รายงานพิเศษ : I2 รายได้ยังโตต่อเนื่อง ร่วมงานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ผ่านสัญญาณดาวเทียม
เศรษฐกิจดิจิทัล หรือ Digital Economy เป็นเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ ทั้งภาคการผลิต ขนส่ง ขายสินค้า และการบริการ เพื่อยกระดับประเทศเข้าสู่กลุ่มรายได้สูงลดความเหลื่อมล้ำของการพัฒนาภายในปี 2579 ตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ
ระบบเทคโนโลยีดิจิทัลทำให้การบริหารจัดการข้อมูลมีมาตรฐาน สร้างฐานข้อมูลที่มหาศาลให้สามารถเชื่อมโยงสัมพันธ์กัน เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลและการบริการ เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า การลงทุน เป็นการรองรับการเติบโตของ e-Commerce สร้างโอกาสและรายได้ให้กับผู้ประกอบการในระดับสากล เพื่อร่วมผลักดันประเทศไทย ก้าวสู่ความเป็น Digital Economy เต็มรูปแบบ
การที่จะทำให้เกิดเศรษฐกิจดิจิทัลได้ จะต้องมีพื้นฐานสำคัญในการรองรับ ได้แก่ ระบบอินเตอร์เน็ตที่สามารถเข้าถึงได้ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ห่างไกล ซึ่งวิธีที่ช่วยสร้างการเข้าถึงระบบอินเตอร์เน็ต ได้แก่ การสื่อสารอินเทอร์เน็ตดาวเทียม (Satellite internet access) ที่สามารถเข้าถึงพื้นที่ธุรกันดาร พื้นที่ธรรมชาติ เช่น ป่า เขา ทะเล ที่ไม่สามารถเดินสายอินเทอร์เน็ตได้
ซึ่งการบริการในเรื่องอินเทอร์เน็ตผ่านช่องสัญญาณดาวเทียม หนึ่งในบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญ ได้แก่ บมจ.ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ (I2) ที่ประกอบธุรกิจบริการ System Integration (SI) แบบครบวงจร ได้แก่ ให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร โทรคมนาคม และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น Infrastructure, Network, Transformation, อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสัญญาณดาวเทียม และเทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงาน
และล่าสุดบริษัทได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้ร่วมดำเนินการให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านช่องสัญญาณดาวเทียมในโครงการจ้างบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband Internet Service) ส่วนขยายบริการต่อเนื่อง กลุ่มที่ 1 (ภาคเหนือ 1) และโครงการบริการอินเทอร์เน็ตผ่านช่องสัญญาณดาวเทียม สำหรับพื้นที่ชายขอบ
“ยุทธชัย ทูลพันธ์” ประธานเจ้าหน้าที่สายงานขายและการตลาด I2 ระบุว่า การเข้าร่วมดำเนินการให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านช่องสัญญาณดาวเทียมในโครงการดังกล่าว ภายใต้โครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ (Zone C+) จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) รวมมูลค่าโครงการ 68 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
โดยโครงการบริการอินเทอร์เน็ตผ่านช่องสัญญาณดาวเทียมสำหรับพื้นที่ชายขอบ บริษัทฯให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านช่องสัญญาณดาวเทียมสำหรับพื้นที่ภาคกลาง ภาคใต้ และภาคใต้ (พื้นที่เสี่ยงภัย) จำนวน 31 วงจร ระยะเวลาดำเนินโครงการ 11 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568-31 มีนาคม 2569
และโครงการจ้างบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband Internet Service) ส่วนขยายบริการต่อเนื่อง กลุ่มที่ 1 (ภาคเหนือ 1) บริษัทฯ ให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านช่องสัญญาณดาวเทียมสำหรับพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 434 วงจร มีระยะเวลาดำเนินโครงการ 12เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 - 30 เมษายน 2569
"จากการที่ได้รับการพิจารณาในการให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านช่องสัญญาณดาวเทียม จากโครงการของ สำนักงาน กสทช. ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจในศักยภาพของบริษัทฯ ในฐานะผู้นำธุรกิจ System Integration (SI) แบบครบวงจร ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าภาครัฐและเอกชนได้อย่างลงตัว"
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10-15% จากกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) และกลุ่มธุรกิจพลังงาน (Energy) โดยปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 750 ล้านบาท และมีแผนร่วมประมูลงานใหม่มูลค่าไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท สนับสนุนผลการดำเนินงานในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า เติบโตอย่างยั่งยืน