ในที่สุดช่วงระยะเวลาของการประกาศตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 2/68 และครึ่งปีแรกปี 2568 ของบริษัทจดทะเบียนก็ได้สิ้นสุดเป็นที่เรียบร้อย และมีบริษัทไม่น้อยที่ตัวเลขของกำไรสุทธิออกมาได้อย่างโดดเด่น ซึ่งบริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG ก็เป็นหนึ่งในที่น่าสนใจ
โดยบริษัทได้รายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 2,552 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 206% จากช่วงเดียวกันปีก่อน สาเหตุหลักมาจากราคาไก่และราคาสุกรในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้น และปริมาณในประเทศเวียดนามที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการขยายฟาร์มที่ผ่านมารายได้เพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาของร้านค้าปลีกและบริหารจัดการช่องทางการจำหน่าย
เช่นเดียวกัน ภาพรวมของรายได้ในไตรมาส 2/68 ที่สามารถทำได้ถึง 18,953 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยปัจจัยสนับสนุนมาจากรายได้ของธุรกิจไก่ธุรกิจสุกรในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม ธุรกิจอาหารสัตว์และร้านค้าปลีก
แต่นอกจากผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมาที่เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง แนวโน้มในครึ่งปีหลังก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน จากการฉายมุมมองของนายเพชร นันทวิสัย ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ที่ยังคงคาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 มีทิศทางที่สดใส
ภายใต้ยอดขายไก่และสุกรที่เพิ่มขึ้นทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ และจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ รวมทั้งราคาวัตถุดิบต้นทุนยังมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นผลดีต่อภาพรวมของธุรกิจโดยตรง ทำให้มั่นใจว่ารายได้รวมในปี 2568 จะเติบโตมากกว่า 15% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องตามแผนงานที่วางไว้อย่างแน่นอน
รวมไปถึง ยังคงวางแผนเดินหน้าขยายสาขาร้านค้าปลีก “ไทยฟู้ดส์ เฟรซ มาร์เก็ต” โดยปรับเป้าจำนวนสาขาเพิ่มเป็น 620 สาขา จากเดิม 600 สาขา จากกระแสผลตอบรับที่ดีเกินคาด และในปี 2569 เตรียมขยายสาขาให้มีจำนวน 850 สาขา สำหรับสาขาในปัจจุบันอ้างอิงข้อมูล สิ้นไตรมาส 2/68 มีจำนวน 462 สาขา
แต่นอกจากแผนขยายที่ต่อเนื่อง บริษัทก็ได้วางแผนระยะยาว อย่างการแยกธุรกิจร้านขายปลีก “ไทยฟู้ดส์ เฟรซ มาร์เก็ต” (TFFM) ออกมา โดยไทม์ไลน์คาดว่าจะนําเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงปี 2570 – 2571 ซึ่งธุรกิจร้านขายปลีกยังถือเป็นฟันเฟืองสำคัญหรือตัวขับเคลื่อนในการเติบโตของบริษัท
ส่วนแง่ของความน่าสนใจในตัวหุ้นนั้น บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ได้แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 7.35 บาท ด้วยผลการดําเนินงานในครึ่งปีแรกปี 2568 ที่ดีเกินคาดและการขยายธุรกิจร้านขายปลีกเชิงรุกได้ผลดีด้วย จึงปรับเพิ่มประมาณการกําไรของขึ้น 28% และ 14% ในปี2568 และ 2569
เช่นเดียวกันกับบล. หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่ได้แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท เนื่องจากราคาหุ้นถูกที่สุดในกลุ่ม และด้วยฐานะการเงินและกระแสเงินสดของบริษัทที่แข็งแกร่งขึ้น ทำให้มีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลมากขึ้น โดยคาดบริษัทมีโอกาสจ่ายปันผลบน Payout Ratio ที่ 40-50% ในทุกไตรมาสของปีนี้
ยอดนิยม
%20copy_0.jpg)
ADVANC โดดเด่น! โบรกฯ ชูเป็นหุ้น Big Cap นำตลาด แถมยังมีแรงหนุนบิ๊กล็อตก้อนโต 1 หมื่นล้าน
%20copy_0.jpg)
DELTA วันนี้เสี่ยง หลัง Nvidia เผยตลาดดาต้า เซ็นเตอร์โตช้ากว่าคาด โบรกฯ แนะ “ขาย” ให้เป้าหมาย 66 บาท
%20copy_0.jpg)
เตือน! ทองคำเสี่ยงเจอแรงขาย ไม่ผ่าน 3,403 ดอลลาร์ มีโอกาสพักฐาน กลยุทธ์รอเลือกทาง! ย่อช้อนซื้อ
%20copy_0.jpg)
DUSIT ทะยานชิลลิ่ง แม้งบผลงานตกต่ำ ขาดทุนสะสมพันล้าน โบรกฯ ชี้ดราม่าแย่งบริษัท สะท้อนสินทรัพย์มีมูลค่า
%20copy_0.jpg)