ดอลลาร์อ่อนค่าเกือบ 10% หนี้สหรัฐฯ ทะลุ 37 ล้านล้านดอลลาร์ ทองคำ “พระเอก” ทุนสำรองโลกปี 2025
Aussiris Gold ชี้ดอลลาร์สหรัฐฯ ยังมีโอกาสอ่อนค่าต่อจากนโยบายการค้าของทรัมป์–หนี้สาธารณะพุ่ง ขณะที่เฟดเตรียมลดดอกเบี้ยหนุนทองคำโดดเด่น ท่ามกลางธนาคารกลางทั่วโลกเร่งสะสมทองคำแท่งแทนดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าแล้วแต่ยังไม่สุดทาง!
Aussiris Gold เผยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าแล้วเกือบ 10% แต่ยังมีโอกาสลงต่อนับตั้งแต่ทำจุดสูงสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ดัชนีดอลลาร์สหรัฐได้ปรับตัวลงแล้วเกือบ 10% เนื่องจากนโยบายการค้าของทรัมป์ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในสินทรัพย์สหรัฐฯ และกระตุ้นให้เกิดการทบทวนถึงการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินหลักของโลก
Stagflation และหุ้นสหรัฐฯ สะดุด
ขณะที่ ข้อมูลจาก Comonity Futures Trading Commission (CFTC) ชี้ว่า สถานะการเก็งกำไรดอลลาร์ในทิศทางขาลงยังห่างไกลจากระดับสูงสุดในอดีต ซึ่งสะท้อนว่ายังมีโอกาสที่ค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงได้อีก ซึ่งปัจจุบันดอลลาร์ยังเคลื่อนไหวต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ และมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ Stagflation ประกอบกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับคู่ค้าหลักๆที่จะสกัดขาขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
สหรัฐฯหนี้บวม–เสถียรภาพคลังสั่นคลอน
ภาระหนี้ของสหรัฐฯ ที่พุ่งแตะกว่า 37 ล้านล้านดอลลาร์ สูงกว่า 120% ของจีดีพี หรือใหญ่กว่าเศรษฐกิจของประเทศตัวเอง เป็นเหตุผลสำคัญที่สหรัฐฯ โดนลดชั้นหั่นอันดับเครดิต หรือถูกลดความน่าเชื่อถือลงท่ามกลางภาวะขาดดุลงบประมาณกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี และต้นทุนชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง
ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ยังเดินหน้าผลักดันกฎหมายลดภาษีฉบับใหม่ที่อาจเพิ่มหนี้อีก 5 ล้านล้านดอลลาร์ ทำให้เกิดข้อกังวลต่อเสถียรภาพทางการคลังในระยะยาว โดยแนวโน้มการกู้ยืมของรัฐบาลสหรัฐฯ ยังไม่มีที่ท่าจะลดลง ส่งผลให้อนาคตทางเศรษฐกิจของประเทศอยู่ในภาวะเปราะบางยิ่งขึ้น
เฟดเตรียมลดดอกเบี้ยหนุนทองคำ
แม้ Fed จะยังคงระมัดระวังในการตัดสินใจ แต่แรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัว และอัตราเงินเฟ้อที่ค่อยๆ ลดลง จะนำไปสู่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในที่สุด ซึ่งการลดดอกเบี้ยจะส่งผลให้ผลตอบแทนจากการถือครองพันธบัตรและสินทรัพย์อื่นๆ ลดลง
ทองคำซึ่งไม่มีผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยจะน่าสนใจมากยิ่งขึ้นนอกจากนี้การลดอัตราดอกเบี้ยทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำที่ซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์แพงขึ้น สำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่น
ทองคำกลายเป็นทุนสำรองโลก
ข้อมูลจากโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้เพิ่มการซื้อทองคำเข้าเป็นทุนสำรองมากขึ้นถึงประมาณ 5 เท่า นับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา โดยมีปัจจัยกระตุ้นสำคัญหลังจากที่ทุนสำรองทองคำของรัสเซียถูกระงับจากการคว่ำบาตร
โกลด์แมน แซคส์ เองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มที่เข้าซื้อทองคำแท่งมากที่สุดในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากทางการของแต่ละประเทศพยายามที่จะกระจายการถือครองทรัพย์สินสำรองของตนออกจากสกุลเงินดอลลาร์
และได้รับแรงหนุนจากความต้องการลงทุนในทองคำที่มากขึ้น ท่ามกลางสงครามการค้าจากนโยบายของสหรัฐ ซึ่งสร้างความไม่มั่นคงให้กับตลาดการเงิน และผลักดันให้นักลงทุนหันมาให้ความสนใจ "สินทรัพย์ปลอดภัย" มากขึ้น
ลุ้นพุ่งแตะ 5,000 ดอลลาร์ หากเฟดขาดอิสระ
โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า สถานการณ์ที่ความเป็นอิสระของเฟดถูกบั่นทอน จะนำไปสู่เงินเฟ้อที่สูงขึ้น ราคาหุ้นและพันธบัตรระยะยาวลดลง และทำให้สถานะเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินสำรองของโลกสั่นคลอน
"ตรงกันข้าม ทองคำเป็นสินทรัพย์เก็บมูลค่าที่ไม่ต้องพึ่งพาความไว้วางใจในสถาบัน”
คาดการณ์ฐาน (baseline) ที่ทองคำจะพุ่งถึง 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในกลางปี 2026, ในกรณีความเสี่ยงสูง (tail-risk) ราคาจะพุ่งถึง 4,500 ดอลลาร์ และหากมีเงินเพียง 1% ของตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ที่ถือโดยเอกชนไหลเข้าสู่ทองคำ ราคาทองอาจพุ่งแตะเกือบ 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์
...ไม่แปลกใจสัปดาห์นี้ราคาทองคำทะยานตัวอย่างร้อนแรง Gold Future พุ่งแตะ 3,640.1 ดอลลาร์ ส่วน Gold Spot แตะ 3,578.8 ดอลลาร์ สร้างสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ เปิดฉาก"ขาขึ้น"รอบใหญ่