รายงานพิเศษ : MENA เดินหน้าสร้างการเติบโต รักษามาตรฐานบริการ-เคียงคู่ลูกค้า จับมือพันธมิตรขยายตลาด
บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) เดินหน้าสร้างการเติบโต ประกาศรักษามาตรฐานการบริการอยู่เคียงคู่ลูกค้า พร้อมเล็งหาพันธมิตรเพิ่มโอกาสในการขยายฟรีท ด้านบล.ดาโอ ปรับเพิ่มคำแนะนำ จากถือเป็น“ซื้อ”
บล.ดาโอ ออกบทวิเคราะห์เกี่ยวกับผลงาน บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) โดยปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” (เดิม “ถือ”) แต่คงราคาเป้าหมายที่ 1.11 บาท แม้บริษัทประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ที่ 13 ล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน แต่ลดลง 22% จากไตรมาสก่อน)
โดยสาเหตุที่ลดลงจากปีก่อน ซึ่งลดลงจาก GPM ลดลงจากรอบการซ่อมบำรุงรักษาชดเชยกับการรับรู้กำไรจาก TDM ที่เพิ่มขึ้น ส่วนสาเหตุที่ลดลงจากไตรมาสก่อนจากปัจจัยฤดูกาล ทั้งนี้รายได้รวมไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 196 ล้านบาท ลดลง 2% จากปีก่อน ลดลง 7% จากไตรมาสก่อน) ตามทิศทางรายได้ธรุกิจขนส่งคอนกรีต
ในขณะที่ GPM อยู่ที่ 13% (-0.9ppt YoY, -2.2ppt QoQ) จากรอบการซ่อมบำรุงรักษา ในขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจาก TDM (+14% YoY, +9% QoQ) จากการขยายกองรถและบริการที่เพิ่มขึ้น
แต่บริษัทยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 68 แนวโน้ม ครึ่งหลังปี 68 ดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก เบื้องต้นเรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 68 ที่ 79 ล้าบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนย โดยครึ่งแรกของปี 68 กำไรคิดเป็นราว 40% ของประมาณการดังกล่าว แนวโน้มไตรมาส 2/68 คาดโตได้จากครึ่งปีแรก จากแนวโน้มงานภาครัฐที่คาดมีออกมามากขึ้นและปัจจัยฤดูกาลช่วยหนุน
โดยราคาเป้าหมาย 1.11 อิง PER 13x เทียบเท่า PEG 1.0x โอยอิงอัตราการเติบโตปี 67-69 CAGR ที่+13% ทั้งนี้ key catalyst คือการขยายตัวของเศรษฐกิจ ในขณะที่ความเสี่ยงคือความผันผวนของราคาน้ำมันและการปรับขึ้นค่าแรง แต่ประเมินจะเป็นเพียง short term impact เพราะสามารถผลักต้นทุนดังกล่าวไปให้ลูกค้าได้
ขณะที่นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. มีนาทรานสปอร์ต (MENA) ผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรถเทรลเลอร์ (Trailer) รายใหญ่ของประเทศ ระบุภาพรวมธุรกิจโลจิสติกส์ของบริษัทฯ ในช่วงที่เหลือของปี 2568 ยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องได้อย่างมั่นคง ทั้งธุรกิจการให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกซ์เซอร์ และธุรกิจการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคด้วยรถเทรเลอร์
เนื่องจากได้รับปัจจัยสนับสนุนด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงและทางหลวงพิเศษที่ช่วยกระตุ้นการก่อสร้าง และส่งผลดีโดยตรงต่อธุรกิจขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จ อีกทั้งแนวโน้มการย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยจากผลกระทบนโยบายภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ยังช่วยผลักดันการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างโดยเฉพาะคอนกรีตผสมเสร็จ
ด้านการบริโภคภายในประเทศ คาดว่าจะฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เช่น โครงการกระตุ้นการท่องเที่ยว ส่งผลให้ธุรกิจขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคเติบโตต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ ซึ่งจะเป็นผลดีกับ บริษัท ทีดี เอ็มลอจิสติกส์ จำกัด (TDM) อีกทั้ง TDM ยังมีแผนขยาย Fleet รถเป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับการขยายสาขาของบริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป (CJ) ทำให้บริษัทฯ มั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ตามเป้าหมายที่วางไว้
"MENA มีแผนธุรกิจและกลยุทธ์การเติบโตที่ชัดเจน ขณะที่การให้บริการสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด โดยบริษัทฯ จะรักษามาตรฐานการให้บริการและเคียงคู่ลูกค้า เพื่อให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป ซึ่งเรายังคงมองหาโอกาสในการขยายฟรีทเพิ่มเติมผ่านการมองหาพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อขยายตลาดร่วมกัน
โดยเฉพาะขนส่งด้วยรถ EV ควบคู่ไปกับการบริหารฟรีทรถที่มีอยุ่แล้วให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ที่สำคัญเราจะใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการบริหารจัดการธุรกิจโลจิสติกส์ในการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อทำให้กำไรเติบโตไปพร้อมๆ กับการเติบโตของรายได้"นางสุวรรณากล่าว