รายงานพิเศษ : FM ผลประกอบการเติบโต ฐานะการเงินบริษัทแข็งแกร่ง ผลตอบแทนเงินปันผลสูงสุดในกลุ่ม
บมจ.ฟู้ดโมเม้นท์ (FM) ผลงานโดดเด่นสวนทางเศรษฐกิจที่ชะลอ มีD/E ต่ำ, ROE ที่สูงสุดในกลุ่ม ประกาศทุ่มงบ 300-400 ลบ.เพิ่มกำลังผลิตสินค้า ผลักดันผลงานปีนี้ทำสถิติใหม่
เศรษฐกิจที่ชะลอตัวไม่มีผลกระทบบริโภคเนื้อไก่ สะท้อนจากผลงาน บมจ.ฟู้ดโมเม้นท์ (FM) ที่ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดย “ณัฐพล ดุษฎีโหนด” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ย้ำว่า บริษัทยังคงเน้นสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและมีเสถียรภาพ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น โดยมุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปปรุงสุก (CAV Products) ซึ่งเป็นสินค้าไฮมาร์จิ้นและมีโอกาสการเติบโตสูง รวมทั้งการขยายกำลังการผลิต การเพิ่มไลน์การผลิตใหม่ของโรงงานแปรรูปไก่ปรุงสุก โรงเชือดและชำแหละไก่ รองรับปริมาณการขายเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้บริษัทฯตั้งไว้ที่ 300 - 400 ล้านบาท แบ่งเป็น ใช้ในกลุ่มสินค้าไก่แปรรูปปรุงสุกประมาณ 60% และใช้ในโรงชำแหละ 40% ตามเป้าหมายการขยายธุรกิจภายใน 3 ปี ส่วนธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการลงทุนคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 2-3 ของปีนี้
"ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 12-15% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง รวมทั้งการขยายตลาดต่างประเทศใหม่ๆ เช่น ฟิลิปปินส์ และประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เพื่อเพิ่มฐานรายได้"
ขณะที่ บล.ทิสโก้ วิเคราะห์หุ้น FM โดยคาดผลประกอบการไตรมาส 2/68 จะดีขึ้นต่อเนื่อง จากการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มกำลังการผลิตไก่แปรรูปปรุงสุกเทียบกับปีที่ผ่านมา เราคาดการณ์ส่งออกไก่ CAV จะกลับมาเพิ่มขึ้นหลังจาก ยุโรปชะลอออเดอร์ในไตรมาส 1/68 จากการตุนสินค้าในไตรมาส 4/67 และจากการดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และการขยายตลาดส่งออกเพิ่มลูกค้าใหม่ ในขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบทั้งข้าวโพดอาหารสัตว์และกากถั่วเหลืองยังลดลงต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บล.ทิสโก้ยังคงประมาณการเดิมคาดการณ์กำไรปี 68-69 เติบโตเฉลี่ย 8% (CAGR2Y) จากรายได้ ปี 68-69 เพิ่มขึ้น 9% และ 10% ตามลำดับ คาดราคาขายเฉลี่ยทั้งไก่สดชำแหละและไก่ แปรรูปปรุงสุกปี 68 ลดลงจาก 3% และ 1% โดยอ้างอิงราคาไก่ตลาดที่คาด 40 บาท/กก. จากปี 67 ที่คาดเฉลี่ย 41 บาท/กก.
โดยคาดปริมาณการขายไก่สดจะเพิ่มขึ้นปีละ 8% และ 6% ตามลำดับ โดยบริษัทมีการขยายตลาดใหม่ๆไปในปี 68 ได้แก่ ฟิลิปปินส์ และ UAE เป็นการส่งออกไก่สดชำแหละและไก่แปรรูปปรุงสุก โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ประเทศ UAE เป็น สัดส่วน 5% และฟิลิปปินส์ตั้งเป้ารายได้เป็นสัดส่วน 2% ของรายได้ส่งออกคาดต้นทุนข้าวโพด และกากถั่วเหลืองซึ่งเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่จะลดลง 2% และ 5% ตามลำดับ ส่งผลให้มาร์จิ้นโดยรวมจะอยู่ที่ 15.1-15.2%
ทั้งนี้ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 7.2 บาท จากปัจจัยพื้นฐานยังเติบโตจากการขยายธุรกิจไก่แปรรูป และขยายตลาดส่งออก ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่ามูลค่าที่เหมาะสมมากที่สุดในกลุ่ม บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง มี D/E ที่ต่ำ, มี ROE ที่สูงสุดในกลุ่ม มี PER25F เพียง 6.0X และมี PBV25F ต่ำกว่า 1X และคาด Dividend Yield ปี 68สูงสุดในกลุ่มอยู่ที่ 6.6%