Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 16-06-25 ( ”บันได 5 ขั้น ปั้นพอร์ตเติบโต“)
Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 16-06-25 ( ”บันได 5 ขั้น ปั้นพอร์ตเติบโต“)
16-06-25 สวัสดี “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***ศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,197.79 จุด ลดลง 769.83 จุด หรือ -1.79%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,976.97 จุด ลดลง 68.29 จุด หรือ -1.13% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,406.83 จุด ลดลง 255.66จุด หรือ -1.30%
***รายงานข่าวระบุว่าตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 700 จุดในวันศุกร์ (13 มิ.ย.) หลังจากอิหร่านยิงขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอลเพื่อตอบโต้การโจมตีอย่างรุนแรงของอิสราเอลที่มุ่งสกัดศักยภาพของอิหร่านในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากอิสราเอลโจมตีโรงงานนิวเคลียร์และโรงงานผลิตขีปนาวุธในอิหร่าน ทำให้ความตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้น และบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก
***ตอนนี้ ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นจากความกังวลว่า เหตุขัดแย้งจะกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า ดูเหมือนว่าสถานการณ์กำลังก้าวเข้าสู่ความขัดแย้งทางทหารเต็มรูปแบบ และถ้ามีการปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันประมาณ 1 ใน 3 ของโลก ก็อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก
***ส่วนตลาดหุ้นไทย กูรูหุ้นมองทิศทางการเคลื่อนไหวของ SET INDEX ในสัปดาห์นี้ (16-20 มิ.ย.68) มีแนวรับอยู่ที่ 1,110 และ 1,100 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,145 และ 1,155 จุด ตามลำดับ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟด (17-18 มิ.ย.) ประเด็นเกี่ยวกับนโยบายภาษีของสหรัฐฯ รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านเดือน พ.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ การประชุม BOJ และ BOE ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน พ.ค.ของยูโรโซน อังกฤษ และญี่ปุ่น ตลอดจนการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้LPR เดือน มิ.ย. และข้อมูลเศรษฐกิจเดือน พ.ค.ของจีน อาทิ ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร
***ต่อเรื่องการสู้รบที่เกิดขึ้นระหว่างอิสราเอลเ-อิหร่าน ถือเป็นการยกระดับความขัดแย้งอย่างรุนแรงในประเด็นโครงการนิวเคลียร์ของเตหะราน ซึ่งเสี่ยงทำให้เกิดสงครามครั้งใหม่ในตะวันออกกลาง กูรูหุ้นให้ความเห็นว่ามุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นจากความเสี่ยงของสงครามตะวันออกจะบานปลายสูงขึ้นและอาจจะกระทบอุปทานน้ำมันของโลก โดยอิหร่านในปัจจุบันมีการผลิตน้ำมันดิบประมาณ 3.3-3.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน (mbd) และมีการส่งออกน้ำมัน 1.7-1.8 mbd ผลที่เกิดในตอนนี้คือราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
***เรื่องดังกล่าวส่งผลบวกต่อหุ้นน้ำมัน หุ้นต้นน้ำและโรงกลั่นในระยะสั้น ทั้งในด้านของราคาขายเฉลี่ย (ASP) และกำไรจากสต๊อก (stock gain) ที่เป็นไปได้ โดยหุ้นเด่นๆ คือ PTTEP, TOP, SPRC
*** นอกจากนั้น จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นจะมีผลกระทบเชิงลบและราคาหุ้นจะ underperformได้แก่ กลุ่มสายการบิน (AAV, BA) เนื่องจากน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นต้นทุนหลักของธุรกิจคิดเป็นประมาณ 30-40% จากรายได้รวม
***ส่วนเรื่องร้อนๆ ของ AOT มีรายงานว่าวันนี้คณะกรรมการของบริษัทมีนัดประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางการตอบสนองต่อข้อเสนอที่ “คิงส์เพาเวอร์”ร้องขอมา (เจรจาขอปรับเงื่อนไขในสัญญาเช่าพื้นที่ร้านค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) 3 ท่าอากาศยานในภูเก็ต หาดใหญ่ และเชียงใหม่ ..เบื้องต้นมีการประเมินจากกูรูหุ้นว่าเรื่องของ AOT เป็น Sensitivities Downside risk หากมีการลดค่าผลประโยขน์ตอบแทนขั้นต่ำลงไปเท่ากับสัญญาก่อนหน้าในปี 2019 (ผลประโยชน์ต่ำกว่าสัญญาปัจจุบันราว -56%) ราคาเป้าหมายหุ้น AOT จะอยู่ที่ 30 บาท
***มีข้อมูลแพลมๆ ออกมาว่าในปีที่ผ่านมา (2567) คาดว่า AOT มีรายได้จาก King Power รวม 1.8 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 27% ของรายได้รวม แบ่งเป็น Duty Free สุวรรณภูมิ 1.1 หมื่นล้านบาท พื้นที่เชิงพาณิชย์สุวรรณภูมิ 4.3 พันล้านบาท Duty Free เชียงใหม่/หาดใหญ่/ภูเก็ต 1.6 พันล้านบาท Duty Free ดอนเมือง 1.5 พันล้านบาท
***กาดอกจันตัวโตๆ เอาไว้เลยค่ะ*** มีรายงานสำนกังาน ก.ล.ต. เปิดเผยมาตรการกำกับดูแลโดยมีเป้าหมายหลักเพื่อหยุดพฤติกรรมการซื้อขายที่ไม่เหมาะสม และฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดทุนไทย โดยประเด็นที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษคือการเตรียมคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อมาร์จิ้นสำหรับหุ้น IPO และการกำกับการซื้อขายความถี่สูง (High-Frequency Trading: HFT) …. คาดว่าภายหลังการเฮียริ่งดังกล่าวคาดว่า ก.ล.ต.จะสามารถประกาศเพื่อให้กฎเกณฑ์ มีผลบังคับใช้ได้ภายในไตรมาร 3 ปี 2568 นี้
***เรื่องนี้ก้อห้ามพลาด!!! อย่าลืมนะ!!! 20 มิ.ย. นี้ FTSE All World Index Rebalance รอบ มิ.ย. มีผลราคาปิด ..รอบนี้ “ไม่มีหุ้นไทยถูก ถอดออก” แต่ Thailand ถูกลดน้ำหนักรวม ➖ $150 ล้าน (คิดเป็น ~5,000 ลบ. ที่อัตรา 32.8 บาท/ดอลลาร์)
-Large Cap Index (FTSE All World)
+เพิ่มน้ำหนัก: DELTA +165 ลบ.
+ลดน้ำหนัก: PTT -975 ลบ. CPN -513 ลบ. CPF -500 ลบ. CPALL -430 ลบ. BDMS -285ลบ.
-Small Cap Index➕ หุ้นเข้า: ไม่มี // หุ้นออก: ไม่มี
-Micro Cap Index หุ้นเข้าใหม่: MEDEZE NKT OKJ TMAN // หุ้นออก: ไม่มี
***ปิดท้ายกับเรื่องราวดีๆ จาก บล.บียอนด์อีกแล้วววววว!!! IWC X ViViInvestors 👍👍👍พบกับหลักสูตรการเรียนการสอนถนนสู่ดวงดาว ”Road to The Star” ประจำปี 2568 เรียน 5 ครั้ง ”ปั้นพอร์ตยามวิกฤต แต่เราคิดว่าเป็นโอกาส“
📣 นี่คือที่สุดของปี! ✨ 🏆 "บันได 5 ขั้น ปั้นพอร์ตเติบโต" คอร์สที่อัดแน่นด้วยเคล็ดลับและกลยุทธ์เฉพาะตัวในการค้นหาหุ้นเด่น!! ในสภาวะตลาดหุ้นไทยซบเซา ‼️
💎เน้นเจาะที่เมกะเทรนด์ ✨สอนวิเคราะห์ธุรกิจ จนประเมินราคาหุ้นได้ ✨รวมทั้งการใช้กราฟเข้าท่อนฮุก แบบVI
🔸โดย อ.เอ พิสุทธิ์ สันติโชค (ViVi INVESTOR) กับหลักสูตรบันได 5 ขั้น 🖊️ เรียน 5 ครั้ง
🚫 อย่าให้คำว่า "รู้งี้" มาทำให้คุณเสียใจ‼️
🖊️ คลอสเรียน ”บันได 5 ขั้น ปั้นพอร์ตเติบโต“
🔹ครั้งที่1 : อาทิตย์ 29 มิ.ย. หัวข้อ : เปลี่ยนเม่าเป็นเหาฉลาม
🔶ครั้งที่2 : เสาร์ 19 ก.ค. หัวข้อ : เทคนิคคัดหุ้นเด็ด
🔹ครั้งที่3 : เสาร์ 2 ส.ค. หัวข้อ : การวิเคราะห์ธุรกิจเพื่อประเมินมูลค่าหุ้น
🔶ครั้งที่4 : อาทิตย์ 17 ส.ค. หัวข้อ : การประเมินมูลค่าเหมาะสมของกิจการ
🔹ครั้งที่5 : อาทิตย์ 7 ก.ย. หัวข้อ : VI ใช้กราฟทำอย่างไร
💎 พิเศษ ‼️ สำหรับลูกค้าที่เปิดพอร์ต กับทางบริษัทหลักทรัพย์บียอนด์ x IWC ค่าหลักสูตร : 5,000 บาท/คลาส รวมมูลค่า 25,000 บาท
เหลือเพียง‼️ 999 บาท /คลาส รวมมูลค่า 4,995 บาท
✅ สนใจเรียนลงทะเบียนได้เลย ✔️โดยชำระหน้างาน
✅ รายได้ทั้งจำนวนโดยไม่หักค่าใช้จ่ายนำไปสมทบทุนสร้างศูนย์การเรียนรู้สู่ความสุขอย่างยั่งยืน
🖊️🔔ลิ้งค์ลงทะเบียนสัมมนา🔔 https://lin.ee/JODHbzp