Smart Investment

4 หุ้นยางพารา “NER-TEGH-TRUBB-STA” วิ่งคึก! รับอานิสงส์ราคายางพุ่งในรอบ 7 ปี


15 มีนาคม 2567
Mr.Data
 
4 หุ้นยางพารา บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) (NER) บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (STA) บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (TEGH) และบริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TRUBB) กลับมาวิ่งคึก รับราคายางในตลาดโลกปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 7 ปี จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน

ราคายางทุบสถิติ copy.jpg
 
...โดยสถานการณ์ราคายางพาราในปัจจุบันดีดตัวขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง
 
ล่าสุด ราคายางที่ซื้อขายผ่านสำนักงานตลาดกลางยางพารา ของ กยท. พุ่งทะลุ 90 บาท ซึ่งราคาซื้อขายยางแผ่นรมควัน อยู่ที่ 90.09 บาท/กก.
 
...ถือเป็นราคาสูงที่สุดในรอบ 85 เดือน โดยปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและคาดว่าจะยังคงอยู่ในทิศทางแนวโน้ม “ขาขึ้น” ต่อไป
 
ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด แนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากจากราคายางพาราทำ New High ซึ่งได้อานิสงส์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน โดยหุ้นที่ได้อานิสงส์จากนโยบายดังกล่าว ได้แก่  STA, TRUBB, NER และ TEGH
 
ถือเป็นกลุ่มที่ราคาและ Valuation อยู่ในโซน Distress และยังไม่ได้ Price in ข่าวดีในอนาคตมากนัก
 
นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (TEGH) ผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ และน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ในภาคตะวันออก และผู้นำด้านการผลิตพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์แบบครบวงจร ที่นำพลังงานสะอาดมาใช้ในกระบวนการผลิต เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2567 ในส่วนของยอดขายมีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ จากปริมาณขายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 20% และราคายางธรรมชาติปรับตัวสูงขึ้น"
 
ที่ผ่านมากลุ่มบริษัทฯ TEGH มียอดการผลิตและจำหน่ายยางแท่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งในปี 2566 ที่ผ่านมา มียอดขายยางแท่ง 197,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่ 5,700 ตัน คิดเป็นเพิ่มขึ้นประมาณ 3%
 
บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด มองว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ TEGH ค่อนข้างสดใส หลังราคายางยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง เราคาดกําไรปี 2567 จะฟื้นตัวได้ราว 95%YoY หลังราคายางยังปรับตัวขึ้นต่อเนือง (ราคายาง SICOM ล่าสุดยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 200 Cent/Kg) โดยคาดว่าลูกค้า กลุ่มยุโรปจะกลับมาสั่งซื้อมากขึ้น ขณะที่คาดว่าจะเห็นคําสั่งซื้อจากลูกค้าจนเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน เนื่องจากในช่วงปลายปี 66 สต็อกยางของจีนลดลงค่อนข้างมาก
 
นอกจากนี้ในช่วงครึ่งปีหลัง จะมีการขายยางตามสัญญา EUDR ซึ่งจะส่งผลให้อัตรากำไรสูงขึ้นอีกด้วย
 
ด้านธุรกิจปาล์ม คาดว่าจะเริ่มกลับมามีกำไรได้บ้าง หลังมีการปรับปรุงเครื่องจักร ส่วนธุรกิจพลังงานทดแทน คาดว่าจะเห็นปริมาณขาย Biogas มากขึ้น หลังมีการทำสัญญาขายกับลูกค้ารายใหญ่ที่จะมี การส่งมอบในครึ่งปีหลัง
 
“เรายังคงราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 3.80 บาท อิง PER 10 เท่า แม้ว่าราคาหุ้นปัจจุบันจะฟื้นตัว มาบางจากชวงปลายปีก่อน แต่ยังม Upside ค่อนข้างสูง จึงยังคงคำแนะนา “ซื้อ”