จับประเด็นหุ้นเด่น

สัมภาษณ์พิเศษ : NKT วางกลยุทธ์การเติบโต เปิด “นครธน 2 – นครธนเวลเนสเซ็นเตอร์” หวังขยายฐานลูกค้ารองรับสังคมสูงวัย


19 กันยายน 2568

ประเทศไทยได้เข้าสู่ "สังคมสูงวัย" (Aged Society) อย่างเต็มรูปแบบ โดยคาดการณ์ว่า สัดส่วนของประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจะเพิ่มขึ้นถึง ร้อยละ 20-30 ของจำนวนประชากรทั้งหมด  ซึ่งแนวโน้มนี้จะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างแรงงานและทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยจำนวนประชากรวัยทำงานที่ลดลงจะทำให้เกิดภาระในการดูแลผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น  ในปี 2567 อัตราส่วนพึ่งพิงผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 31.1 จากเดิมร้อยละ 10.7 ในปี 2537  

NKT_สัมภาษณ์พิเศษ S2T (เว็บ) copy_0.jpg

บมจ.โรงพยาบาลนครธน (NKT) มองเห็นโอกาสในเรื่องสังคมสูงวัย และแนวทางการให้บริการลูกค้ากลุ่มนี้ อย่างไร เราไปติดตามการให้ข้อมูลนี้กับ แพทย์หญิงศิเรมอร ทองสิมา ผู้อำนวยการสายงานแพทย์ NKT

ที่มาของ รพ.นครธน

รพ.นครธนเปิดให้บริการกับลูกค้าในพื้นที่ถนนพระราม 2 ปีนี้เป็นปีที่ 29  โดยเป็นโรงพยาบาลที่รับรักษาโรคทั่วไป ระดับตติยภูมิ เป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการรักษาโรคได้ทุกแผนก และปัจจุบันได้พัฒนาในการรับรักษาโรคที่ยากขึ้น มีเครื่องมือที่ทันสมัย  ลดระยะเวลาการฟื้นตัว ทำให้คนไข้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น  ประหยัดค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการนอนโรงพยาบาล

ความพร้อมของ NKT ในการรับมือกับสังคมผู้สูงอายุ

โรงพยาบาลนครธนกำลังเตรียมความพร้อมรับมือกับสังคมผู้สูงอายุและการดูแลสุขภาพในระยะยาวผ่านโครงการสำคัญคือ "นครธนเวลเนสเซ็นเตอร์" (Nakornthon Wellness Center) ซึ่งเป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ เพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มของสังคมผู้สูงอายุในอนาคต

คุณสมบัติของลูกค้าที่จะเข้าใช้บริการ

ศูนย์นี้จะดูแลผู้สูงอายุทั้งที่มีภาวะพึ่งพิงและผู้ที่สามารถอยู่แบบโฮมแคร์ได้  

◦ กลุ่มเป้าหมายรวมถึงผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลแบบ "Intermediate Care" หรือ "After Care" หลังจากการรักษาพยาบาล เช่น:

▪ ผู้ป่วยหลังภาวะหลอดเลือดสมอง (stroke) ที่อาจไม่จำเป็นต้องผ่าตัด.

▪ ผู้ป่วยหลังผ่าตัดที่ต้องทำกายภาพบำบัดทุกวัน ซึ่งหากดูแลที่บ้านอาจต้องใช้กำลังคนจำนวนมาก.

▪ ผู้สูงอายุที่มีภาวะติดเตียง หรือผู้ที่ต้องให้อาหารทางสายยาง.

▪ ผู้ที่ต้องการการดูแลเรื่องการขับถ่าย การทำความสะอาด และการเปลี่ยนผ้าอ้อม ซึ่งครอบครัวอาจไม่สะดวกดูแล

ขนาดและการบริการ

◦ "นครธนเวลเนสเซ็นเตอร์" จะมีขนาด 85 เตียง.

◦ มีการแบ่งประเภทห้องพักตามระดับความต้องการของผู้ป่วย โดยจะมีห้องพักเดี่ยว, พักคู่, พัก 4 ท่าน และห้องพักเดี่ยวแบบซูเปอร์ (Super VIP) ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย.

◦ สถานที่ออกแบบให้มีความสงบ น่าอยู่ มีสวนพักผ่อน และจัดกิจกรรมสำหรับผู้เข้าพัก.

◦ จะมีการย้ายแผนกกายภาพบำบัดมาอยู่ในโลเคชั่นเดียวกันเพื่อรองรับการทำกายภาพของผู้ที่มาพักอาศัย.

การเปิดโรงพยาบาลใหม่ จะส่งผลดีต่อบริษัท

โครงการโรงพยาบาลนครธน 2 เป็นการเปิดสาขาแห่งที่สองของโรงพยาบาล  ซึ่งส่งผลดีต่อโรงพยาบาลทั้งเรื่องการเติบโตและรายได้

ด้านขยายฐานลูกค้าและพื้นที่ให้บริการ:

โรงพยาบาลสาขาแห่งที่สองจะตั้งอยู่บนถนนเอกชัย ช่วงบางบอน ซึ่งห่างจากโรงพยาบาลนครธนเดิมประมาณ 7-8 กิโลเมตร โดยมีเป้าหมายในการดูแลกลุ่มผู้ป่วยและครอบครัวที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ฝั่งธนบุรี ได้แก่ บางบอน เขตบางขุนเทียน จอมทอง ราษฎร์บูรณะ บางแค อาจจะรวมไปถึงมหาชัยและสมุทรสาคร การขยายพื้นที่นี้จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงบริการของโรงพยาบาลและขยายฐานผู้ป่วยได้มากขึ้น

การรองรับผู้ป่วยประกันสังคม:

นครธน 2 มีแผนที่จะดูแลลูกค้าที่เป็นผู้ประกันตนหรือผู้ใช้สิทธิประกันสังคม ซึ่งปัจจุบันนครธน 1 ยังไม่ได้ดูแลในส่วนนี้มากนัก ยกเว้นบางแผนก การรับผู้ป่วยประกันสังคมนี้จะเริ่มได้ในปี 2573 ซึ่งเป็นการเปิดตลาดใหม่และสร้างรายได้จากผู้ป่วยกลุ่มใหญ่ที่มีความต้องการบริการทางการแพทย์

การลงทุนที่มีประสิทธิภาพ

เนื่องจากการบริหารจัดการบางส่วน (เช่น ห้องปราศจากเชื้อ อุปกรณ์ เครื่องมือ หรือการแชร์ management) สามารถใช้ร่วมกับโรงพยาบาลนครธน 1 ได้ ทำให้การลงทุนไม่สูงจนเกินไป โดยเริ่มเปิดให้บริการประมาณ 100 เตียงก่อนในระยะแรก

การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

เพราะการมีโรงพยาบาลสาขาเพิ่มขึ้น  เป็นการเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโรงพยาบาล

งบลงทุนในโรงพยาบาลใหม่และนครธนเวลเนสเซ็นเตอร์"

รพ.นครธน งบลงทุนอยู่ที่ประมาณ 900  ล้านบาท   ขณะที่ Long Life Center ใช้งบลงทุนอยู่ที่ประมาณ 550  ล้านบาท   

จุดเด่นของรพ.นครธนที่แตกต่างจากรพ.แห่งอื่น

โรงพยาบาลนครธนมีจุดเด่นด้านการให้บริการรักษาโรคที่ซับซ้อน ทำเลที่ตั้งโดดเด่นอยู่บริเวณพระราม 2 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น มีฐานลูกค้า Loyalty ดำเนินการมาเกือบ 29 ปี มีศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง 20 ศูนย์ แพทย์ผู้มีประสบการณ์จำนวนมาก และมีการร่วมมือกับโรงพยาบาลชั้นนำ เช่น โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนในเทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อการรักษาโรคซับซ้อน เช่น เครื่อง O - arm Navigation สำหรับการผ่าตัดกระดูกสันหลัง อีกทั้งมีแผนพัฒนา Super Application และ Telemedicine รวมถึงบริการเจาะเลือดถึงบ้าน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ป่วย แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง และศักยภาพในการเติบโตของโรงพยาบาลนครธนในอนาคต

NKT