Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 28-05-25 (PTG มี ATLAS เป็นลูกกตัญญู)

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม  28-05-25 (PTG มี ATLAS เป็นลูกกตัญญู)

28-05-25 สวัสดี “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ 

***หุ้นน้องใหม่ไอพีโอกระแสแรงมากๆ ตอนนี้ต้องยกให้กับ ATLAS (เป็นบริษัทลูกของ PTG) ได้ยินมาว่าตอนนี้อยู่ระหว่างเดินสายโรดโชว์ตามหัวเมืองใหญ่ แว่วๆ มาว่าจบไปแล้วสองแห่งคือที่ หาดใหญ่ และเชียงใหม่ ..สายสืบในพื้นที่รายงานว่ากระแสตอบรับดีเวอร์!!!  เม้าท์กันปากต่อปากจาก หาดใหญ่ สู่ เชียงใหม่ว่า “ของเค้าดีจริง..มีเท่าไหร่กวาดให้หมด” ป๊าดดดด!!! แบบนี้เจ๊ต้องรีบหาเงินเอาไว้ไปจองหุ้นแล้วววว ช้า-เด๋ว-อด!!!

***ATLAS หรือ บมจ.แอตลาส เอ็นเนอยี  เป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภายใต้เครื่องหมายการค้า “PT”  มีแม่แม่ทัพใหญ่นั่งบริหารคือ "สุวัชชัย พิทักษ์วงศาภรณ์" ประกาศเดินหน้าระดมทุนขายหุ้นไอพีโอ จำนวน 418.42 ล้านหุ้น คิดเป็น 29.50% เตรียมเข้าเทรดใน SET ภายในครึ่งปีหลัง ระดมทุนเพื่อรองรับแผนบุกตลาดจำหน่ายก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือน-ขนส่ง-อุตสาหกรรม มีจุดเด่นคือ..เป็นเบอร์หนึ่งในตลาดภาคขนส่ง และยังได้แรงหนุนจาก PTG ยักษ์ค้าปลีกน้ำมันอันดับ 2 ของประเทศ ในฐานะถือหุ้นใหญ่ พร้อมซัพพอร์ต ผลักดันผลงานเติบโตก้าวกระโดด  

***จบเรื่องย่อสั้นๆ ของลูกกตัญญู..คราวนี้มาว่าเรื่องของ PTG ที่เป็นบริษัทแม่กันบ้าง มีกูรูหุ้นออกมาแนะนำ”ซื้อ” ชี้เป้าหมายไว้ที่ 8.50 บาท จากการขยายสาขา บวกกับที่ ATLAS จะระดมทุนได้ตามแผน และได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันลง

***ในรายละเอียดระบุว่า คงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายที่ 8.50 บาท อิง PER 13X หรือเทียบเท่า -1SD ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี   และธุรกิจมีพัฒนาการตามแผน โดยสรุปประเด็นดังนี้

1) บริษัทยังคงเป้า Oil sales volume ปี 2025E เติบโตในกรอบ +5-10% (เทียบ 1Q25 = -3% YoY)

2) ประเมินค่าการตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้น จากสถานะกองทุนน ้ามันและทิศทางราคาน ้ามัน

3) คงเป้าการขยายสาขาในปี 2025E ธุรกิจ Oil อยู่ที่ 2,279 สาขา จาก 1Q25 ที่ 2,237 (+42) และ Non-oil ที่ 2,978 สาขา จาก 1Q25 ที่ 2,425 (+553)

4) ATLAS (LPG) ยื่น filing แล้ว คาดว่า IPO ในช่วง 2H25E

***เบื้องต้นได้ประมาณการกำไรสุทธิของ PTG ปี 2025E ไว้ที่ 1.2 พันล้านบาท (+19% YoY) จากสมมติฐาน Oil sales volume ปี 2025E เติบโต +5% (2024 = +13%) และค่าการตลาดเฉลี่ยที่ 1.65 บาท/ลิตร (2024 = 1.65บาท/ลิตร) แนวโน้มช่วงที่เหลือของปีคาดผ่อนคลายขึ้นจากสถานการกองทุนน้ำมันที่ดีขึ้นและแนวโน้มทิศทางราคาน้ำมันราคาหุ้น underperform SET ราว -12% ในช่วง 3 เดือน จากความกังวลนโยบายแทรกแซงราคาพลังงานของภาครัฐ อย่างไรก็ตามประเมินราคาหุ้น price in ไปมาก และปัจจุบันเทรดอยู่ PER 11X และอยู่ใน PER band -1.5SD ต่ำสุดในช่วง 7 ปี ในขณะที่ค่าการตลาดมีแรงกดดันน้อยลงจากสถานะกองทุนน้ำมันที่ดีขึ้นกอปรกับแนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงในช่วงที่เหลือของปีคาดว่าจะเป็นปัจจัยให้หุ้นกลับมา outperform ตลาดได้

***นาทีนี้ต้องยกให้เค้าแล้วววว TFG นั่นเอง!!!เป็นผลเกี่ยวเนื่องมาจากการที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศระงับการนำเข้าเนื้อไก่จากบราซิล ซึ่งเป็นผู้ส่งออกไก่รายใหญ่ที่สุดของโลก หลังพบการระบาดของไข้หวัดนกสายพันธุ์รุนแรง (HPAI) ในฟาร์มแห่งหนึ่งของประเทศบราซิล โดยระงับการนำเข้าเป็นเวลา 60 วัน ซึ่งส่งผลดีกับผู้ประกอบการส่งออกไก่ของไทย และคาดว่าจะช่วยผลักดันยอดส่งออกไก่ไปจีนและยุโรป ในช่วงไตรมาส 2-3 ของปีนี้ เติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

***”เพชร นันทวิสัย ”ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงของ TFG ปักหมุดรายได้ปีนี้เติบโต 10-15% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากปัจจัยหนุนราคาหมู ไก่ ที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ลดลง จากการบริหารจัดการด้านจัดซื้อวัตถุดิบและสินค้าคงเหลือ ประกอบกับบริหารจัดการค่าขนส่งให้มีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจากยอดขายร้านค้าปลีก “ไทยฟู้ดส์ เฟรซ มาร์เก็ต” (Retail Shop) ซึ่งถือเป็น Flagship ขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต โดยในปีนี้มีแผนสาขา Retail Shop เพิ่มเป็น 600 แห่ง รองรับความต้องการของผู้บริโภค และเพิ่มมาร์จิ้นให้ธุรกิจ

*** นำตัวเลขผลงานไตรมาสแรกมาทบทวนให้แฟนคลับได้เห็นภาพชัดๆ หน่อยคือ มีรายได้รวม 17,852.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,586.62 ล้านบาท หรือ 16.94% มีกำไรสุทธิ 2,036.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,862.91 ล้านบาท หรือ 1,072.43% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นกำไรสุทธิ High record ของ TFG

***ส่วน PCE ไม่พูดถึงไม่ได้เลยนะ!!! เมื่อวาน ประกาศบิ๊กดีล!!!  จับมือ Intercontinental Specialty Fats Sdn. Bhd. (ISF) บริษัทในเครือ The Nisshin OilliO Group, Ltd. ผู้ผลิตน้ำมันปรุงอาหารรายใหญ่ในญี่ปุ่น ร่วมทุนจัดตั้ง บริษัท นิทไทย สเปเชียลตี้ ออย แอนด์ แฟตส์ จำกัด ทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท  โดยPCE ถือหุ้นในสัดส่วน 60%และ ISF ถือหุ้น 40% มีกำหนดจดทะเบียนจัดตั้งในเดือนกรกฎาคม 2568 และเริ่มดำเนินธุรกิจในเดือนตุลาคม2568

***การจัดตั้ง “นิทไทย สเปเชียลตี้ ออย แอนด์ แฟตส์ “ ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อบุกตลาดน้ำมันพืชในไทย โดยเฉพาะกลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีการเติบโตในประเทศไทยต่อเนื่องเฉลี่ย 2-3% ต่อปี และเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ High Value Added Product ในอุตสาหกรรมอาหาร

***“พรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล” บิ๊กบอสหนุ่ม หล่อ เข้ม วิชั่นไกล  แถมไฟแรงสุดๆ บอกว่า “ISF มีจุดเด่นเรื่อง Know-How ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันพืชชนิดพิเศษเป็นอย่างดี รวมไปถึงไขมันสำหรับช็อกโกแลต เบเกอรี่ อาหารทอด ซึ่งเมื่อรวมกับศักยภาพของ PCE ที่มี Supply Chain น้ำมันปาล์มครบวงจรในไทย จะส่งเสริมให้การกระจายสินค้าและการเข้าถึงกลุ่มตลาดเป้าหมายเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสนับสนุนการเติบโตของกลุ่มบริษัท PCE ในอนาคตอย่างยั่งยืน”

***วันนี้มีแต่เรื่องสุดยอดมานำเสนอ!!! ปิดท้ายกับ TIDLOR ที่ประกาศความสำเร็จการเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2568 รุ่นอายุ 2 ปี และ 2 ปี 11 เดือน 29 วัน มูลค่ารวม 5,000 ลบ.ซึ่งเปิดขายระหว่างวันที่ 23 และ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเป็นจำนวนมาก มียอดจองล้นทะลักสูงกว่า 3.6 เท่า...เริ่ดดดดดดดด!!!!

***ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 68 TRIS Rating ได้ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ  บมจ. เงินติดล้อ จากเดิม A เพิ่มเป็น “A+” เนื่องมาจากความแข็งแกร่งด้านเงินทุนและศักยภาพสร้างการเติบโต และยังได้ประกาศอันดับเครดิตของ Tidlor Holdings ให้ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ “A+” อีกด้วย นอกจากนี้ การได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ “A+” ยังถือเป็นระดับเครดิตที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับผู้ประกอบธุรกิจเดียวกัน และยังสูงกว่าสถาบันการเงินบางแห่งอีกด้วย