จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : TIDLOR เยี่ยม NPL ต่ำเพียง 1.78% สะท้อนฐานะการเงินแข็งแกร่ง รองรับสถานการณ์ที่เปราะบาง
16 มิถุนายน 2568
บมจ.ติดล้อ โฮลดิ้งส์ (TIDLOR) แข็งแกร่ง คุณภาพลูกหนี้ดีเยี่ยม หนี้ NPL ต่ำแค่ 1.78% ขณะที่อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (%NPL Coverage) สูงถึง 255.7% ย้ำผู้ถือหุ้นมั่นใจได้ว่า ได้ร่วมลงทุนกับบริษัทที่มีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจและสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ

หนี้เสีย หรือ NPL ย่อมาจาก Non-Performing Loan หมายถึงสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือสินเชื่อที่ไม่สามารถชำระคืนได้ตามกำหนด และไม่ก่อให้เกิดรายได้ในอนาคต ซึ่งหากบริษัทใดมีหนี้เสียมากก็จะส่งผลต่อฐานะของบริษัทที่จะต้องมีการนำเงินกองทุนมาตั้งสำรอง เพื่อรองรับความเสียหายที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว ความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชนก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย
ซึ่งบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อ การควบคุมหนี้เสียให้อยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง แต่เรื่องหนี้เสียกับไม่มีผลกระทบต่อ บมจ.ติดล้อ โฮลดิ้งส์ (TIDLOR) เมื่อ นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ TIDLOR ระบุว่า การดำเนินธุรกิจสินเชื่อของ บมจ. เงินติดล้อ บริษัทในกลุ่ม Tidlor Holdings ในช่วงที่ผ่านมายังคงดำเนินได้อย่างมีคุณภาพ
โดยไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทฯ มีฐานลูกค้าสินเชื่อเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ขณะที่ยอดจัดสินเชื่อรวมเติบโตราว 5% (YoY) สะท้อนถึงความสามารถในการสร้างฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น ขณะที่ยังคงความสามารถในการควบคุมความเสี่ยงและคุณภาพหนี้ได้ดี
นอกจากนี้ เงินติดล้อมีสาขาทั้งในตัวเมืองและลงลึกไปในชุมชนต่างๆ มากกว่า 1,800 แห่งทั่วประเทศ ทำให้มีพนักงานที่คุ้นเคย กล้ชิด และสามารถดูแลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทฯ สามารถควบคุม NPL Ratio อยู่ที่ 1.78% ปรับตัวลดลงจากช่วงก่อนหน้า
ขณะที่ยังคงอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (%NPL Coverage) ในระดับสูงที่ 255.7% และ Credit Cost อยู่ที่ 2.96% ปรับตัวลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าอีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีวงเงินกู้ยืมคงเหลืออีกมากกว่า 24,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ตัวเลข NPL ของบริษัทฯ เฉลี่ยไม่ถึง 1 ใน 10 เมื่อเทียบกับตัวเลข NPL ของพิโกไฟแนนซ์ที่เปิดเผยในช่วงก่อนหน้า และบริษัทฯ ยังคงสามารถควบคุม NPL ได้ดี เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้วางรากฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งรองรับสถานการณ์ที่เปราะบาง
จึงขอให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจได้ว่าได้ร่วมลงทุนกับบริษัทที่มีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจและสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ และบริหารจัดการเงินทุนของผู้ถือหุ้นได้อย่างรอบคอบ รวมถึงสามารถสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการสร้างโอกาสทางการเงินและส่งเสริมความคุ้มครองด้านประกันให้กับประชาชน

หนี้เสีย หรือ NPL ย่อมาจาก Non-Performing Loan หมายถึงสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือสินเชื่อที่ไม่สามารถชำระคืนได้ตามกำหนด และไม่ก่อให้เกิดรายได้ในอนาคต ซึ่งหากบริษัทใดมีหนี้เสียมากก็จะส่งผลต่อฐานะของบริษัทที่จะต้องมีการนำเงินกองทุนมาตั้งสำรอง เพื่อรองรับความเสียหายที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว ความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชนก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย
ซึ่งบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อ การควบคุมหนี้เสียให้อยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง แต่เรื่องหนี้เสียกับไม่มีผลกระทบต่อ บมจ.ติดล้อ โฮลดิ้งส์ (TIDLOR) เมื่อ นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ TIDLOR ระบุว่า การดำเนินธุรกิจสินเชื่อของ บมจ. เงินติดล้อ บริษัทในกลุ่ม Tidlor Holdings ในช่วงที่ผ่านมายังคงดำเนินได้อย่างมีคุณภาพ
โดยไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทฯ มีฐานลูกค้าสินเชื่อเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ขณะที่ยอดจัดสินเชื่อรวมเติบโตราว 5% (YoY) สะท้อนถึงความสามารถในการสร้างฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น ขณะที่ยังคงความสามารถในการควบคุมความเสี่ยงและคุณภาพหนี้ได้ดี
นอกจากนี้ เงินติดล้อมีสาขาทั้งในตัวเมืองและลงลึกไปในชุมชนต่างๆ มากกว่า 1,800 แห่งทั่วประเทศ ทำให้มีพนักงานที่คุ้นเคย กล้ชิด และสามารถดูแลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทฯ สามารถควบคุม NPL Ratio อยู่ที่ 1.78% ปรับตัวลดลงจากช่วงก่อนหน้า
ขณะที่ยังคงอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (%NPL Coverage) ในระดับสูงที่ 255.7% และ Credit Cost อยู่ที่ 2.96% ปรับตัวลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าอีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีวงเงินกู้ยืมคงเหลืออีกมากกว่า 24,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ตัวเลข NPL ของบริษัทฯ เฉลี่ยไม่ถึง 1 ใน 10 เมื่อเทียบกับตัวเลข NPL ของพิโกไฟแนนซ์ที่เปิดเผยในช่วงก่อนหน้า และบริษัทฯ ยังคงสามารถควบคุม NPL ได้ดี เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้วางรากฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งรองรับสถานการณ์ที่เปราะบาง
จึงขอให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจได้ว่าได้ร่วมลงทุนกับบริษัทที่มีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจและสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ และบริหารจัดการเงินทุนของผู้ถือหุ้นได้อย่างรอบคอบ รวมถึงสามารถสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการสร้างโอกาสทางการเงินและส่งเสริมความคุ้มครองด้านประกันให้กับประชาชน