รายงานพิเศษ : I2 ปรับโครงสร้างธุรกิจสร้างความแกร่ง เน้น ICT-การจัดการและประหยัดพลังงาน ดันสู่เป้าหมายเป็น Tech Company
ในยุคปัจจุบัน อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology: IT) ได้กลายเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลอย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI), ระบบคลาวด์ (Cloud), การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง ล้วนมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และส่งเสริมการพัฒนาในหลากหลายด้าน เทคโนโลยีเหล่านี้ได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในทุกมิติ ทั้งภาคธุรกิจ และในวิถีชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วโลกอย่างลึกซึ้ง รวมถึงในประเทศไทย ที่อุตสาหกรรม IT กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการสนับสนุนของภาครัฐ ซึ่งยังคงผลักดันนโยบายเชิงรุกเพื่อมุ่งสู่ความมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต
บมจ.ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ หรือ I2 นับเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศของไทย ด้วยการให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การออกแบบระบบ ไปจนถึงการจัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร โทรคมนาคม และระบบ IT และยังมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการประหยัดพลังงาน โดยผสานแนวทางนวัตกรรมเข้ากับการดำเนินธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพให้แก่ลูกค้าในหลากหลายภาคส่วน สนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
โปรเจคภาครัฐ ดันผลงานครึ่งปีหลังสดใส
“อธิพร ลิ่มเจริญ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ (I2) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกเป็นไปตามแผนที่วางไว้ และมีแนวโน้มครึ่งปีหลังที่สดใสต่อเนื่อง จากการทยอยส่งมอบโครงการขนาดใหญ่ที่ได้รับมา โดยขณะนี้บริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) มากกว่า 750 ล้านบาท และมีแผนเข้าร่วมประมูลโครงการภาครัฐและรัฐวิสาหกิจอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งถือเป็นแหล่งรายได้สำคัญและมั่นคง
มั่นใจรายได้เติบโตแตะ 1,500 ล้านบาท
บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ในปี 2568 ไว้ที่ 1,500 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10-15% จากปีก่อน โดยเตรียมเข้าร่วมประมูลงานใหม่มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท คาดว่าบริษัทฯ จะสามารถชนะงานประมูลได้ไม่ต่ำกว่า 30-40% เพื่อผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าสร้าง New S-Curve ร่วมกับพันธมิตรกลุ่มธุรกิจใหม่ที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและสร้างผลกำไรในระยะยาว
ปรับโครงสร้างธุรกิจ รับอนาคตแข็งแกร่ง
ขณะเดียวกัน ได้ปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจจากเดิม 4 กลุ่ม เหลือเพียง 2 แกนหลัก ได้แก่ 1.กล่มุธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT Information Communication Technology) และ 2. ธุรกิจด้านการจัดการและประหยัดพลังงาน (Energy) โดยปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 70% และ 30% ตามลำดับ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการขยายธุรกิจ รวมถึงเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยแบ่งแต่ละกลุ่มธุรกิจให้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ในอนาคตสามารถบริหารจัดการได้อย่างเต็มที่
ปูพรมสู่ Tech Company ครบวงจร
I2 ยังคงมุ่งมั่นสร้างการเติบโตทางธุรกิจิอย่างต่อเนื่อง จึงมองหาโอกาสในธุรกิจใหม่ๆและพันธมิตรในการลงทุนธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันได้มีการจัดตั้งบริษัทฯ ย่อยแห่งใหม่กว่า 4 บริษัท ได้แก่
-
บริษัท กรีนโนเปีย จำกัด ดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษา พัฒนา และจัดจำหน่ายโซลูชั่นด้าน ESG ให้กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ ที่สนใจเรื่อง ESG หรือได้รับผลกระทบจากนโยบาย Net Zero
-
บริษัท อินไซท์ เอไอ จำกัด เพื่อจำหน่าย พัฒนาและติดตั้งโซลูชั่น ด้าน IT และ AI ให้กับบริษัทและโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเน้นทางด้าน Digital Transformation และ Industry 4.0
-
บริษัท พาวแพ็คเกอร์ จำกัด ดำเนินกิจการด้านวิศวกรรม การบริหารโครงการก่อสร้างพลังงานทางเลือก และระบบสาธารณูปโภคประเภทต่างๆ โดยให้บริการทางด้านวิศวกรรมในด้านการรับปรึกษา ออกแบบ จัดหา และติดตั้ง ธุรกิจรับเหมางานระบบไฟฟ้า Data Center และบำรุงรักษาแบบครบวงจร
4.บริษัท ซีไอ เซค จำกัด ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านความปลอดภัยสารสนเทศ และเทคโนโลยีโซลูชันแบบครบ วงจร
โดยมีจุดประสงค์เพื่อรองรับโอกาสในการเติบโตในธุรกิจที่มีความหลากหลาย แต่ยังคงสอดคล้องกับธุรกิจหลักในด้านของเทคโลยีสารสนเทศ ผลักดันการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมก้าวสู่เป้าหมายการเป็น Tech Company อย่างครบวงจรในอนาคต
มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
บริษัทฯ มีแผนพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคงและยุ่งยืน รวมถึงความสำคัญในการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับประกาศนียบัตรเครื่องหมายรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization : CFO) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นในการขับเคลื่อนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำในอนาคต