Talk of The Town

AOT เคราะห์ซ้ำ! นักท่องเที่ยวหด จีนหนีไปเวียดนาม-ญี่ปุ่น โบรกฯ คาดกดดัน Duty free อีก แนะ “ขาย”


20 พฤษภาคม 2568

ส่องแนวโน้มการเติบโตของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ล่าสุดนักท่องเที่ยวหันเข้าสู่ญี่ปุ่น และ เวียดนาม ส่งผลต่อรายได้ของผู้ประกอบการพาณิชย์ในสนามบิน โดยเฉพาะ Duty free (สัดส่วนประมาณ 50% ของรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์) อาจนำไปสู่การเจรจาการจ่ายขั้นต่ำต่อหัวเพิ่มเติมได้

AOT เคราะห์ซ้ำ!_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ภายใต้แนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย ฟื้นตัวช้ากว่าที่เคยประเมิน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน (4 เดือนแรกปี 68 ลดลง 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน) ซึ่งหันเข้าสู่ประเทศคู่แข่งด้านการท่องเที่ยวทั้งญี่ปุ่น และ เวียดนาม 

โดยถือเป็นปัจจัยกดดันรายได้ค่าบริการผู้โดยสารขาออก และสร้างความไม่แน่นอนให้กับรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ ตามผลประกอบการของผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์ในสนามบิน โดยเฉพาะธุรกิจ Duty free ที่เน้นลูกค้าจีนเป็นหลัก

ขณะที่ จำนวนผู้โดยสารรวมระหว่างประเทศและในประเทศ ต.ค. 67 – 17 พ.ค. 68 อยู่ที่ 84.5 ล้านคน เติบโต 9.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สอดคล้องกับสมมติฐานฝ่ายวิจัยทั้งปีที่ 126.5 ล้านคน เติบโต 6% จากปีก่อน หลังโมเมนตัมการขยายตัวเชิงจากปีก่อน อยู่ในอัตราต่ำลงเรื่อย ๆ ล่าสุดจำนวนผู้โดยสารรวม 1 พ.ค. – 17 พ.ค. 68 เติบโตเพียง 0.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศลดลง 3.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และผู้โดยสารในประเทศขยับขึ้น 6.4%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยกำไรปกติครึ่งปีแรกของปี 68 (ต.ค. 67 – มี.ค. 68) คิดเป็นสัดส่วน 52% ของประมาณการกำไรปกติเดิมทั้งปี ภายใต้ทิศทางกำไรปกติครึ่งปีหลังจะต่ำกว่าครึ่งปีแรก หลังผ่านฤดูกาลท่องเที่ยวไทย และเพื่อสะท้อนการคืนเงิน 800 ล้านบาท (One-Time) ให้กับผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์ในสนามบิน เพราะอาคาร SAT-1 ช่วงปี 2566 เปิดช้ากว่าแผน ซึ่งกระบวนการทำเรื่องขอคืน พึ่งเสร็จในงวดนี้ 

ประกอบกับค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (OPEX) ดูมีแนวโน้มสูงกว่าที่มองไว้จากค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษา รวมถึงค่าเสื่อมราคา องค์ประกอบรวมส่งผลให้ฝ่ายวิจัยปรับกำไรปกติงวดปี 2568 (สิ้นงวด ก.ย. 68) ลงจากประมาณการเดิม 4% มาอยู่ที่ 1.96 หมื่นล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน 

สำหรับกำไรปกติงวดปี 2569 ถูกปรับลด 11% ตามโมเมนตัมนักท่องเที่ยวจีนดูอ่อนแรงกว่าที่ประเมิน นำไปสู่การปรับลดสมมติฐานผู้โดยสารปี 2569 จากเดิมขยายตัว 7% ต่อปี เหลือ 5% ต่อปี และปรับเพิ่มสมมติฐาน OPEX ด้วยเหตุผลเดียวกับงวดปี 2568 ส่งผลให้กำไรปกติปี 2569 อยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท เติบโต 9% จากปีก่อน 

สำหรับปัจจัยที่มีโอกาสกระทบต่อประมาณการ มีอยู่ 2 ปัจจัย หลักๆ ได้แก่ ฝั่งบวกอย่าง การขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก หรือ PSC (สัดส่วน 40% ของรายได้รวม) จากปัจจุบันค่าบริการผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศและในประเทศ อยู่ที่ 730 บาท และ 130 บาท ต่อคน ตามลำดับ ซึ่งยังอยู่ในกระบวนการศึกษา คาดแล้วเสร็จ ก.ค. และน่าจะยื่นให้สำนักงานการบินพลเรือน (CAAT) พิจารณาช่วง ก.ย. 

ในขณะที่ฝั่งลบมาจากความไม่แน่นอนของรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ (สัดส่วน 32% ของรายได้รวม) อันเป็นผลจากการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวจีน ส่งผลต่อรายได้ของผู้ประกอบการพาณิชย์ในสนามบิน โดยเฉพาะ Duty free (สัดส่วนประมาณ 50% ของรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์) อาจนำไปสู่การเจรจาการจ่ายขั้นต่ำต่อหัวเพิ่มเติมได้ หลังก่อนหน้านี้ถูกปรับลดไปแล้วราว 15% จากสัญญา ตามการขอคืนพื้นที่ในสนามบินรอบ ก.ค. 67 และการยกเลิก Duty free ขาเข้า ช่วง ส.ค. 67 

ทั้งนี้ ด้วยงบปี 2568 ผ่านมาเกิน 6 เดือนแล้ว ทำให้หากมีการขึ้น PSC หรือปรับลดอัตราการจ่ายขั้นต่ำต่อหัว จะมีผลกระทบต่อประมาณการกำไรปกติปี 2569 มากกว่า ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึงนำเสนอ Sensitivity analysis ต่อประมาณการกำไรปกติปี 2569

โดยภายใต้ Sensitivity analysis พบว่าทุก 20% ของ PSC ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ (ในประเทศคงเดิม) ที่ขึ้นจากปัจจุบันมาที่ราว 880 บาทต่อคน จะหนุน Norm EPS ปี 2569 เพิ่มจาก 1.50 บาท ราว 19% ในขณะที่ทุก 20% ของรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ที่ต่ำลงจากสมมติฐาน (รวมการขอคืนพื้นที่ 2 ครั้งก่อน เท่ากับลดลงจากสัญญาที่เคยได้รับ 35%) จะส่งผลให้ Norm EPS ปี 2569 ลดลงจากสมมติฐาน 13% และบนกรณีที่เกิดขึ้นพร้อมกันจะทำให้ Norm EPS ปี 2569 เพิ่มขึ้นจากสมมติฐานราว 5%

ด้านราคาหุ้น AOT ปรับลง 41% จากต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) รับความไม่แน่นอนของรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ไปพอควร เพียงแต่หากประเด็นนี้ยังค้างคาอยู่ จะเป็นปัจจัยจำกัดการเคลื่อนไหวขาขึ้นของราคาหุ้น คงแนะนำ Neutral ราคาเป้าหมาย 38.00 บาท (เดิม 52 บาท)

ในเชิงกลยุทธ์อิง FV (บน PER ที่ 25 เท่า) ส่วนเพิ่มตาม Sensitivity ข้างต้น เทียบกับราคาปัจจุบัน หากต้องการ Upside ราว 20% ทางพื้นฐานมองว่าราคาบริเวณ 30 – 32 บาท น่าสนใจ และราคาที่เกิน 40 บาท เป็นจุด take profit ตามความเห็นฝ่ายวิจัย

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด มองว่า  เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ยังมีแนวโน้มลดลง ประกอบกับยังมีความเสี่ยงจากการลดลงของรายได้สัมปทานโดย Bloomberg Consensus มีแนวโน้มปรับประมาณการายได้ลดลง จึงแนะนำ “ขาย” Bloomberg Consensus 44.10 บาท

AOT