คาดทองแตะ 3,500 ดอลลาร์ ใน 3 เดือน เงินเฟ้อ-ภาษีศุลกากร ฉุดศก.สหรัฐฯ ดอลลาร์อ่อนหนุนทองแตะจุดสูงสุดใหม่

MTS Capital เปิดเผยว่า ซิตี้ (Citi) ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มการคาดการณ์ใหม่ โดยคาดว่าราคาทองคำในช่วง 3 เดือนข้างหน้าจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3,500 ดอลลาร์/ออนซ์ จากเดิมที่ 3,300 ดอลลาร์ 

โดยซิตี้ระบุว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และปัญหาเงินเฟ้อที่เป็นผลมาจากมาตรการภาษีศุลกากรนั้น มีแนวโน้มที่จะยังคงเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 และเมื่อรวมกับสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงแล้ว ปัจจัยเหล่านี้จะผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ทองคำเดือนสิงหาคมเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway โดยสถิติ 10 ปีบ่งชี้ว่าโอกาสขึ้น-ลงมีเท่ากันที่ 50% นักวิเคราะห์แนะจับตาแนวต้าน 3,350 ดอลลาร์ หากทะลุได้ถือเป็นสัญญาณขาขึ้น 

ขณะที่การหลุดแนวรับ 3,250 ดอลลาร์ จะยืนยันเทรนด์ขาลงอย่างชัดเจน นักลงทุนควรระวังข่าวดีลภาษีสหรัฐฯ-จีน และตัวเลขเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเงินเฟ้อและตลาดแรงงาน ซึ่งจะกำหนดท่าทีของ Fed และทิศทางราคาทองคำในระยะถัดไป

Ausiris Gold Investment มองว่า ในเดือนสิงหาคม ราคาทองคำมีแนวโน้มไม่ชัดเจน โดยสถิติย้อนหลัง 10 ปีบ่งชี้ว่า ราคามีโอกาส “ปรับขึ้น” หรือ “ปรับลง” เท่าๆ กันที่ 50% ซึ่งทำให้เดือนนี้เป็นช่วงที่นักลงทุนต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ     

สำหรับแนวรับและแนวต้านที่ต้องจับตาคือ แนวรับสำคัญ 3,250 ดอลลาร์/ออนซ์ แนวต้านสูงสุด 3,450 ดอลลาร์/ออนซ์ จุดยืนยัน"ขาขึ้น" ต้องทะลุ 3,350 ดอลลาร์ จุดยืนยัน"ขาลง" หากหลุด 3,250 ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม 1. ดีลการค้าสหรัฐฯ-จีน หากเกิดการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติม อาจหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย 2.ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เงินเฟ้อ หากยังอยู่ในระดับสูง จะลดโอกาสที่ Fed จะปรับลดดอกเบี้ย ตลาดแรงงาน หากอ่อนแอ อาจหนุนราคาทองคำในระยะสั้น

ส่วนกลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนระยะสั้นควรเน้น “ทำกำไรสั้นในกรอบ” และหลีกเลี่ยงการถือยาวในช่วง Sideway หากราคาทองคำ ไทยไม่หลุด 50,000 บาท ถือเป็นจังหวะเข้าซื้อที่น่าสนใจ หากราคาทะลุ 3,350 ดอลลาร์ คือสัญญาณซื้อ หากราคาหลุด 3,250 ดอลลาร์ คือสัญญาณขายเพื่อลดความเสี่ยง