SCC แจงงบ Q2/68 วันนี้ โบรกฯชี้โกยกำไร 2.76 พันลบ. หลังสเปรดปิโตรฯปรับตัวดีขึ้น

จับตา SCC แจงผลประกอบการไตรมาส 2/68 วันนี้ โบรกฯคาดมีกำไร 2.76 พันลบ. ทะยาน 151% จากไตรมาสก่อนหน้า หลังส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปรับตัวดีขึ้น และ SCGP กำไรฟื้นตัวแรงเกิดคาด

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองต่อ SCC คาดกำไรปกติไตรมาส 2/68 จะฟื้นตัวสดใสเป็น 2.76 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 151% จากไตรมาสก่อนหน้า จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ดีขึ้นตั้งแต่ 4-13% จากไตรมาสก่อนหน้า ธุรกิจซีเมนต์ได้อานิสงส์จากการขึ้นราคาปูนซีเมนต์ 400 บาทต่อตัน ตั้งแต่ มี.ค. และ SCGP ที่กำไรฟื้นแรงกว่าคาด 12% รวมถึงเป็นฤดูรับเงินปันผลจากการลงทุนในบริษัทต่างๆ

ทั้งนี้ กำไรดังกล่าวยังไม่รวมกำไรพิเศษจากการปรับสถานะการลงทุนใน Chandra Asri ซึ่งมีทั้งส่วนที่เป็น non-cash และเป็น cash หากบริษัทขายหุ้นได้ในระยะถัดไป เงินสดจะนำไปคืนหนี้ ลดดอกเบี้ยจ่าย และจะเป็นอัพไซด์ต่อกำไรและราคาเป้าหมายต่อไป จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 200 บาท

เช่นเดียวกันกับนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด คาด SCC จะรายงานกำไรปกติที่ 2.5 พันล้านบาท (ซึ่งยังไม่นับรวมกําไรจากการปรับมูลค่า CAP) ลดลง 31% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่คาดว่าจะยังอ่อนตัว 

ในขณะที่ฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้าหรือเพิ่มขึ้น 133% ได้ค่อนข้างดี จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ปรับขึ้น 10-15% จากไตรมาสก่อนหน้าและเป็นช่วงฤดูกาลปันผลที่บริษัทจะได้รับเงินปันผลจากลงทุน

ทั้งนี้ คาดธุรกิจซีเมนต์และกรีนโซลูชันส์ EBITDA ที่ 3.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกัน ลดลง 8% จากไตรมาสก่อน ซึ่งปรับดีขึ้นจากช่วงเดียวกัน ทั้งจากราคาขายที่ปรับขึ้น (2,100–2,150 บาท/ตัน) และโครงการรัฐช่วยหนุนปริมาณขาย แม้ยอดขายภาคเอกชนอ่อนตัวจากภาคอสังหาฯ ในขณะที่ลดลงจากไตรมาสก่อนตามฤดูกาล (ฝนตกมาก, วันหยุดเยอะ)

ด้านคาดธุรกิจเคมิคอลส์ฟื้นตัวเด่น EBITDA ที่ 2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% จากช่วงเดียวกัน และเพิ่มขึ้น 41% จากไตรมาสก่อน ตามส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์หลักอย่าง HDPE, PP, PVC ที่ปรับตัวดีขึ้นจากต้นทุนแนฟทาที่ลดลง ทําให้การดําเนินงานของธุรกิจปิโตรเคมีฟื้นตัวเด่นทั้งในด้านปริมาณและอัตรา