รายงานพิเศษ : IND ธุรกิจเติบโตก้าวกระโดด ร่วมประมูลงานภาครัฐ-เอกชน คมนาคมเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
บมจ.อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (IND) ผลงานปีนี้เติบโตต่อเนื่อง พร้อมร่วมประมูลงานภาครัฐและเอกชน ด้านรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมประกาศเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สู่ศูนย์กลางคมนาคมของภูมิภาค
การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภายใต้การนำของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม กลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง จากการมอบนโยบายและทิศทางการทำงาน ภายใต้แนวคิด "เดินทางสะดวก ปลอดภัย ลดภาระประชาชน วางโครงสร้างพื้นฐานสมัยใหม่ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สู่ศูนย์กลางคมนาคมของภูมิภาค"
ซึ่งการวางรากฐานคมนาคมสำหรับอนาคตในระยะยาว มีโครงการสำคัญ เช่น โครงการ LANDBRIDGE ที่จะเชื่อมการคมนาคมทางราง ถนน ท่อ และ ท่าเรือ เพื่อยกระดับไทยสู่ศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค ตลอดจนการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ อาทิ ขอนแก่น-หนองคาย บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม และเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ รวมถึง รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-โคราช
ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จะเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มและสีม่วง พร้อมเร่งรัดการต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีแดงทั้งฝั่งเหนือและตะวันตก
ขณะเดียวกัน จะเพิ่มศักยภาพสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และเชียงใหม่ เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสาร และการท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่อง รวมถึงการสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ และสะพานเชื่อมทะเลสาบสงขลา เพื่อลดเวลาการเดินทางระหว่างจังหวัด นอกจากนี้จะมีการปรับปรุงกฎหมายด้านคมนาคมให้ทันสมัย รองรับเทคโนโลยีและบริการรูปแบบใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น
"นโยบายคมนาคมในยุครัฐบาลนี้ จะเป็นการพัฒนาระบบคมนาคม เพื่อการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับพี่น้องประชาชน และ ยกระดับการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลก เพื่อการเติบโตของเศษฐกิจของประเทศไทยอย่างยั่งยืน" นายพิพัฒน์ กล่าว
ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า มูลค่าการลงทุนก่อสร้างภาครัฐทั้งปี 2568 จะอยู่ที่ 8.8 แสนล้านบาท โต 6.4% จากปีก่อน โดยแรงหนุนหลักมาจากการเร่งเบิกจ่าย และผลของฐานต่ำในช่วงครึ่งปีแรก
อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 การลงทุนภาครัฐมีแนวโน้มหดตัว -6.8% จากปีก่อน ตามผลของฐานสูง และอาจยังไม่มีโครงการเมกะโปรเจกต์ใหม่ที่อนุมัติเพิ่ม โดยโครงการสำคัญที่คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในช่วง Q4-68 ได้แก่ มอเตอร์เวย์ M7 เชื่อมสนามบินอู่ตะเภา ทางหลวงพิเศษฉลองรัชส่วนต่อขยาย และท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 (LNG Terminal)
ทั้งนี้แม้มูลค่าการลงทุนก่อสร้างภาครัฐจะมีสัดส่วน 61% ของมูลค่าการลงทุนรวม แต่ยังมีประเด็นติดตามที่อาจกระทบมูลค่าการลงทุนในระยะข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็น การเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐยังอยู่ในระดับต่ำ รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองที่อาจส่งผลให้การพิจารณาโครงการใหม่ๆ ล่าช้าออกไป
นโยบายการลงทุนของภาครัฐจะกระตุ้นการบริโภคและส่งผลดีต่อธุรกิจของ บมจ.อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (IND) โดย ดร.พรลภัส ณ ลำพูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ย้ำว่า บริษัทฯ พร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ จากภาครัฐ-รัฐวิสาหกิจและเอกชนอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนรายได้และกำไรให้เติบโตตามเป้าหมาย โดยเน้นพัฒนากระบวนการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขัน ขยายฐานลูกค้า และสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หนุนผลงานเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต
"บริษัทฯ มองว่าภาคการก่อสร้าง และการลงทุนในครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวดีขึ้น เห็นได้จากยังมีงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่นๆ ที่ยังมีแนวโน้มขยายตัว โดย IND มีความพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลงานรับเหมาติดตั้งระบบวิศวกรรมโครงการออกแบบ และก่อสร้างใหม่ๆ และเน้นรับงานโครงการใหม่ๆ ที่มีคุณภาพ มีกำไร และลักษณะโครงการที่สอดคล้องกับการบริหารจัดการความเสี่ยง ที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของรายได้ในอนาคต" ดร.พรลภัส กล่าว