จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : PCE ส่งซิกขยายตลาดส่งออก มุ่งเน้นไปประเทศจีน-อินเดียโตตามแผน ผลักดันรายได้แตะ 30,000 ล้านบาท


30 เมษายน 2568

บมจ.เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (PCE) ผู้นำอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มแบบครบวงจร มั่นใจแนวโน้มส่งออกน้ำมันปาล์มไปจีน และอินเดีย ยังเติบโตต่อเนื่อง  หนุนรายได้ปี 2568 พุ่งแตะ 30,000 ล้านบาท

PCE_รายงานพิเศษ S2T (เว็บ) copy_0.jpg

ตั้งเป้าปี 68 รายได้ทะยาน 30,000 ลบ.

PCE ภายใต้การบริหารงานของ “พรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล” รองกรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ  เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปี 2568 ที่ระดับ 30,000 ล้านบาท หลังประสบความสำเร็จจากผลการดำเนินงานงวดปี 2567 ที่มีรายได้รวม 27,516 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,794 ล้านบาท หรือ 11.30% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 630 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 300 ล้านบาท หรือ 90.75% พร้อมกับจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท

โดยกลุ่มบริษัท PCE ประกาศยึดนโยบายขยายขอบเขตธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และสร้างผลตอบแทนระยะยาวผ่านการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ และพัฒนากระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ การบริหารจัดการควบคุมความเสี่ยงในธุรกิจสกัดและกลั่นน้ำมันปาล์ม ธุรกิจขนส่ง และธุรกิจเทรดดิ้งเป็นพิเศษ ด้วยการพิจารณาถึงปัจจัยความเสี่ยงที่ซับซ้อนจากราคาพลังงาน กฎระเบียบ สิ่งแวดล้อม และการเคลื่อนไหวน้ำมันปาล์มในตลาดโลก เพื่อสร้างผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรมควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน

แนวโน้มตลาดจีน-อินเดีย คึกคัก

ทั้งนี้ PCE ประเมินว่าทิศทางธุรกิจในปี 2568 การส่งออกน้ำมันปาล์มไปจีน และอินเดียมีแนวโน้มที่ดี และบริษัทฯ เตรียมแผนขยายกำลังการผลิต เน้นเพิ่มมูลค่าสินค้า เพิ่มช่องทางจัดจำหน่าย เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่มีมากขึ้น รวมถึงให้ความสำคัญกับการพัฒนากลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้ 

แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ขณะเดียวกัน PCE ได้ให้ความสำคัญต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนขยายเป็น Bio Complex เช่น ลดของเสียและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการบริหารจัดการน้ำเสีย รวมถึงการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล รวมถึงให้ความสำคัญด้านการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดน้ำมันปาล์มและอื่นๆ ด้วยการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ปาล์มที่บริษัทฯ มีอยู่ เช่น น้ำมันเมล็ดในปาล์ม (CPKO) และน้ำมันเมล็ดในปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ (RBDPKO) โดยเพิ่มยอดการจัดจำหน่ายเป็น 40,000 ตันจากเดิม 15,000 ตัน และวางแผนการส่งออกกะลาปาล์มให้มากกว่า 100,000 ตันต่อปี

หุ้นอนาคตดีติดโผดัชนี FTSE Micro Cap

ปัจจุบัน PCE ได้รับการคัดเลือกเข้าคำนวณดัชนีระดับสากล FTSE SET Index จากดัชนีฟุตซี่ (FTSE Russell) ซึ่งร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีการประกาศผลการทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ชุดใหม่ที่จะใช้ในการคำนวณ ซึ่ง PCE จัดอยู่ในกลุ่ม FTSE Micro Cap มีผลบังคับใช้หลังราคาปิดของวันที่ 21 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งผู้บริหารบริษัทฯ ระบุว่า การที่หุ้น PCE ได้เข้าคำนวณใน FTSE Micro Cap ครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุน และเพิ่มโอกาสการเป็นที่รู้จักของกลุ่มนักลงทุนในระดับสากลมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจะทำให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้น ยังชี้ให้เห็นว่าเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องที่ดีอีกด้วย

โบรกฯเชียร์“ซื้อ” เคาะเป้าสูงสุด 4.20 บ./หุ้น

ขณะที่ บล.ไอร่า จำกัด (มหาชน) (AIRA) เผยแพร่บทวิเคราะห์ แนะนำซื้อหุ้น PCE โดยประเมินว่า คาดว่าราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ในช่วงไตรมาส 1/2568 จะยังอยู่ในระดับสูง ผลจากภาวะแล้งในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตออกมาน้อยกว่าปกติ ล่าสุดราคาน้ำมันปาล์มดิบตลาดไทยช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 อยู่ที่ 44-49 บาท/ก.ก. เพิ่มขึ้นจาก 35.51 บาท/ก.ก.ในปีก่อน ส่งผลดีต่อ PCE โดยตรง โดยคาดว่าสถานการณ์ผลผลิตปาล์มที่ออกมาน้อยจะเริ่มคลี่คลายในช่วงไตรมาส 2/2568 หลังจากเริ่มเข้าสู่ภาวะลานีญา จะทำให้มีฝนตกมากขึ้นในภาคใต้ของไทย

แนวโน้มการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตดี จากความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มทั้งจากจีน อินเดีย และทวีปยุโรป ขณะที่ภาพรวมการใช้น้ำมันปาล์มในไทยปี 2567 แบ่งเป็นใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร พลังงาน ส่งออก ในสัดส่วน 43%, 31% และ 26% ตามลำดับ ซึ่งส่งผลดีโดยตรงต่อ PCE ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ของไทย โดยโอกาสเติบโตในอนาคตจะมาจากทั้งการส่งออกที่จะเพิ่มขึ้นทั้ง CPO และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องซึ่งมีมาร์จิ้นสูง ทั้งที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตและอาหาร ตลอดจนความร่วมมือกับ บางจาก ในการขาย B100 และน้ำมันประกอบอาหารที่ใช้แล้วสำหรับโครงการเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) ทั้งนี้ ประเมินราคาเป้าหมายปี 2568 เท่ากับ 4.20 บาท (P/E = 16 เท่า) และยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

PCE