News Today

YLG ให้เป้าราคาทองคำใหม่ปี 67 แตะ 2,350 ดอลลาร์ เปิด 4 ปัจจัยหนุนราคาพุ่งขึ้นต่อเนื่อง


04 เมษายน 2567
YLG ให้เป้าหมายราคาทองคำใหม่ปี 67 ที่ 2,350 ดอลลาร์ หลังราคาใกล้เป้าหมายเดิม เปิด 4 ปัจจัยหนุนราคาทยานต่อทั้ง ดอกเบี้ยขาลง-เทคนิคแกร่ง-แรงซื้อจากจีน-ธนาคารกลางสะสมต่อเนื่อง พร้อมแนะนักลงทุนที่อยากเข้าซื้อแต่ไม่อยากใช้เงินลงทุนมาก ลงทุนผ่านแอปพลิเคชั่น Get Gold ลงทุนขั้นต่ำเพียง 100 บาท

YLG ให้เป้าราคาทองคำใหม่ปี 67 แตะ 2,350 ดอลลาร์.jpg

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่าราคาทองคำในตลาดโลกได้ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงทำจุดสูงสุดตลอดกาลอีกครั้งที่ระดับ 2,288 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ในช่วงเช้า ณ วันที่ 3 เม.ย. 2567  ส่งผลให้นับจากต้นปีที่เปิดตลาดระดับ 2,062 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จนถึงระดับ All Time High ราคาทองคำปรับขึ้นมาแล้วถึง 226 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือ +10.93% ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% เปิดตลาดเมื่อต้นปีที่ 33,550 บาทต่อบาททองคำ และได้ปรับตัวขึ้นมาถึงบริเวณ 39,600 บาทต่อบาททองคำ ส่วนทองคำรูปพรรณล่าสุดราคาได้ทะลุ 40,000 บาท ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ให้ไว้เช่นกัน  

โดยการปรับขึ้นมาครั้งนี้ถือว่ามีอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากราคากำลังทดสอบเป้าหมายที่วายแอลจีให้ไว้ว่าจะไปถึง 2,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ภายในครึ่งปีแรก อย่างไรก็ดีความร้อนแรงของราคาทองคำในครั้งนี้ แม้ในระยะสั้นอาจเริ่มเห็นแรงขายทำกำไร แต่เมื่อราคาย่อตัวจะเป็นโอกาสเข้าซื้อใหม่ ในระยะยาวนั้นค่อนข้างมีความแข็งแกร่ง ยังมองว่าไปได้ต่อ โดยในปีนี้วายแอลจีได้ปรับประมาณการณ์เป้าหมายใหม่ไว้ที่ 2,350 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์  ซึ่งปัจจัยสนับสนุนหลักๆมาจาก 4 ปัจจัยดังนี้

1. การคาดการณ์ที่ว่าวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สิ้นสุดลงแล้ว และเตรียมปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้  พร้อมคาดการณ์ตลาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งเป็นส่งผลกดดันดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐให้ร่วง

2. โมเมนตัมทางเทคนิค  หลังจากราคาทะลุเป้าหมายของปีนี้
ราคาทะลุแนวสำคัญทางเทคนิคหลายประการ  ทั้งนี้  ในวันที่ 1 มี.ค. 2567 ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์  ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเป็นทิศทางขาขึ้น สามารถเบรกเส้นค่าเฉลี่ย และยังเคลื่อนไหวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยได้ทุกระยะ  พร้อมทั้งทะลุจุดสูงสุดเดิมของราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง 

3. ความต้องการทองคำที่แข็งแกร่งจากจีน
ราคาทองคำในจีนซื้อขายในระดับราคาที่สูงกว่าราคาทองคำในตลาดโลก (Premium) เป็นหนึ่งในตัวเลขที่สะท้อนปริมาณความต้องการทองคำในจีนได้เป็นอย่างดีในเวลาที่ปริมาณความต้องการทองคำในจีนที่เพิ่มสูงขึ้น แรงซื้อทองคำจากชาวจีนจะเป็นปัจจัยผลักดันราคาทองคำในประเทศจีนให้ปรับตัวสูงขึ้นตาม  วายแอลจี เชื่อว่าความต้องการทองคำที่แข็งแกร่งจากจีนทั้งในด้านทองคำกายภาพและกองทุน ETFs เป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันราคาทองคำในปีนี้

4. แรงซื้อทองคำจากธนาคารกลางทั่วโลกที่ยังคงดำเนินต่อไปในปี 2567
ธนาคารกลางทั่วโลกเดินหน้าถือครองทองคำเพิ่มอีก 39 ตันในเดือนม.ค. นำโดยตุรกีและจีนเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ โดยเพิ่มการถือครองทองคำ 12 ตัน และ 10 ตัน ตามลำดับ ส่งผลให้ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อสุทธิทองคำเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน  

ทั้งนี้สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำแต่มองว่าราคาทองคำได้ปรับขึ้นไปสูงจนทำให้เข้าถึงได้ยากนั้น วายแอลจีได้มีบริการสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำโดยใช้เงินลงทุนเพียง 100 บาท ผ่านแอปพลิเคชั่น Get Gold ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นซื้อ-ขายทองคำ Gold Spot แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง และเข้าถึงง่ายด้วยสมาร์ตโฟน โดยผู้สมัครสามารถยืนยันตัวตนพร้อมยื่นเอกสารผ่านแอปพลิเคชั่น รู้ผลอนุมัติได้ภายในวันเดียว และสามารถทำการซื้อ-ขาย ทองคำได้ทันที เปิดให้ลงทุนเริ่มที่ 100 บาท ไปจนถึง 80 กิโลกรัมต่อ 1 วัน ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้ที่ App Store และ Play Store หรือโทร. 0-2678-9888 #1
YLG