รายงานพิเศษ : SPREME ประมูลงานภาครัฐ รับอานิสงส์ดันไทยศูนย์กลาง AI วางเป้าหมายรายได้เติบโต 10-15%
นายกฯหารือ"บอร์ดเอไอ" นัดแรก เคาะแนวทางขับเคลื่อน AI สร้างความพร้อมหนุนประเทศไทยเป็นศูนย์กลางปัญญาประดิษฐ์ของภูมิภาค ดันผลงาน บมจ.สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (SPREME) เติบโตก้าวกระโดด
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อพัฒนาประเทศไทย ครั้งที่ 1/2568 ซึ่งได้มีการกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนเพื่อให้ประเทศไทยมีระบบนิเวศที่จะสามารถผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อนปัญญาประดิษฐ์ของภูมิภาค และสร้างการเติบโตด้านเศรษฐกิจของประเทศ
ช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยต้องเผชิญความท้าทาย ซึ่งในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ตัวเลขการเติบโตของประเทศไทย ถือว่าเติบโตค่อนข้างช้า ซึ่งการที่มี AI หรือเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนช่วย จึงเป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลได้เล็งเห็นว่าเรื่องดังกล่าว เป็นสิ่งที่สำคัญและรอไม่ได้ จำเป็นต้องมีการพัฒนาต่อเนื่องเพื่อให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันกับทั่วโลกได้
ซึ่งในที่ประชุมมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (National AI Committee) เพื่อกำหนดแนวทางในการเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ ของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนากำลังคนด้าน AI ให้มีจำนวนเพียงพอ ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐาน สำหรับเป้าหมายที่จะต้องมีการสร้างความรู้ให้แก่บุคลากรที่เป็น AI User นั้น ต้องไม่น้อยกว่า 10,000,000 คน AI Professional ไม่น้อยกว่า 90,000 คน และ AI Developer ที่ไม่น้อยกว่า 50,000 คน ภายในเวลา 2 ปี
นอกจากนี้ จะมีการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบคลาวด์ ดาต้าเซ็นเตอร์ จีพียู และการพัฒนาแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์เปิด (Open Source AI Platform) ให้เพียงพอ เพื่อส่งเสริมการขยายตัวของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในราคาที่เหมาะสม รวมไปถึงการจัดตั้งศูนย์ข้อมูล (Data Bank) ที่จะรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา AI ในสาขาต่าง ๆ
ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า ในส่วนข้อมูลภาครัฐ จะส่งเสริมให้หน่วยงานของรัฐปรับตัวให้เป็นระบบดิจิทัลทั้งหมดภายในปี 2569 คาดว่าการลงทุนด้านโครงสร้างเหล่านี้ จะมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 500,000 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนของรัฐบาลและภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับการส่งเสริมการประยุกต์ใช้ AI ในงานธุรกิจและอุตสาหกรรมนั้น จะมุ่งเน้นสาขาที่สนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจและการพัฒนาสังคมเป็นหลัก เช่น การสาธารณสุข การท่องเที่ยว และเกษตรกรรม เป็นต้น ซึ่งการประยุกต์ใช้ AI จะส่งผลให้การแพทย์ของไทยมีประสิทธิภาพและยกระดับขึ้นเป็นศูนย์กลางของการรักษาพยาบาลในอาเซียนได้ พร้อมกับยกระดับการท่องเที่ยวทั้งในด้านจำนวนนักท่องเที่ยวและการใช้จ่าย อีกทั้งการใช้ AI ด้านการเกษตรจะทำให้การเพาะปลูกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างผลผลิตที่สูงขึ้น และสามารถทำงานด้านการพาณิชย์และตลาดอย่างตรงเป้าอีกด้วย ซึ่งคาดว่าการสนับสนุนการประยุกต์ใช้ AI ในด้านต่าง ๆ จะส่งผลดีต่อบริการสาธารณสุข อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและเกษตรกรไทยเป็นอย่างมาก
นโยบายดังกล่าวของรัฐบาล จะส่งผลดีต่อธุรกิจของ บมจ.สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (SPREME) ที่เป็นผู้ออกแบบ ติดตั้ง และจัดจำหน่ายระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบเครือข่าย อย่างครบวงจร (System Integrator) พร้อมทั้งให้บริการซ่อมแซม บำรุงรักษาและการให้เช่าอุปกรณ์
ซึ่งนายภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SPREME ระบุแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2568 บริษัทฯ เดินหน้าเร่งส่งมอบงานโครงการ และรอรับรู้รายได้จากงานในมือที่ตุนไว้กว่า 1,000 ล้านบาท พร้อมกับเตรียมเข้ายื่นประมูลโครงการขนาดใหญ่ หรือ Mega Project เพื่อเพิ่ม Backlog ให้มีมูลค่าสูงขึ้น สนับสนุนผลการดำเนินงานในปี 2568 ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด
รวมถึงมีแผนที่จะทำดีล M&A ซึ่งจะทยอยเริ่มเกิดขึ้นในปีนี้ พร้อมกับตั้งเป้าการเติบโตของรายได้แบบระมัดระวังที่ระดับ 10-15% จากปีก่อน โดยมุ่งเน้นที่จะรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 20-25%