จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : BKGI ต่อยอดธุรกิจ คว้าโอกาสการเติบโต ผลักดันยอดขายปี 68 พุ่ง 25%


07 กุมภาพันธ์ 2568

บล.กรุงศรีปรับคำแนะนำ บมจ.แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น (BKGI) เป็น “ซื้อ” มองมีโอกาสเติบโตจากการขยายธุรกิจ เจาะตลาดผู้สูงวัย  CEO มั่นใจยอดขายปี68 เติบโตแตะ 25%  

รายงานพิเศษ BKGI ต่อยอดธุรกิจ_0.jpg

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ.แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น (BKGI)  โดยระบุว่า บริษัทได้ปรับคำแนะนำ BKGI เป็น “ซื้อ” (เดิม Trading Buy)   เนื่องจากคาดบริษัทมีโอกาสเติบโตจากการขยายขอบข่ายให้บริการ และตลาดลูกค้าใหม่ๆจากความสามารถให้บริการตรวจคัดกรองฯ ครอบคลุมทุกช่วงอายุ โดยระยะ สั้น 4Q24F คาดกำไรสุทธิ(+115%y-y -1%q-q) เติบโตสูง y-y สอดคล้องกับที่คาดไว้  

ส่วนในปี 2025F คาดว่า BKGI จะมีกำไรสุทธิ 66 ลบ. (+29%y-y) เติบโตต่อเนื่อง มีปัจจัยบวก 1.คาดรายได้รวม (+24%y-y) เติบโตทั้งรายได้ขายและรายได้ให้บริการ โดยการจำหน่ายเครื่องมือและน้ำยาตรวจจะเป็นโครงการกลุ่มลูกค้ารัฐ ส่วนการให้บริการจะขยายขอบข่ายบริการใหม่ๆ ประเภทตรวจคัดกรองเพื่อป้องกันโรค Preventive and Wellness ร่วมกับพันธมิตรกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น ตรวจคัดกรองความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง, โรคอัลไซเมอร์, โรคหลอดเลือดสมอง และโรคพาคินสัน 

ส่วนโครงการสิทธิ สปสช เพิ่มบริการตรวจ NIPT คัดกรองดาวน์ซินโดรมในหญิงตั้งครรภ์อยู่ระหว่างทำ TOR และเปิดประมูล ซึ่งหากบริษัทได้เข้าร่วมให้บริการโครงการนี้ คาดจะป็น upside ต่อประมาณการปัจจุบัน ประกอบกับห้อง lab ของบริษัทมีอัตราให้บริการเฉลี่ย 40% ของ Capacity เครื่องตรวจฯ ทำให้สามารถรองรับจำนวนตัวอย่างเพิ่มขึ้นได้โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม 

ดังนั้นบริษัทจึงปรับคำแนะนำ Buy (เดิม Trading Buy) สำหรับ BKGI (TP 2.80 บาท) ประเมินวิธี DCF WACC 10% และ L-T 3% เนื่องจาก 1) ราคาเปิด upside มากขึ้นขณะที่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยน  2) บริษัทมีความสามารถให้บริการตรวจคัดกรองพันธุกรรมครอบคลุมทุกช่วงอายุตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์จนถึงกลุ่มผู้สูงอายุ  ทำให้มีโอกาสเติบโตจากการขยายขอบข่ายให้บริการและตลาดลูกค้าใหม่ๆ

ด้านดร.เสาวลักษณ์ ด่านสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บมจ.แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น (BKGI) ระบุถึงเป้าหมายในปี 2568  โดยคาดว่าบริษัทจะมียอดขายเติบโต 25% เป็นผลมาจากการปรับกลยุทธ์ขยายตลาด จากเดิมเข้าไปเสนอการบริการตรวจพันธุกรรม เพื่อหาความเสี่ยงของยีนส์ในกลุ่มคนตั้งครรภ์ ที่ตลาดมีทิศทางทรงตัวเฉลี่ยเพียง 4 แสนคนต่อปี  จึงหันไปเจาะตลาดในกลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่ต่ำกว่าล้านคน เพื่อประเมินโอกาสเสี่ยงของการเกิดโรคในอนาคต เช่น อัลไซเมอร์ และโรคอื่นๆ รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป มักจะเริ่มสะสมโรค NCD (Non-Communicable) ผลจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น เบาหวาน ความดัน หัวใจ มะเร็ง

ขณะที่ปัจจุบันบริษัทเป็นพันธมิตรกับโรงพยาบาลเอกชน และคลินิกต่างๆ ที่มีการพัฒนาแพคเกจการตรวจสุขภาพ ควบคู่กับการเสนอโปรแกรมการดูฟื้นฟูร่างกาย และมีความมั่นใจในเทคโนโลยีและคุณภาพการตรวจที่แม่นยำ ที่สอดคล้องกับความต้องการของคนในยุคปัจจุบัน ที่รักสุขภาพหันมาดูแลตัวเองในเชิงป้องกันมากกว่ารอให้ป่วยแล้วจึงรักษา ป้องกันความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยในอนาคต การเข้าใจพันธุกรรม ทำให้ปรับพฤติกรรม ดูแลสุขภาพ ฟื้นฟู

และเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา  ประธานกรรมการ BKGI “ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์” ได้การลงนามความร่วมมือ กับ บริษัท เอไซ (ประเทศไทย) มาร์เก็ตติ้ง จำกัด  ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่บริษัทฯผู้นำยาด้านการรักษาโรคอัลไซเมอร์ และผู้นำด้านนวัตกรรมการตรวจวิเคราะห์พันธุกรรมและตัวบ่งชี้ทางชีวภาพของไทย ที่จะผสานจุดแข็งของทั้งสององค์กร นำไปสู่การดูแลผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์แบบครบวงจรในประเทศไทย  ซึ่งไม่ได้เป็นแค่เพียงความร่วมมือทางธุรกิจ แต่ยังร่วมสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ เพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น