รายงานพิเศษ : PANEL บุกตลาดต่างประเทศ รองรับเปิดโรงงานใหม่ ดันรายได้-ยอดขายโตแกร่ง

บมจ.เพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ (PANEL) ขยายตลาด บุกต่างประเทศ สร้างรายได้เติบโตยั่งยืน รองรับการย้ายโรงงานแห่งใหม่ หนุนผลงาน All Time High

การขยายฐานลูกค้าบุกตลาดไปต่างประเทศ เป็นกลยุทธ์ได้รับความนิยมในการสร้างรายได้ที่ยั่งยืน ซึ่งมีหลายมิติที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ  ได้แก่

1. ด้านรายได้และการเติบโต  :เพิ่มแหล่งรายได้ใหม่ ไม่ต้องพึ่งพาตลาดในประเทศเพียงอย่างเดียว  ขยายฐานลูกค้า เข้าถึงผู้บริโภคที่มีความต้องการและกำลังซื้อสูงกว่า  สร้างโอกาสเติบโตในตลาดที่ใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะตลาดเกิดใหม่ (emerging markets)

2. ด้านการแข่งขัน: ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดเดียว เช่น เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวหรือเกิดวิกฤต เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับคู่แข่งที่อยู่ในตลาดโลก ได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ หากเข้าไปในตลาดที่คู่แข่งยังไม่ครอบครอง 

3. ด้านแบรนด์และภาพลักษณ์ : เสริมภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือในฐานะแบรนด์สากล ยกระดับคุณค่าของสินค้าและบริการให้น่าสนใจมากขึ้นในสายตาลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ มีโอกาสสร้างมาตรฐานคุณภาพที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลก 

4. ด้านการพัฒนาภายในองค์กร:กระตุ้นนวัตกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่หลากหลายสร้างโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ เทคโนโลยี และประสบการณ์จากต่างประเทศ  พัฒนาทักษะพนักงานด้านภาษา การตลาดระหว่างประเทศ และการบริหารจัดการ 

5. ด้านการกระจายความเสี่ยง :ลดผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจหรือกำลังซื้อภายในประเทศ สามารถบริหารจัดการพอร์ตธุรกิจให้สมดุลระหว่างหลายประเทศ มีโอกาสใช้ประโยชน์จากความแตกต่างด้านต้นทุนการผลิต วัตถุดิบ หรือแรงงาน

ซึ่งแนวทางการขยายตลาดไปต่างประเทศ สอดคล้องกับการขยายธุรกิจของ PANEL  สะท้อนจากมุมมอง “จูเลีย เพ็ชญไพศิษฎ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PANEL ผู้นำระบบประตูห้องผ่าตัด ระบบประตูอัตโนมัติ ผนังบานเลื่อนกันเสียง และห้องเก็บเสียงเคลื่อนที่ ที่ระบุว่า บริษัทฯมีแผนเพิ่มสัดส่วนการส่งออกไปยังต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อินเดีย สิงคโปร์ อินโดนีเซียหรือฟิลิปปินส์มากขึ้น จากปัจจุบันรายได้จากการส่งออกยังไม่ถึง 10% เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้อย่างยั่งยืน 

ขณะที่แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 บริษัทฯพร้อมเดินหน้าย้ายโรงงานการผลิตจากคลองสองไปยังนิคมอุตสาหกรรมชุมนุมทรัพย์  ซึ่งปัจจุบันการก่อสร้างโรงงานมีความคืบหน้าไปกว่า 80% และเริ่มมีการทยอยสั่งซื้อเครื่องจักรเพื่อนำเข้า โดยคาดว่าจะสามารถขนย้ายทรัพยากรและเปิดโรงงานใหม่ได้เต็มรูปแบบภายในเดือนตุลาคม 2568

"การเปิดโรงงานใหม่จะช่วยส่งเสริมผลประกอบการของบริษัทฯในทุกมิติ ช่วยให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ลดระยะเวลาในการผลิตและเพิ่มกำลังการผลิตได้ 2.5-4 เท่าตัวในทันที และสามารถเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเข้าสู่ตลาดได้มากขึ้น หนุนผลงานโตก้าวกระโดด"         

ทั้งนี้ บริษัทฯได้มีการเตรียมทีมขายพร้อมรองรับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยโรงงานใหม่และเครื่องจักรใหม่จะช่วยให้ต้นทุนการผลิตต่ำลงในอนาคต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของงานรับเหมาระบบห้องผ่าตัดและรับเหมางานตกแต่งภายในสูงขึ้น เนื่องจากสามารถผลิตสินค้าได้เองมากขึ้น ลดการพึ่งพาซัพพลายเออร์ในการสั่งซื้อสินค้าบางประเภทในส่วนของงานรับเหมาระบบห้องผ่าตัดและรับเหมางานตกแต่งภายใน         

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยเฉพาะไตรมาส 4/2568 จะเติบโตแข็งแกร่ง หลังโรงงานแห่งใหม่พร้อมเดินหน้าการผลิตได้เต็มรูปแบบ ผลักดันรายได้ปีนี้เติบโตเกิน 40% สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตามแผนงานที่วางไว้ และในปี 2569 แนวโน้มโตต่อเนื่อง จากการขยายกำลังการผลิตโรงงานใหม่ที่จะรับรู้รายได้เต็มปี"                    

สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกปี 2568 มีรายได้รวม 82.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.19 ล้านบาท หรือ 44.32 % กำไรสุทธิ 9.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.34 ล้านบาท หรือ 140.53% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน