Mr.Data
ท่ามกลางแนวโน้มธุรกิจอสังหาฯที่ชะลอตัวจากปัญหาเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา และยอดปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงิน ซึ่งในเวลานี้ต้องยอมรับว่า ตลาดอสังหาฯระดับปานกลางถึงล่าง ได้รับผลกระทบหนักมาก!
แน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่อง อย่างผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าจะส่งผลกระทบในเชิงลบไปทั้งหมด
เพราะหากเจาะลึกลงในรายละเอียดจะพบว่า ตลาดสินค้าเฟอร์นิเจอร์ระดับบน หรือ Luxury แทบไม่ได้รับผลกระทบ และมีกำไรอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาฯส่วนใหญ่ต่างปรับตัว ด้วยการเข้าไปบุกตลาดอสังหาฯระดับบน หรือ Luxury เนื่องจากยังคงเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ แทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา
สัปดาห์นี้ Mr.Data พามารู้จักหุ้นผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ในตลาดหุ้น เทียบกับแบบหมัดต่อหมัดว่า ฐานะทางการเงินใครเจ๋งกว่ากัน ไม่ว่าจะเป็นอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อัตรากำไรสุทธิ (NPM) และอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (P/E)
เชื่อว่าจะเป็นทางเลือกประกอบการตัดสินใจลงทุนได้เป็นอย่างดี
เริ่มจาก บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) (CHIC) เป็นศูนย์รวมจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน ที่นอนและเครื่องนอน อย่างครบวงจร (One Stop Shopping) ในรูปแบบ Stand Alone ภายใต้ชื่อ "ชิค รีพับบลิค (CHIC)" และ "รีน่า เฮย์ (Rina Hey)"
รายได้รวมในปี 2565 อยู่ที่ 770 ล้านบาท ส่วนในงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 500.97 ล้านบาท กำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 16.58 ล้านบาท และในงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 มีกำไรสุทธิ 13.82 ล้านบาท
บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์จากไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด ไม้เอ็มดีเอฟแบบประกอบด้วยตนเอง เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา กระดาษปิดผิว ไม้ยางพาราแปรรูปอบแห้ง และให้บริการตัดแผ่นปิดขอบไม้ (พีวีซี) เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีหนึ่งในบริษัทย่อยที่ลงทุนด้านพลังงานทดแทน
ในปี 2565 มีรายได้รวม 1,463.40 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนแรกปี 2566 มีรายได้รวม 1,041.23
ล้านบาท ในปี 2565 ในปี 2565 มีกำไรสุทธิ 37.46 ล้านบาท ส่วนในงวด 9 เดือนแรกปี 2566
ขาดทุนสุทธิ 85.54 ล้านบาท
บริษัท ยูโร ครีเอชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (EURO) จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านครบวงจร ครอบคลุมทั้งเฟอร์นิเจอร์ชุดครัว เฟอร์นิเจอร์สำนักงาน เฟอร์นิเจอร์นอกอาคาร ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่าง สินค้าและวัสดุเพื่อการตกแต่ง ของใช้ เครื่องนอน เครื่องออกกำลังกาย และสินค้าหรืออุปกรณ์เทคโนโลยี ภายใต้ชื่อร้าน "Euro Creations" และร้านภายใต้แบรนด์อื่นๆ
เข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ mai วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา แต่ราคายังต่ำกว่า IPO ที่ 10.60 บาท เนื่องจากภาวะตลาดไม่เอื้อ
ในปี 2565 มีรายได้รวม 1,068.45 ล้านบาท ปี 2566 รายได้รวมเพิ่มเป็น 1,274.76 ล้านบาท ในปี 2565 มีกำไรสุทธิ 106.16 บาท และในปี 2566 เพิ่มเป็น 162.52 ล้านบาท
"แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2567 มั่นใจว่าจะเติบโตทำ New High จากยอดสั่งซื้อสินค้าที่เตรียมส่งมอบ (Backlog) ในปีนี้ จึงวางเป้าหมายรายได้ปี 67 เติบโต 20% โดยมาจากการเปิดโชว์รูมใหม่ที่ภูเก็ตเร็วกว่าแผนงานที่วางไว้ เพื่อขยายฐานลูกค้ารายย่อยและโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่ในกรุงเทพฯ และภูเก็ต ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก รวมถึงขยายตลาดสู่จังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งปัจจุบันมีผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ และภายในไตรมาส 2/67 จะเปิดโชว์รูมใหม่อีกแห่งในย่านทองหล่อ ซอย 5 ตอกย้ำการวางเป้าหมายในการระดมทุนเพื่อสร้างการเติบโตภายหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ"นายเควิน กัมบีร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EURO กล่าว
ขณะที่โบรกเกอร์ให้ราคาเป้าหมาย EURO ในปี 2567 ที่ 13.80 - 14.90 บาทต่อหุ้น โดยคาดการณ์ผลการดำเนินงานปี 2566 - 2568 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากเทรนด์กลุ่มลูกค้าระดับลักชัวรี่ที่มีความต้องการตกแต่งที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น แผนเปิดโชว์รูมใหม่อีก 3 แห่ง เพื่อนำเสนอเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งที่หลากหลายยิ่งขึ้น การเพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่ ขยายฐานลูกค้า และเพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่ ประกอบกับสินค้ากลุ่มลักชัวรี่มีอัตรากำไรในระดับสูง
บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) (ILM) ประกอบธุรกิจร้านค้าปลีกจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านครบวงจรในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ร้านค้า "Index Living Mall" และแบรนด์อื่น ๆ รวมทั้งจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางอื่นๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ที่ครอบคลุมลูกค้าทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ 2. ประกอบธุรกิจพื้นที่ให้เช่าภายใต้รูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์ ภายใต้แบรนด์ "The Walk" "Little Walk" และ "Index Mall" รวมถึงพื้นที่เช่าในสาขาของ Index Living Mall
ในปี 2565 มีรายได้รวม 8,996.01 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนแรกปี 2566 มีรายได้รวม 6,845.97 ล้านบาท ในปี 2565 มีกำไรสุทธิ 659.06 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนแรกปี 2566 กำไรสุทธิ 529.42 ล้านบาท
และบริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (MODERN) ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ครบวงจรครอบคลุมทั้งเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน เฟอร์นิเจอร์บ้าน เฟอร์นิเจอร์ชุดครัว และเฟอร์นิเจอร์นอกอาคาร โดยจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายในประเทศผ่านทีมขายตรง ผ่านโชว์รูม และตัวแทนจำหน่ายในภูมิภาคต่างๆ ตลอดจนส่งออกต่างประเทศ นอกจากนี้ยังนำเข้าเฟอร์นิเจอร์และเป็นผู้นำเข้าวัสดุอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์และวัสดุเพื่อการตกแต่งภายในจากต่างประเทศ โดยบริษัทมีการให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย
ในปี 2565 มีรายได้รวม 2,434.47 ล้านบาท ในปี 2566 มีรายได้รวม 2,576.84 ล้านบาท ในปี 2565 มีกำไรสุทธิ 39.05 ล้านบาท ในปี 2566 กำไรสุทธิ 60.03 ล้านบาท
เทียบกันหมัดต่อหมัดแบบนี้ เชื่อว่านักลงทุนคงมีคำตอบในใจ...สำหรับหุ้นผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ในตลาดหุ้น ซึ่งแต่ละบริษัทมีความชัดเจนในกลุ่มลูกค้า และโอกาสการเติบโตในอนาคตน่าสนใจเพียงใด!!!!
ท่ามกลางแนวโน้มธุรกิจอสังหาฯที่ชะลอตัวจากปัญหาเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา และยอดปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงิน ซึ่งในเวลานี้ต้องยอมรับว่า ตลาดอสังหาฯระดับปานกลางถึงล่าง ได้รับผลกระทบหนักมาก!
แน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่อง อย่างผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าจะส่งผลกระทบในเชิงลบไปทั้งหมด
เพราะหากเจาะลึกลงในรายละเอียดจะพบว่า ตลาดสินค้าเฟอร์นิเจอร์ระดับบน หรือ Luxury แทบไม่ได้รับผลกระทบ และมีกำไรอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาฯส่วนใหญ่ต่างปรับตัว ด้วยการเข้าไปบุกตลาดอสังหาฯระดับบน หรือ Luxury เนื่องจากยังคงเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ แทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา
สัปดาห์นี้ Mr.Data พามารู้จักหุ้นผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ในตลาดหุ้น เทียบกับแบบหมัดต่อหมัดว่า ฐานะทางการเงินใครเจ๋งกว่ากัน ไม่ว่าจะเป็นอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อัตรากำไรสุทธิ (NPM) และอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (P/E)
เชื่อว่าจะเป็นทางเลือกประกอบการตัดสินใจลงทุนได้เป็นอย่างดี
เริ่มจาก บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) (CHIC) เป็นศูนย์รวมจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน ที่นอนและเครื่องนอน อย่างครบวงจร (One Stop Shopping) ในรูปแบบ Stand Alone ภายใต้ชื่อ "ชิค รีพับบลิค (CHIC)" และ "รีน่า เฮย์ (Rina Hey)"
รายได้รวมในปี 2565 อยู่ที่ 770 ล้านบาท ส่วนในงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 500.97 ล้านบาท กำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 16.58 ล้านบาท และในงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 มีกำไรสุทธิ 13.82 ล้านบาท
บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์จากไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด ไม้เอ็มดีเอฟแบบประกอบด้วยตนเอง เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา กระดาษปิดผิว ไม้ยางพาราแปรรูปอบแห้ง และให้บริการตัดแผ่นปิดขอบไม้ (พีวีซี) เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีหนึ่งในบริษัทย่อยที่ลงทุนด้านพลังงานทดแทน
ในปี 2565 มีรายได้รวม 1,463.40 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนแรกปี 2566 มีรายได้รวม 1,041.23
ล้านบาท ในปี 2565 ในปี 2565 มีกำไรสุทธิ 37.46 ล้านบาท ส่วนในงวด 9 เดือนแรกปี 2566
ขาดทุนสุทธิ 85.54 ล้านบาท
บริษัท ยูโร ครีเอชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (EURO) จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านครบวงจร ครอบคลุมทั้งเฟอร์นิเจอร์ชุดครัว เฟอร์นิเจอร์สำนักงาน เฟอร์นิเจอร์นอกอาคาร ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่าง สินค้าและวัสดุเพื่อการตกแต่ง ของใช้ เครื่องนอน เครื่องออกกำลังกาย และสินค้าหรืออุปกรณ์เทคโนโลยี ภายใต้ชื่อร้าน "Euro Creations" และร้านภายใต้แบรนด์อื่นๆ
เข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ mai วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา แต่ราคายังต่ำกว่า IPO ที่ 10.60 บาท เนื่องจากภาวะตลาดไม่เอื้อ
ในปี 2565 มีรายได้รวม 1,068.45 ล้านบาท ปี 2566 รายได้รวมเพิ่มเป็น 1,274.76 ล้านบาท ในปี 2565 มีกำไรสุทธิ 106.16 บาท และในปี 2566 เพิ่มเป็น 162.52 ล้านบาท
"แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2567 มั่นใจว่าจะเติบโตทำ New High จากยอดสั่งซื้อสินค้าที่เตรียมส่งมอบ (Backlog) ในปีนี้ จึงวางเป้าหมายรายได้ปี 67 เติบโต 20% โดยมาจากการเปิดโชว์รูมใหม่ที่ภูเก็ตเร็วกว่าแผนงานที่วางไว้ เพื่อขยายฐานลูกค้ารายย่อยและโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่ในกรุงเทพฯ และภูเก็ต ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก รวมถึงขยายตลาดสู่จังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งปัจจุบันมีผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ และภายในไตรมาส 2/67 จะเปิดโชว์รูมใหม่อีกแห่งในย่านทองหล่อ ซอย 5 ตอกย้ำการวางเป้าหมายในการระดมทุนเพื่อสร้างการเติบโตภายหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ"นายเควิน กัมบีร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EURO กล่าว
ขณะที่โบรกเกอร์ให้ราคาเป้าหมาย EURO ในปี 2567 ที่ 13.80 - 14.90 บาทต่อหุ้น โดยคาดการณ์ผลการดำเนินงานปี 2566 - 2568 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากเทรนด์กลุ่มลูกค้าระดับลักชัวรี่ที่มีความต้องการตกแต่งที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น แผนเปิดโชว์รูมใหม่อีก 3 แห่ง เพื่อนำเสนอเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งที่หลากหลายยิ่งขึ้น การเพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่ ขยายฐานลูกค้า และเพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่ ประกอบกับสินค้ากลุ่มลักชัวรี่มีอัตรากำไรในระดับสูง
บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) (ILM) ประกอบธุรกิจร้านค้าปลีกจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านครบวงจรในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ร้านค้า "Index Living Mall" และแบรนด์อื่น ๆ รวมทั้งจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางอื่นๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ที่ครอบคลุมลูกค้าทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ 2. ประกอบธุรกิจพื้นที่ให้เช่าภายใต้รูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์ ภายใต้แบรนด์ "The Walk" "Little Walk" และ "Index Mall" รวมถึงพื้นที่เช่าในสาขาของ Index Living Mall
ในปี 2565 มีรายได้รวม 8,996.01 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนแรกปี 2566 มีรายได้รวม 6,845.97 ล้านบาท ในปี 2565 มีกำไรสุทธิ 659.06 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนแรกปี 2566 กำไรสุทธิ 529.42 ล้านบาท
และบริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (MODERN) ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ครบวงจรครอบคลุมทั้งเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน เฟอร์นิเจอร์บ้าน เฟอร์นิเจอร์ชุดครัว และเฟอร์นิเจอร์นอกอาคาร โดยจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายในประเทศผ่านทีมขายตรง ผ่านโชว์รูม และตัวแทนจำหน่ายในภูมิภาคต่างๆ ตลอดจนส่งออกต่างประเทศ นอกจากนี้ยังนำเข้าเฟอร์นิเจอร์และเป็นผู้นำเข้าวัสดุอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์และวัสดุเพื่อการตกแต่งภายในจากต่างประเทศ โดยบริษัทมีการให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย
ในปี 2565 มีรายได้รวม 2,434.47 ล้านบาท ในปี 2566 มีรายได้รวม 2,576.84 ล้านบาท ในปี 2565 มีกำไรสุทธิ 39.05 ล้านบาท ในปี 2566 กำไรสุทธิ 60.03 ล้านบาท
เทียบกันหมัดต่อหมัดแบบนี้ เชื่อว่านักลงทุนคงมีคำตอบในใจ...สำหรับหุ้นผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ในตลาดหุ้น ซึ่งแต่ละบริษัทมีความชัดเจนในกลุ่มลูกค้า และโอกาสการเติบโตในอนาคตน่าสนใจเพียงใด!!!!
ที่เกี่ยวข้อง
