Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 29-09-25 (ทองคำ..เอาไง! ขายหรือลงทุนต่อดี?)


29 กันยายน 2568

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 29-09-25 (ทองคำ..เอาไง! ขายหรือลงทุนต่อดี?)

 

29-09-25 สวัสดี “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ 

***ศุกร์ที่ผ่านมา ดาวโจนส์ปิดที่ 46,247.29 จุด เพิ่มขึ้น 299.97 จุด หรือ +0.65%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,643.70 จุด เพิ่มขึ้น 38.98 จุด หรือ +0.59% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,484.07 จุด เพิ่มขึ้น 99.37 จุด หรือ +0.44% แต่ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.2%, ดัชนี S&P500 ลดลง 0.3% และดัชนี Nasdaq ลดลง 0.7%

***รายงานข่าวระบุว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (26 ก.ย.) หลังข้อมูลเงินเฟ้อเป็นไปตามคาด แต่ดัชนีหุ้นหลักทั้ง 3 ตัวปิดลบในรอบสัปดาห์นี้ โดยดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ยุติการปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 3 สัปดาห์

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 2.6% ในเดือนก.ค. และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.3% สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.2% ในเดือนก.ค.

***ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้น 2.9% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากปรับตัวขึ้น 2.9% เช่นกันในเดือนก.ค. และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.2% สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากปรับตัวขึ้น 0.2% เช่นกันในเดือนก.ค.

ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

***ส่วนตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ กูรูหุ้นประเมินแนวโน้ม SET INDEX คาดว่าจะแกว่งผันผวน รอติดตามการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันที่ 29 ก.ย. นี้ นักลงทุนรอติดตามนโยบายเพิ่มเติม ซึ่งหากไม่มีนโยบายใหม่ที่มีผลเชิงบวกต่อตลาดอาจมีแรงขายทำกำไรได้

***สำหรับสัญญาณทางเทคนิค มีแนวรับที่ 1,270 และ 1,245 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,300 และ 1,315 จุด ตามลำดับ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิตและการบริการ ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานเดือนก.ย. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ย. และดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนส.ค. ของยูโรโซน ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนก.ย. ของยูโรโซน ญี่ปุ่น และจีน ตลอดจนยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. ของญี่ปุ่น

***มาถึงเรื่องทองคำบ้าง..มีคำถามเยอะมากกกกกก!!! จะเอายังไงดีกับทองคำที่มีในมือ จะขายออกไป หรือจะถือลงทุนต่อไปดี!!!..มาค่ะตรงนี้มีคำตอบ!!!

***กูรูหุ้นประเมินแนวโน้มราคาทองคำสัปดาห์นี้มีโอกาสที่จะไปต่อได้ง่ายๆ  ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดแนวโน้มเป็นขาขึ้นมากกว่า จากหลากหลายปัจจัยที่เข้ามาสนับสนุน โดยมีปัจจัยหลักสำคัญสามเรื่องคือ สงคราม (ตอนนี้มีประเด็นเรื่องการบินโดรนของรัสเซีย)  เรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ถูกมองว่ายังอยู่ในระดับสูง..น่าจะต้องปรับลดลงอีก นอกจากนี้ยังเรื่องการเก็บภาษีของสหรัฐ อาทิ เรื่องยา และอื่นๆ ที่ออกมาช่วงนี้ เป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำด้วย

***ส่วนสัญญาณทางเทคนิค การย่อรอบนี้ตกลงแค่ 70-80 เหรียญน้อยมากๆ  ขึ้นมา 200-300 เหรียญ โดยไม่ได้หยุดพักเลย..แต่จากข่าวต่างๆ ที่ออกมาหนุนราคาทองคำทั้งหมด ดังนั้นมองว่ายากที่จะทำให้ราคาลงแรงๆ ได้ แนวรับสำคัญตอนนี้คือ 3720  สำหรับนักลงทุนที่เก็บลงทุนยาวๆ ทางธนาคารต่างๆ มองเลย 4000 เหรียญ สำหรับปีหน้า บวกกับค่าเงินบาทอ่อนลงมาจากเรื่องการปรับลดเครดิต (เช้าวันเสาร์แตะ 57,400 บาทแล้ว) คำแนะนำสำหรับท่านที่เก็บลงทุนยาวๆ ทยอยเข้าซื้อได้ตลอด  แต่สำหรับคนเทรดระยะสั้นไม่แนะนำให้เข้าเพราะราคาสูงมากถ้าบริหารไม่ดีอาจขาดทุนได้

***ทางเทคนิคถ้าผ่านมองเป้าบนโกลด์สปอต ถ้าทะลุไฮเดิม 3790 เหรียญได้..มองต่อไปที่ 3850-3900 เหรียญ ส่วนทองไทยมีการประเมินว่า 60,000 บาทน่าจะได้เห็นแต่คาดว่าปีหน้าน่าจะได้เห็น ..แต่ระยะสั้นๆ ช่วงนี้อาจได้เห็นแตะที่ 58,000 บาทได้ แต่ต้องดูเงินบาทประกอบด้วย