รายงานพิเศษ : JR รุกงานมาร์จิ้นสูง พร้อมลุย Oil & Gas และ Green Energy หนุนรายได้โตอย่างมั่นคง
บมจ.เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ (JR) พลิกกลยุทธ์สู้ศึกเศรษฐกิจ ปักธง! มุ่งเน้นประมูลกลุ่มงานมาร์จิ้นสูง และ งาน “Quick Win” ควบคู่การบริหาร Backlog อย่างมีประสิทธิภาพ เน้นควบคุมต้นทุน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว เดินหน้า ลุยธุรกิจ Oil & Gas และ Green Energy
การลงทุนภาครัฐหนุนธุรกิจรับเหมาฯ
ท่ามกลางปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน อุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างไทยในปี 2568–2569 ยังมีแนวโน้มเติบโตตามมูลค่าการลงทุนโดยรวมที่คาดว่าจะขยายตัว 3–4% ต่อปี โดยเฉพาะภาครัฐที่มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น รถไฟฟ้า ทางหลวง และเมืองอัจฉริยะ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไทยต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้รับเหมาฯ จีนที่มีต้นทุนต่ำและเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความท้าทายจากราคาวัสดุก่อสร้างที่ผันผวนและการขาดแคลนแรงงานฝีมือ
JR สร้างโอกาสเติบโตทางธุรกิจ
บมจ.เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ (JR) เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีโอกาสเติบโตทางธุรกิจ จากงานบริการหลักที่ประกอบด้วย 1.ธุรกิจรับเหมาวางระบบ (Turnkey Project) ทั้งงานระบบไฟฟ้า (Electrical Power System) ที่ให้การออกแบบ จัดหา ก่อสร้าง และติดตั้งระบบไฟฟ้าครบวงจร รวมถึงสายส่งไฟฟ้าแรงสูง (High Voltage Transmission Line System) และสถานีไฟฟ้าย่อย (High Voltage Substation) รวมถึงงานเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน ระบบสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (Telecom & ICT) ซึ่งรวมถึงการออกแบบ จัดหา ติดตั้งอุปกรณ์ วางระบบรวมทั้งให้คำปรึกษาด้านระบบสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ
2.ธุรกิจการให้บริการซ่อมบำรุงรักษา (Maintenance) โดยบริษัทฯ ให้บริการซ่อมและบำรุงรักษาอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า และระบบสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ และ 3.ธุรกิจการจำหน่ายอุปกรณ์ (Supply) บริษัทฯ จำหน่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า และระบบสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ
เน้นรับงานมาร์จิ้นสูง
“สุรเดช อุทัยรัตน์” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JR ระบุว่า แนวโน้มธุรกิจในปี 2568 มีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการลงทุนภาครัฐ-เอกชน โดยบริษัทฯ มีความพร้อมเข้าร่วมประมูลงานใหม่เพื่อขยายธุรกิจและรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ซึ่ง JR จะปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลง โดยเน้นงานที่มีมูลค่าเพิ่มสูงและใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
เดินหน้ากลยุทธ์ “Quick Win” ต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ JR ได้มุ่งเน้นรับงานประเภท Quick Win ซึ่งสามารถรับรู้รายได้ได้รวดเร็ว ช่วยเสริมกระแสเงินสดและความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ พร้อมทยอยส่งมอบงานในมือ (Backlog) ตามแผนที่วางไว้ เน้นบริหารควบคุมต้นทุนอย่างมประสิทธิภาพโดยปัจจุบันมี Backlog อยู่ที่ 7,039 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ภายใน 1–3 ปีข้างหน้า
ผลงานครึ่งปีแรกสะท้อนความสำเร็จ
ล่าสุด JR ประกาศผลประกอบการครึ่งแรกปี 2568 ด้วยรายได้รวมกว่า 805.10 ล้านบาท เติบโต 17.54% จากปีก่อน สะท้อนความสำเร็จจากกลยุทธ์ “Quick Win” ที่ช่วยเร่งการรับรู้รายได้ ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 21.04 ล้านบาท สะท้อนถึงการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและการเลือกกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ตลาด พร้อมเดินหน้าธุรกิจครึ่งปีหลัง ด้วยแผนการเข้าประมูลงานใหม่เสริมพอร์ต ท่ามกลางการแข่งขันในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างไทยที่เข้มข้นจากทั้งผู้เล่นในประเทศและต่างชาติ
ไตรมาส 2/68 รายได้พุ่งแรงกว่า 50%
หากพิจารณาจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2568 บริษัทฯ มีรายได้รวม 503.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 52.81% จากไตรมาสเดียวกันของปี 2567 โดยมีกำไรสุทธิ 22.04 ล้านบาท ถือเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดที่สะท้อนถึงความสามารถในการส่งมอบงานและควบคุมต้นทุนได้ดี
เดินหน้า Oil & Gas และ Green Energy
ปัจจุบันบริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจกลุ่ม Oil & Gas ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและคู่แข่งน้อย อีกทั้งยังมีมาร์จิ้นสูง นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นงานด้าน Green Energy เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงและตอบรับกับแนวโน้มการพัฒนาอย่างยั่งยืน
JR กำลังเดินเกมธุรกิจอย่างชาญฉลาดในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างไทยกำลังปรับตัวจากแรงกดดันด้านต้นทุนและการแข่งขันจากต่างชาติ การเลือกโฟกัสในกลุ่มงานที่มีมาร์จิ้นสูงและการบริหาร Backlog อย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นจุดแข็งที่ช่วยให้ JR ยืนหยัดและเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว