จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : HL ลุยขยายสาขาสิ้นปี67แตะ 70 แห่ง หนุนนโยบาย สปสช.รับยาใกล้บ้าน


15 กุมภาพันธ์ 2567
กระทรวงสาธารณสุขวางนโยบาย รับมือความท้าทายด้านสุขภาพในอนาคต เน้นการเข้าถึงการรักษาของคนไทย หนุนกลยุทธ์ บมจ.เฮลท์ลีด (HL) สิ้นปี 67 เพิ่มสาขาแตะ 70 แห่ง  พร้อมจับสปสช.เป็นจุดรับยาใกล้บ้าน ดันรายได้เติบโตแข็งแกร่ง 

รายงานพิเศษ HL copy.jpg

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในระหว่างการบรรยายพิเศษ ประเด็น "อนาคตระบบสาธารณสุขไทย" ว่า อนาคตด้านสุขภาพของคนไทย ต้องมีการปรับเปลี่ยนระบบการแพทย์และสาธารณสุข โดยใช้พื้นที่เป็นฐานและยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง พร้อมกับพลิกโฉมการบริการเป็น Digital Health  มีการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของหน่วยบริการต่างๆ เข้าด้วยกัน สามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ให้เป็นหลักประกันสุขภาพของประชาชนทุกคน ทุกสิทธิ์การรักษา และเกิดความมั่นคงทางสุขภาพในระยะยาว
          
ดังนั้นการวางนโยบายการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข จึงมุ่งเน้นที่จะตอบสนองประเด็นปัญหาที่จะส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุข และอนาคตของประเทศ อาทิ การลดลงของเด็กเกิดใหม่ สวนทางกับจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งกระทบต่อโครงสร้างประชากรไทย ก็มีการผลักดันนโยบายส่งเสริมการมีบุตรให้เป็นวาระแห่งชาติ แก้ไขกฎหมายต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้มีบุตรยากให้เข้าถึงการรักษาด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ เป็นต้น
          
รวมทั้งประเด็นปัญหาสำคัญอื่นๆ ทั้งด้านสุขภาพจิต และยาเสพติด เศรษฐกิจสุขภาพ (Healthy City Model) มะเร็งครบวงจร สถานชีวาภิบาล ทีมเชื่อมประสานใจ Care D+ โดยมีเป้าหมายให้พร้อมในการรับมือต่อความท้าทายด้านสุขภาพในอนาคต เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน และสร้างความมั่นคงทางสุขภาพในระยะยาว

ซึ่งการวางระบบสาธารณสุขของไทยในอนาคต โดยเฉพาะการเข้าถึงการรักษาในทุกที่ของคนไทย  สนับสนุนกลยุทธ์การขยายสาขาของ บมจ.เฮลท์ลีด (HL)  ที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “ธัชพล ชลวัฒนสกุล”  ระบุ ในปี 67 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน  โดยมาจากการเติบโตจากยอดขายสาขาเดิม (SSSG : Same Store Sales Growth) และยอดขายจากสาขาใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นอีก 20 สาขาในปีนี้  ภายใต้แบรนด์ ร้านขายยา iCare, Pharmax, vitaminclub และ Super Drug  ส่งผลให้ปี 67 บริษัทฯ จะมีสาขารวม 70 สาขาทั่วประเทศ    
 
พร้อมกันนี้ บริษัทวางแผนเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ด้วยการเพิ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง รวมทั้งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการพัฒนาสินค้านวัตกรรมกว่า 10 รายการ ปัจจุบันเริ่มวางตลาดแล้ว เช่น สเปรย์สลายกลิ่นเอนกประสงค์ รวมทั้งนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์เข้ามาจำหน่าย เป็นต้น 
           
และบริษัทได้ร่วมกับสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในโครงการอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 กลุ่มอาการรับยาไม่มีค่าใช้จ่าย Common illness และโครงการรับยาใกล้บ้าน Model 3  ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ และเพิ่มจำนวนลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการในร้าน 
           
ขณะที่ไตรมาส 1/67 บริษัทฯ ยังได้รับอานิสงส์จากมาตรการ Easy E-Receipt ที่ประชาชนสามารถซื้อสินค้าและบริการเพื่อนำมาลดหย่อนภาษีปี 2567 (ยื่นปี 2568) ได้สูงสุด 50,000 บาท โดยซื้อสินค้าหรือบริการตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ.67 กับร้านค้าที่สามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) 
           
"ปี 67 เฮลท์ลีด ตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 10% โดยจะมาจากยอดขายสาขาเดิม และการเพิ่มสาขาใหม่ 20 สาขา เพิ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง รวมทั้งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ รวมทั้งได้ร่วมกับสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ในโครงการอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 กลุ่มอาการรับยาไม่มีค่าใช้จ่าย และโครงการรับยาใกล้บ้าน Model 3  ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างผลตอบแทนที่แข็งแกร่งในระยะยาว นอกจากนี้ยังได้รับผลดีจากมาตรการ Easy E-Receipt ที่จะสนับสนุนผลประกอบการในไตรมาส 1/67 ให้เพิ่มขึ้นด้วย" นายธัชพล กล่าว
HL