จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : SSP ฐานะการเงินแข็งแกร่ง ทริสฯ คงเครดิตต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน สะท้อนกระแสเงินสดมั่นคง-กระจายความเสี่ยงดี


03 ตุลาคม 2568

บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ผลงานโดดเด่น ฐานะการเงินแข็งแกร่ง  สะท้อนจากที่ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรที่ "BBB+" แนวโน้ม"Stable" หรือ "คงที่" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ตั้งแต่ปี 2565 – 2568 หนุนรายได้โตแตะ 6 พันล้านบาทใน 3 ปี

SSP ฐานะการเงินแข็งแกร่ง_รายงานพิเศษ (เว็บ)_0.jpg

โดยนายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP  ระบุการคงอันดับเรทติ้งของทริส สะท้อนว่า SSP มีกระแสเงินสดที่มั่นคง จากโครงการส่วนใหญ่เป็นรูปแบบสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว (PPA) ที่ขายไฟให้แก่ภาครัฐ จึงมีความเสี่ยงต่ำ และจากการกระจายความเสี่ยงที่ดีของพอร์ต ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ลม ชีวมวล และจากพลังงานขยะชุมชน ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งสร้างความสม่ำเสมอของรายได้

สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าของบริษัทฯ ที่ผ่านมา มีผลการดำเนินงานที่ดี สามารถบรรลุเป้าหมายเหนือ P50 โดยปริมาณการผลิตไฟฟ้าครึ่งปีแรก 2568 เติบโตเพิ่มขึ้น 3.2% แตะ 3 แสนเมกะวัตต์-ชั่วโมง นอกจากนั้น การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต (Repowering) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ SPN ในประเทศไทย จะทำให้โครงการดังกล่าว มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงการ เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการ LEO2 ในประเทศญี่ปุ่นสิ้นปีนี้ จะเป็นปัจจัยบวกต่อรายได้ในปี 2569       

ทั้งนี้ทริสเรทติ้งยัง คาดการณ์ว่า รายได้ของบริษัทฯ จะเติบโตสู่ 6 พันล้านบาท และมี EBITDA ที่ 4.5 พันล้านบาท ในปี 2571 จากการ COD โครงการใหม่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่สิ้นปี 2568 เริ่มจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO2 ในประเทศญี่ปุ่น ตามด้วย โรงไฟฟ้าขยะชุมชน 2 โครงการในประเทศไทย โรงไฟฟ้าพลังงานลม BAGO ในประเทศฟิลิปปินส์ และ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยอีก 3 โครงการ 

ด้านสภาพคล่องทางการเงิน บริษัทฯ มีเงินสด ณ สิ้นไตรมาส 2 จำนวน 2.9 พันล้านบาท รวมถึงมีแหล่งเงินทุนที่หลากหลาย ทั้งจาก EPC Financing และการทำ Asset Recycling โครงการยามากะ ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้ บริษัทฯ สามารถขยายการลงทุนได้ต่อเนื่องโดยไม่กระทบกับอัตราส่วนหนี้สิน          

"การจัดอันดับเครดิตองค์กรที่ BBB+  สะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของโรงไฟฟ้าในพอร์ตขนาดกำลังผลิตติดตั้ง 340 เมกะวัตต์ รวมถึงความมั่นคงของรายได้จากการที่โครงการส่วนใหญ่เป็นรูปแบบสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว (PPA) ที่มีภาครัฐเป็นผู้ซื้อ ตลอดจนการบริหารความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนที่ดี 

นอกจากนี้ เรายังเพิ่มขีดความสามารถและโอกาสในการลงทุนด้วยการเข้าลงทุนในประเทศอื่น ๆ ที่มีศักยภาพ โดยพิจารณาการลงทุนอย่างรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนนั้นจะสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้น และจะส่งผลให้บรรลุเป้าหมายการเติบโต 2 เท่า ใน 3 ปีโดยขยายกำลังการผลิตไปสู่ 690 เมกะวัตต์ หนุนรายได้แตะ 6 พันล้านบาท " นายวรุตม์ กล่าว

SSP