Talk of The Town

PTTEP-TOP ได้ผลบวก หลังอิสราเอลโจมตีอิหร่าน หนุนราคาน้ำมันดิบพุ่ง 5%


13 มิถุนายน 2568

ตะวันออกกลางเดือดต่อ อิสราเอลโจมตีทางอากาศในอิหร่าน มีรายงานเสียงระเบิดในกรุงเตหะราน รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลประกาศภาวะฉุกเฉินพิเศษ เตรียมรับมือการตอบโต้ด้วยโดรนและขีปนาวุธจากอิหร่าน นักวิเคราะห์มองเป็นผลดีต่อหุ้นน้ำมัน

PTTEP-TOP ได้ผลบวก_S2T (เว็บ)_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากกรณีช่วงเช้าที่ผ่านมาสื่อต่างประเทศรายงานว่าอิสราเอลปฏิบัติการทางอากาศโจมตีอิหร่าน โดยมีมีเสียงระเบิดรุนแรงในกรุงเตราน เมืองหลวงอิหร่าน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบตอบรับเชิงบวกเพิ่มขึ้น 5% จากความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น

โดยข่าวดังกล่าวเป็นปัจจัยต้องติดตามใกล้ชิดเพราะส่งผลต่อราคาน้ำมันอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจาก 1. น้ำมันเป็นสินค้าเชิงยุทธศาสตร์ 

2. อาจเกิด Supply disruption กระทบอุปทานน้ำมันอิหร่าน โดยอิหร่านเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ ปัจจุบันส่งออกน้ำมันราว 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน 1-2% ของอุปทานโลก 

3.การตอบโต้ของอิหร่าน โดยอิหร่านมักตอบโต้ด้วยการปิดช่องแคบ Strait of Hormuz ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าพลังงานที่สำคัญของประเทศตะวันออกกลางรอบอ่าวเปอร์เซีย เช่น อิรัก อิหร่าน คูเวต กาตาร์ UAE ซาอุฯ (ทางออกทางทะเลแห่งเดียว) และคิดเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันดิบราว 20% ของอุปทานโลก และ4. มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐฯ อาจรุนแรงขึ้น ดังนั้นมองมอง PTTEP เป็นตัวเลือกหลักใน Hedging สถานการณ์ Geopolitics Risk

ส่วนความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด มองประเด็นความไม่สงบในตะวันออกลาง อาจเป็น SENTIMENT เชิงลบต่อ SET INDEX แต่คาดมีหุ้นกลุ่มพลังงาน-โรง กลั่นที่มีสัดส่วนสูงถึง 1 ใน 3 ของน้ำหนักทั้งหมดเป็นตัวพยุง ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์ในยามราคาน้ำมันดิบขาขึ้น และยัง LAGGARD กับราคาน้ำมัน อาทิ PTTEP, PTT, BCP, PTTGC เป็นต้น

สรุป ราคาน้ำมันดิบโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เสี่ยงเป็นแรงกระตุ้นเงินเฟ้อในระยะถัดไป และอาจเป็นปัจจัยกดดัน ต่อทิศทางดอกเบี้ยขาลงได้

ขณะที่ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นจากความเสี่ยงของสงครามตะวันออกจะบานปลายสูงขึ้นและอาจจะกระทบอุปทานน้ำมันของโลก โดยคงน้ำหนัก การลงทุน "เท่ากับตลาด" ทั้งนี้ เชื่อว่าข่าวนี้จะส่งผลบวกต่อหุ้นน้ำมันต้นน้ำและโรงกลั่นในระยะสั้น ทั้งในด้านของราคาขายเฉลี่ย (ASP) และกำไรจากสต๊อก (stock gain) ที่เป็นไปได้ 

โดยชอบหุ้น PTTEP (แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 130.00 บาท), TOP (แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 36.00 บาท), และ SPRC (แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท) 

นอกจากนั้น จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นจะมีผลกระทบเชิงลบและราคาหุ้นจะ underperform ได้แก่ กลุ่มสายการบิน (AAV, BA) เนื่องจากน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นต้นทุนหลัก ของธุรกิจคิดเป็นประมาณ 30-40% จากรายได้รวม