จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : SM เล็งนำ AI และ Machine Learning ช่วยพิจารณาสินเชื่อ-วิเคราะห์ลูกค้า มั่นใจครึ่งปีหลังรายได้เติบโตดีขึ้น


20 มิถุนายน 2568
เศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวได้อย่างช้าๆ ภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง เป็นปัจจัยที่ท้าทายต่อธุรกิจการปล่อยสินเชื่อรายย่อย  แต่สำหรับ บมจ.สตาร์ มันนี่ (SM) ที่ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งในรูปแบบขายเงินสดและขายเงินผ่อน และให้บริการปล่อยสินเชื่อประเภทต่างๆ  ผู้บริหารมั่นใจรายได้ปีนี้ยังเติบโตได้ดี  จากกลยุทธ์ที่นำ AI และ Machine Learning เข้ามาวิเคราะห์ข้อมูล พิจารณาสินเชื่อ

SM เล็งนำ AI_รายงานพิเศษ (เว็บ)_0.jpg
 
โดย นายชูศักดิ์ วิวัฒน์วงศ์เกษม กรรมการผู้จัดการ SM ระบุว่า ภาพรวมธุรกิจไตรมาสที่ 1/2568 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 384.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน 369.21 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 19.36 ลดลง 0.61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ  19.47 ล้านบาท
 
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2/2568  อาจชะลอตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากปีก่อนเป็นช่วงที่อากาศร้อนจัด ส่งผลให้ยอดขายเครื่องปรับอากาศพุ่งแรง  ขณะที่ปีนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงมีฝนตกบ่อย ทำให้ยอดขายแอร์ชะลอลง อย่างไรก็ตาม เครื่องซักผ้ากลับมียอดขายเพิ่มขึ้น ซึ่งแม้ยังไม่สามารถชดเชยกับรายได้ของปีก่อนได้ แต่รายได้รวมยังเติบโตได้จากกลยุทธ์การขายเช่าซื้อและการปล่อยสินเชื่อที่ยังเดินหน้าได้ดี
 
ขณะที่ครึ่งหลังปีนี้บริษัทเตรียมเดินหน้าต่อยอดธุรกิจ  ด้วยการนำ AI และ Machine Learning เข้ามาวิเคราะห์ข้อมูล พิจารณาสินเชื่อ และบริหารจัดเก็บหนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภค โดยบริษัทฯ ได้เริ่มพัฒนาแพลตฟอร์ม E-commerce  และระบบการสมัครสินเชื่อออนไลน์แบบครบวงจร เพื่อขยายฐานลูกค้า B2B อย่างต่อเนื่อง
 
โดยกลยุทธ์ปีนี้มุ่งเน้นการขยายการขายใน 91 สาขาหลัก และปรับให้สาขาย่อยเข้าใกล้ชุมชนมากขึ้น โดยเฉพาะการส่งเสริมการขายสินเชื่อในพื้นที่ พร้อมขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ เช่น โทรศัพท์มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการรุกตลาดนาโนไฟแนนซ์ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละพื้นที่
 
อย่างไรก็ตามทาง SM เตรียมรุกตลาดสินค้าผ่านออนไลน์มากยิ่งขึ้น โดยพัฒนาระบบสั่งซื้อและบริการ พร้อมจับมือพันธมิตรห้างและร้านค้าต่าง ๆ เช่น ร้านซักผ้า ร้านขายอาหารสด ที่ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าจาก SM เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่ม B2B และความไปถึงการไปออกบูธพร้อมกับพันธมิตรใช้พื้นที่ในการโปรโมทให้บริการลูกค้า เช่น บูธขายหรือซ่อมมือถือ เพื่อรองรับการเติบโตต่อเนื่องในอนาคต
 
สำหรับกลุ่มธุรกิจ “นอนแบงก์” (Non-Bank) โดยเฉพาะสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ  ในปี 2568 บริษัทฯ มีแผนลดพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียน และลดการกู้ยืมลง พร้อมโฟกัสพอร์ตเช่าซื้อในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ดิจิทัลที่ให้ผลตอบแทนและกำไรสูงกว่า โดยในช่วงไตรมาส 2 ปีที่แล้ว ได้เริ่มนำเทคโนโลยี “ล็อกโฟน” เข้ามาช่วยลดความเสี่ยง NPL ได้อย่างมีนัยสำคัญ
 
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังขับเคลื่อนธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืน โดยมุ่งพัฒนา Supply Chain ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ การจัดการคลังสินค้า ไปจนถึงกระบวนการอนุมัติสินเชื่อตามมาตรฐาน SDCS พร้อมส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรสีเขียว ด้วยการนำเทคโนโลยีการเงินเข้ามาใช้อย่างต่อเนื่อง และให้ความสำคัญกับการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมอย่างสมดุล
 
ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่า รายได้รวมในครึ่งปีหลังจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรก โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากกลยุทธ์ทางธุรกิจและการขยายตลาดผ่านพันธมิตรหลายราย  แม้ภาวะเศรษฐกิจยังเผชิญความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีต่างประเทศ โดยเฉพาะจากฝั่งสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อการลงทุนและการผลิต แต่ SM ยังมั่นใจว่าจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
SM