Talk of The Town

อย่าประมาทหุ้นไทยพุ่ง โบรกฯ เตือนถือครองเงินสด แนะนำทยอยขายทำกำไร


30 กรกฎาคม 2568

จับตาหุ้นไทย หลังช่วงนี้ฟื้นตัวร้อนแรง นักวิเคราะห์เตือน “ไม่ประมาทกับการลงทุน” ควรเพิ่มการถือครองเงินสด ทยอยขายทำกำไร หลังมองตลาดหุ้นไทยมี P/E ค่อนข้างสูง แนะเลือกหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการเจรจาการค้าไทยกับสหรัฐฯ

อย่าประมาทหุ้นไทยพุ่ง_S2T (เว็บ)_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจัยในประเทศวานนี้ SET INDEX ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง 1.36% และนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3.38 พันล้านบาท ประเมินว่าเป็นเพราะความคาดหวังเจรจาการค้าไทยกับสหรัฐฯ และจิตวิทยาเชิงบวกจากการประกาศหยุดยิงกันระหว่างไทยกับกัมพูชา 

แต่อย่างไรก็ตามในเชิงปัจจัยพื้นฐานยังไม่เห็นสัญญาณที่ดีขึ้น Bloomberg ยังคงปรับลดคาดการณ์ EPS 2568 ลงสู่ระดับ 89.7 บาท/หุ้น (ทำจุดต่ำสุดใหม่ของปีนี้) 

ขณะเดียวกัน IMF ได้ออกมาคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัว 2% แต่ปีหน้าขยายตัวเพียง 1.7% ซึ่งนับเป็นการขยายตัวที่ค่อนข้างต่ำ

 ในส่วนของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติพบว่า 1 ม.ค. – 27 ก.ค. สะสมอยู่ที่ 18.9 ล้านราย ลดลง 6.2% แต่อย่างไรก็ตามมีสัญญาณบวกเล็กน้อยจากการที่นักท่องเที่ยวจีนกลับขึ้นมาเป็นอันดับแรกจากอันดับสอง หากเทียบรายสัปดาห์จะพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด เพิ่มขึ้น 1%จากสัปดาห์ก่อน และจีนกลับมาขยายตัว 4.6%จากสัปดาห์ก่อนส่วนคืนนี้รอติดตามประชุม FED และเศรษฐกิจสหรัฐฯ ช่วงไตรมาส 2/68

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ ประเมิน SET INDEX พักตัวในกรอบ 1,220 – 1,240 จากการที่วานนี้ฟื้นตัวขึ้นมาแรง แต่เชิงพื้นฐานยังไม่ตามขึ้นมาประกอบกับนักลงทุนจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลประชุม FED และในขณะเดียวกันการเจรจาการค้าไทยกับสหรัฐฯ ก็ยังไม่มีความชัดเจนออกมาซึ่งกำลังจะเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย 

ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์การลงทุนท่ามกลางตลาดหุ้นไทยที่มี P/E ค่อนข้างสูง (ซื้อขายที่ Forward PE 13.7 เท่า) จึงแนะนำ “ไม่ประมาทกับการลงทุน” (ควรเพิ่มการถือครองเงินสด ทยอยขายทำกำไร) อย่างไรก็ตามระยะสั้นอาจเลือก Trading ในหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการเจรจาการค้าไทยกับสหรัฐฯ อาทิ ส่งออก (ITC TU) นิคมอุตสาหกรรม (AMATA TU)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้ 

AMATA (แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท) คาด AMATA มีกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ที่ 383 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ละลดลง 54% จากไตรมาสก่อน เทียบกับปีก่อน เติบโตมากเพราะกำไรขั้นต้นของนิคมที่เวียดนามกลับสู่ระดับปกติ แม้การโอนที่ดินจะเพิ่มขึ้น 8 ไร่มาอยู่ที่ระดับ 171 ไร่ เทียบกับ 163 ไร่ในไตรมาส 2/67 ส่วนลดลงจากไตรมาส 1/68 ตามที่ดินที่โอนลดลง เพราะไตรมาส 1/68 มียอดโอนกว่า 279 ไร่

WHA (แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5.3 บาท) การขายที่ดินยังทำได้ดี โดยคาดว่าจะออกมาเกินกว่าเป้าที่บริษัทคาดไว้ หลังจากในช่วงครึ่งปีแรก 68 ทำได้กว่า 1,200 ไร่ และมีการเจรจารอเซ็นสัญญาอีกกว่า 1,400 ไร่ ซึ่งยังไม่รวมลูกค้าในกลุ่ม Data Center ที่มีการเจรจาอีกกว่า 1,000 ไร่