จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : ITNS กำไรปี 65 ออลไทม์ไฮ CEO มั่นใจต่อเนื่องถึงปี 66


24 กุมภาพันธ์ 2566
ผลงาน ITNS เติบโตต่อเนื่องตามเป้าหมาย  ปี65 ออลไทม์ไฮ!  กำไรสุทธิแตะ  55.27 ลบ. เพิ่มขึ้น 69.64%ประธานเจ้าหน้าที่บริหารมั่นใจผลงานดีต่อเนื่องถึงปี 66   ขณะที่โบรกเกอร์แนะนำ “ซื้อ” 
รายงานพิเศษ ITNS240223.jpg

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เน็ตเวิร์ค ซิสเต็ม (ITNS) “สมชาย อ่วมกระทุ่ม” ระบุผลการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 551.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 181 ล้านบาท หรือ 48.79% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 370.95 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จากการจำหน่ายอุปกรณ์และให้บริการติดตั้ง คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 81.74% รายได้จากการให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขาย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 16.95% และส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากการให้เช่าอุปกรณ์ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 0.67% ของรายได้รวม

ขณะที่มีกำไรสุทธิ55.27ล้านบาท เพิ่มขึ้น22.69ล้านบาท หรือ69.64%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ32.58ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของกําไรขั้นต้น ผลักดันให้กำไรสุทธิของบริษัทฯสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง  เป็นผลมาจากบริษัทฯ รับรู้รายได้จากการจําหน่ายอุปกรณ์และให้บริการติดตั้ง และรายได้จากการให้บริการซ่อมแซม และบํารุงรักษาอุปกรณ์เพิ่มขึ้น อีกทั้งส่วนใหญ่มาจากงานโครงการของภาคเอกชน เนื่องจากบริษัทฯ ต้องการลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่ จึงวางกลยุทธ์ขยายงานไปยังกลุ่มลูกค้าภาคเอกชนรายใหม่ เพื่อกระจายฐานลูกค้าและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทฯ ต่อไปในอนาคต 
ประกอบกับบริษัทฯ ได้รับงานโครงการของลูกค้ารายใหญ่ที่บริษัทฯ มีประสบการณ์การทำงานในพื้นที่หน้างาน ทำให้สามารถวางแผนการติดตั้งระบบได้เป็นอย่างดี รวมทั้งควบคุมต้นทุนของงานโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้อยู่ที่ประมาณ 20-30% จากธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ และให้บริการติดตั้งประมาณ คาดการณ์เติบโตประมาณ30% จากการขยายตัวของเศรษฐกิจ ส่วนธุรกิจให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขาย คาดการณ์เติบโตประมาณ10% และธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ คาดการณ์เติบโตประมาณ100% ตามแผนกลยุทธ์การขยายธุรกิจของ ITNS

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ITNS กล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog)รวมทั้งสิ้น406ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปีนี้ ไปจนถึงปี2570 พร้อมกันนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมเข้าประมูลงานใหม่รวมมูลค่าประมาณ1,000 ล้านบาท คาดทยอยรู้ผลภายในเร็วๆ นี้ ทำให้เชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานปีนี้จะสามารถสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องจากปีก่อน

บล.ดาโอ วิเคราะห์หุ้น ITNS  โดยระบุว่า  
กำไร 4Q22 ดีกว่าที่คาดการณ์ จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาก ITNS รายงาน 4Q22 มีกำไรสุทธิ 16 ล้านบาท (+77% YoY, -6% QoQ) ดีกว่าที่เราทำไว้ที่ 12 ล้านบาท โดยกำไรยังเติบโตดีYoY จาก backlog ที่สูง ขณะที่ลดลง QoQ จากฐานสูงที่ 3Q22 ทำสถิติสูงสุดใหม่ ทั้งนี้รายได้เติบโตโดดเด่นเป็น 274  ล้านบาท (+247% YoY, +177% QoQ) เนื่องจากมีการส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่ (งานติดตั้งอุปกรณ์ IT ที่พัทยาสมาร์ทซิตี้ราว 200 ล้านบาท) แต่ GPM จะต่ำที่ 10.3% (4Q21 = 26.0%, 3Q22 = 28.1%) เนื่องจากงานโครงการขนาดใหญ่มี GPM ต่ำรวมถึง SG&A ที่ลดลงเป็น 8 ล้านบาท (-18% YoY, -20% QoQ) ดังนั้น ส่งผลให้ปี 2022 มีกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท +70% YoY

บริษัทยังคงประเมินกำไรปี 2023E-24E เติบโตโดดเด่นเฉลี่ย +28% CAGR เรายังคงประมาณการกำไรปี 2023E/24E ที่ 70 ล้านบาท +27% YoY และ 91 ล้านบาท +30% YoY ยังคงเติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง โดยประเมินรายได้ปี 2023E/24E จะดีขึ้นเป็น 721 ล้านบาท +32% YoY และ 940 ล้านบาท +30% YoY จากความสามารถในการรับงานใหม่ได้เพิ่มขึ้น จากกระแสเงินสดที่เพิ่มขึ้นหลัง IPO และมีทีมขายเพิ่มขึ้นเท่าตัว ทำให้ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรับจำนวนงานได้มากขึ้น รวมถึงสามารถรับงานโครงการขนาดใหญ่ได้มากขึ้น

อีกทั้งทีมขายที่เพิ่มใหม่ยังมีฐานลูกค้าเดิมด้วย ด้าน backlog ณ สิ้นปี 2022E จะยังทรงตัวระดับสูงที่ 400-450 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ในปี 2023E ราว 300-350 ล้านบาท ขณะที่มีแผนจะเข้าประมูลงานใหม่เพิ่มอีก 1,000 ล้านบาท ซึ่งตามสถิติในอดีตจะมีโอกาสได้งาน 40%-50% ส่งผลให้รายได้ในปี 2023E จะสามารถเติบโตได้ตามที่เราทำไว้ได้ ขณะที่ GPM จะดีขึ้นเป็น 19.0% จากปี 2022 ที่ 18.2% จากการเพิ่มสัดส่วนรายได้งานที่เป็น recurring และมี GPM สูง ได้แก่ งานให้บริการบำรุงรักษาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ + งานให้เช่าอุปกรณ์

บริษัทยังคงราคาเป้าหมาย 5.50 บาท อิง 2023E PER ที่ 17.0 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของธุรกิจใกล้เคียงกันด้าน system integration (AIT, MFEC, SAMTEL และ TPS) โดยมี key catalyst จาก ITNS ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นการเติบโต  ซึ่งกำไรที่จะเติบโตสูงต่อเนื่องอย่างน้อยในช่วง 3 ปีข้างหน้า