Talk of The Town

หุ้นไทยเจอศึกรอบด้าน! โบรกฯชี้แนวรับลึกสุดที่ 970 จุด แนะทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีรับปันผล


23 มิถุนายน 2568

ประเด็นร้อนรอบโลกต่างกดดันหุ้นไทย ทั้ง สหรัฐฯ โจมตีเป้าหมายนิวเคลียร์ของอิหร่าน 3 แห่ง ปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางการขนส่งน้ำมันที่สำคัญราว 1 ใน 5 ของโลก แถมต้องติดตามศาลรธน.จะพิจารณารับคำร้องหรือไม่ว่านายกฯ แพทองธารขาดคุณสมบัติฯ ในวันพุธนี้ แต่ตลท.เดินเกมเร็วปรับ Celing & Floor เหลือ 15% โบรกฯ ยังแนะนำถือเงินสดเพิ่มขึ้น ให้แนวรับโซน 1,050-1060, 1,000-1,020 และ 970 ตามลำดับ

หุ้นไทยเจอศึกรอบด้าน!_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่เพิ่งผ่านมา สหรัฐฯ โจมตีเป้าหมายนิวเคลียร์ของอิหร่าน 3 แห่ง และปธน.ทรัมป์ระบุปฏิบัติการดังกล่าวประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

โดยมองการโจมตีดังกล่าวทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางยิ่งตึงเครียดมากขึ้นและคาดเดาสถานการณ์ได้ยาก ล่าสุดรัฐสภาอิหร่านอนุมัติมาตรการปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางการขนส่งน้ำมันที่สำคัญราว 1 ใน 5 ของโลก

ทั้งนี้ปัจจัยแวดล้อมเป็นลบมากขึ้น คาดจะกดดัน SET Index มีโอกาสอ่อนตัวลงต่อในระยะสั้น มีแนวรับโซน 1,050-1060, 1,000-1,020 และ 970 ตามลำดับ ขณะที่แนวต้านอยู่ที่โซน 1,080-1090

แม้การเมืองในประเทศมีความชัดเจนขึ้นระดับหนึ่ง หลังพรรคร่วมรัฐบาลอื่น ๆ ยังสนับสนุนนายกฯ แพทองธาร ทำให้การเมืองในประเทศยังไม่มีกรณีนายกฯ ลาออก หรือยุบสภา แต่ยังต้องติดตามศาลรธน.จะพิจารณารับคำร้องหรือไม่ว่านายกฯ แพทองธารขาดคุณสมบัติฯ ในวันพุธนี้ (25 มิ.ย.) ซึ่งอาจมีคำสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ตามมา ผสานกับความขัดแย้งกับกัมพูชาที่ยังมีอยู่ต่อเนื่อง ล่าสุดนายกฯ กัมพูชาสั่งระงับนำเข้าน้ำมันและก๊าซทุกชนิดจากไทยแล้ว  

ด้านตลท.ออกมาตรการชั่วคราวเพื่อรองรับความผันผวนโดยกำหนด Celing & Floor จาก 30% เหลือ 15% และปรับกรอบ Dynamic Price Band รายหลักทรัพย์ 10% เหลือ 5% จากราคาซื้อขายล่าสุด ทั้งนี้ให้เริ่มมีผลตั้งแต่ 23-27 มิ.ย. นี้

ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์ ยังคงคำแนะนำ Wait & See เป็นกลยุทธ์หลักตั้งแต่ SET Index ปรับตัวลงหลุด 1,180 ในปลายเดือนที่แล้ว และยังแนะนำถือเงินสดเพิ่มขึ้นบางส่วนเพื่อรองรับความไม่แน่นอนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น 

แต่สำหรับนักลงทุน ระยะกลาง-ยาว มองเป็นจังหวะสะสมหุ้นปันผลดีระดับประเมินมูลค่าไม่แพงซึ่งเราเชื่อว่าจะมีทิศทางที่ดีกว่าตลาดโดยรวม (Outperform) หุ้นเด่น KTB, TTB, PTT, ADVANC, BDMS, CPN, SIRI, BAM, PRM, FM