รายงานพิเศษ : BKGI เดินหน้าขยายบริการ ตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรม ผนึกโรงพยาบาลรัฐร่วมรักษามะเร็ง
โบรกฯคาดผลงาน บมจ.แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น (BKGI) ไตรมาส3 กลับมาเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยบวกจากให้บริการตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรมด้วยวิธี NIPT สำหรับหญิงตั้งครรภ์สิทธิ สปสช. และร่วมมือกับ รพ.จุฬาลงกรณ์ ศึกษาการรักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง/มะเร็งเม็ดเลือดด้วยเซลล์บำบัด
โดยบล.กรุงศรี คาดการณ์ผลงานไตรมาส2/68 ของบมจ.แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น (BKGI) จะมีกำไรสุทธิ 5 ล้านบาท ลดลง 62% จากปีก่อน ลดลง 35% จากไตรมาสก่อน เนื่องจาก 1) คาดรายได้รวม ลดลง 7%y-y เพิ่มขึ้น 2% จากตามาสก่อน ลดลงจากปีก่อน และเติบโตเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน
เนื่องจากคาดรายได้ให้บริการ ลดลง 17% จากปีก่อน ลดลง 1%จากไตรมาสก่อน ลดลงตามจำนวนตัวอย่างส่งตรวจ โดยเฉพาะ NIPT ลดลงตามการตั้งครรภ์ ส่วนรายได้ขาย เพิ่มขึ้น 46% จากปีก่อน เพิ่มขึ้น 10%จากไต เติบโตตามการส่งมอบเครื่องตรวจพันธุกรรมและน้ำยาตรวจ 2) คาด Gross margin รวมคาด 40.2% ทรงตัวจากปีก่อนแต่ลดลงจากไตรมาสก่อน จากสัดส่วนรายได้ให้บริการ
ส่วนทิศทางในไตรมาส 3/68 คาดการณ์ว่าจะกลับมาเติบโตจากปีก่อน และไตรมาสก่อน โดยหากกำไรสุทธิ ไตรมาส 2/68 เป็นไปตามคาด จะทำให้ในครึ่งปีแรก มีกำไรสุทธิคิดเป็น 26% ของทั้งปี 68
ทั้งนี้แนวโน้มไตรมาส 3/68 เราคาดว่า BKGI จะมีปัจจัยบวกจากเริ่มให้บริการตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรมด้วยวิธี NIPT สำหรับหญิงตั้งครรภ์สิทธิ สปสช. (เริ่มกลางเดือน ก.ค.25) และมีโอกาสรับรู้รายได้จากการส่งมอบเครื่องตรวจและน้ำยาตรวจเพิ่มขึ้น
ในเบื้องต้นเราคาดกำไรสุทธิกลับมาเติบโตจากปีก่อน (3Q24 กำไรสุทธิ 14 ลบ.) และเติบโตจากไตรมาสก่อน เนื่องจากคาดรายได้รวมเติบโต ประกอบกับคาด Gross margin ดีขึ้นจาก 40.9% ใน 3Q24 และ q-q จาก Economies of scale ของการให้บริการ และคาดมีสัดส่วนรายได้ให้บริการเพิ่มขึ้น เราคงประมาณการปี 25F คาดก าไรสุทธิ 52 ลบ. (+4%y-y)
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ โดยแนะนำ ซื้อ สำหรับ BKGI (TP 2.20 บาท) ประเมินวิธี DCF WACC 10% เนื่องจาก 1) ศักยภาพให้บริการตรวจคัดกรองพันธุกรรมทุกช่วงอายุ ทำให้สามารถขยายขอบข่ายให้บริการทั้งการรักษาทางการแพทย์และ Wellness
2) คาดกำไรสุทธิปี 68-70เติบโตต่อปี +10%CAGR รวมทั้งมีโอกาสเกิด upside หากได้ร่วมกับสปสช. ตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรมด้วยวิธี NIPT
3) มีความร่วมมือกับ รพ.จุฬาลงกรณ์ เพื่อศึกษาการรักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง/มะเร็งเม็ดเลือดด้วยเซลล์บำบัด มองว่าจะเป็น New S-curve ต่อยอดการเติบโตในระยะยาว ส่วนราคาหุ้นซื้อขาย PE ปี 25F เทียบเท่า Forward PE ต่ำกว่า -1.0SD มองว่ายังไม่สะท้อนแนวโน้มการฟื้นตัวในครึ่งหลังของปี 68
ขณะที่ BKGI ยังเดินหน้าจับมือกับโรงพยาบาลของรัฐบาล เพื่อพัฒนาการรักษาโรค ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของภูมิภาค โดยนายกรพจน์ อัศวินวิจิตร ประธานกรรมการบริหาร BKGI ได้ร่วมมือกับ กระทรวงสาธารณสุข ลงนาม MOU ในสัญญาการถ่ายทอดเทคโนโลยีกรรมวิธีการเตรียมเซลล์ภูมิคุ้มกันบำบัดชนิด Dendritic cells (DCs) และ Cytokine induced killer cell (CIK)
พร้อมกระบวนการควบคุมภาพให้กับ BKGI เพื่อพัฒนาต่อยอดสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิต และบริการด้านการแพทย์ของภูมิภาค (Medical Hub) เพื่อใช้สำหรับการรักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อน แผนพัฒนาด้านเศรษฐกิจสุขภาพ และยกระดับอุตสาหกรรมการแพทย์ระดับสูง
ซึ่งความร่วมมือในการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในครั้งนี้ นับเป็นก้าวที่สำคัญด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ของไทย โดยเฉพาะการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (Advanced Therapy Medicinal Products: ATMPs) ซึ่งเป็นหนึ่งในนวัตกรรมการแพทย์ที่มีศักยภาพสูง ในการสนับสนุนทางเลือกใหม่ด้านการรักษาแก่ผู้ป่วยในอนาคต ผ่านกระบวนการที่ใช้เทคโนโลยีชีวภาพระดับสูง และมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนวงการแพทย์ของไทยให้ก้าวหน้า ส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ ตลอดจนการพัฒนาองค์ความรู้ภายในประเทศอย่างยั่งยืน ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อระบบสาธารณสุขของประเทศไทยในระยะยาว