้งเริ่มงาน (NTP) มา 3 ครั้ง หากยังไม่มีข้อสรุป UTP อาจยกเลิกสัญญา และขอเงินลงทุน 4,000 ล้านบาท คืน ต้องติดตาม