Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 17-09-25 (แนวต้าน 1310-1315 จุด..ระวังพักฐาน!)
Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 17-09-25 (แนวต้าน 1310-1315 จุด..ระวังพักฐาน!)
17-09-25 สวัสดี “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***เมื่อวาน SET INDEX เดินทางมาปิดที่ 1308.19 จุด..แนวต้านถัดไปอยู่ที่ 1310-1315 จุด กูรูแนะนำว่าควรระวังความผันผวนหรือพักฐานจาก sell on fact แต่หากดัชนีหลักทรัพย์อ่อนตัวมีแนวรับ 1280, 1270-1265, 1260 จุดตามลำดับ
***มาว่ากันที่เรื่องการเมืองไทย “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าการตรวจสอบคุณสมบัติรายชื่อว่าที่ ครม.ใหม่ ใกล้แล้วเสร็จ เตรียมทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ภายหลังได้รับโปรดเกล้าฯ รอถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ส่วนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเน้นแนวคิด “Quick Win” คือ อยู่ภายใต้งบประมาณที่มีอยู่,ไม่สร้างภาระทางการคลังมากเกินไป และเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม
***มีข้อมูลเกี่ยวกับเพจ Ringsideการเมืองรายงาน แนวนโยบายเศรษฐกิจรัฐบาล “อนุทิน” มีกลุ่มนโยบายใหม่ที่ยังไม่ค่อยพูดถึงในตลาดในช่วงก่อนหน้ามากนัก คือ
1.) การใส่เงินเข้ากองทุนหมู่บ้าน วงเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท (0.08% ของ GDP) + การให้ Soft Loan เกษตรกร หนุนหุ้นอิงกำลังซื้อฐานราก กูรูหุ้นแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์คือ CPALL, GLOBAL, MTC. SAWAD รถไฟฟ้า BTS, BEM
2.) ลดค่ารถไฟฟ้า 35-40 บาทจากอัตราสูงสุด (ปัจจุบันประเมิน BTS ไม่รวมส่วนต่อขยายราว 62 บาท + ส่วนต่อขยาย 15-45 บาท ส่วน MRT ไม่รวมส่วนต่อขยาย 45 บาท + ส่วนต่อขยาย 15-45 บาท ส่งผลทางจิตวิทยาบวกต่อ BTS, BEM
3.) การลดค่าไฟฟ้า ที่ยังต้องติดตามแนวทางนโยบายรัฐฯเพิ่มเติม หลังข้อเสนอการปรับโครงสร้าง Pool Gas ผลักภาระค่านำเข้า LNG ให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม หลังรัฐฯประชุมกับ ส.อ.ท. ปรากฎว่าทาง ส.อ.ท. ไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว
***ส่วนโยบายเศรษฐกิจเดิมที่เป็นกระแสมาตั้งแต่ช่วงก่อนหน้า คือ นโยบาย “คนละครึ่ง” โฉมใหม่ ครอบคลุมทั้งกลุ่มผู้ที่เสียภาษีและไม่เสียภาษี รวม 11 ล้านคน (ผู้เสียภาษี รัฐบาลสนับสนุน 60 :40 // กลุ่มที่ไม่เสียภาษี รัฐบาลสนับสนุน 50 :50) คาดเริ่มใช้ได้ ต..ค. 25 ขณะที่ก าลังพิจารณาวงเงินค่าใช้จ่ายเป็น 200 บาทต่อวัน จากเดิม 150บาทต่อวัน หากอิงกรอบเวลาโครงการในอดีตที่ใช้ได้ 90 วัน คาดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ 2.0-2.5 หมื่นล้านบาท สอดคล้องตัวเลขที่มีกระแสข่าวช่วงก่อนหน้าราว 2.5 หมื่นล้านบาท หากบวกต่อเม็ดเงินที่ประชาชนต้องออกเองด้วย จะบวกต่อ GDP ราว 0.3% ส่งผลต่อจิตวิทยาทางบวกต่อหุ้นค้าปลีก CPAXT, TNP, KK, MOTHER, CPALL, OSP, CBG, ICHI, NEO
***ย้ำอีกครั้ง..ในการประชุมเฟดครั้งนี้ความน่าจะเป็นที่จะลดดอกเบี้ย 0.25% สูงกว่า 95%
-หากปรับลด 0.25% ตามคาด จะเป็นบวกกับตลาดหุ้นทั่วโลก ธ.กลางหลายแห่งจะเริ่มปรับลดตาม
-หากลด 0.50% อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยตรง สินทรัพย์ได้ประโยชน์คือ พันธบัตรทองค า และ Crypto Currency ทั้งนี้ตลาดรอดู Dot plot เพื่อคาดการณ์แนวโน้มดอกเบี้ยในอนาคตจากการประชุมครั้งนี้