บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งตัวผันผวน จากปัจจัยบวกการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐชะลอตัว แต่แนะนำจับตาการวินิจฉัยคดี “พิธา-ก้าวไกล” หาเสียงแก้ไขมาตรา 112 อย่างใกล้ชิด จึงให้กรอบดัชนี 1,350-1,400 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายฟรีวีซ่าไทย-จีนถาวร ได้แก่ AOT-AAV-MINT-CENTEL-ERW-SPA-SKY

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังแกว่งตัวผันผวน โดยมีแรงหนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อที่ชะลอตัวในสหรัฐ ขณะที่ปัจจัยในประเทศได้ปัจจัยบวกจากกลุ่มท่องเที่ยวหลังมีมาตรการฟรีวีซ่าถาวรไทย-จีนโดยจะเริ่มใช้ตั้งแต่ 1 มี.ค.เป็นต้นไป ขณะที่ยังมีประเด็นการวินิจฉัยคดี “พิธา-ก้าวไกล” หาเสียงแก้ไขมาตรา 112 ล้มล้างการปกครองหรือไม่ที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดในวันที่ 31 ม.ค. จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ 1,350-1,400 จุด
ทั้งนี้สหรัฐเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.6%YoY ในเดือนธ.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จากระดับ 2.6% ในเดือนพ.ย. บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัวสนับสนุนตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเห็นได้จาก FedWatch Tool ของ CME Group ให้น้ำหนัก 97.4% ที่ FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งแรกของปีในวันที่ 30-31 ม.ค. และเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐ
ขณะที่ปัจจัยบวกในประเทศสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เตรียมผลักดันโครงการลงทุนภาครัฐเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีอยู่ 127 โครงการมูลค่าประมาณ 1.16 ล้านล้านบาท โดยทุกจำนวน 1 แสนล้านบาทของการลงทุนคาดว่าจะช่วยผลักดัน GDP ให้ขยายตัวได้ประมาณ 0.3%
ในส่วนของปัจจัยลบมาจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่ยังตึงเครียด ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวไม่เต็มที่ และภาระหนี้ครัวเรือนสูง
ส่วนปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ วันนี้ (30 ม.ค.) จะมีการประชุมครม., วันที่ 31 ม.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย และกำหนดการวินิจฉัยคดี “พิธา-ก้าวไกล” หาเสียงแก้ไขมาตรา 112 ล้มล้างการปกครองหรือไม่และวันที่ 7 ก.พ. กำหนดการประชุมกนง. ครั้งที่ 1/2567 ส่วนปัจจัยต่างประเทศวันนี้ (30 ม.ค.) สหรัฐ รายงานดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนธ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค., วันที่ 31 ม.ค. จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการเดือนม.ค., สหรัฐ รายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.จาก ADP และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ (เช้าวันที่ 1 ก.พ.) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, วันที่ 30-31 ม.ค. กำหนดการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED), วันที่ 1 ก.พ. จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนม.ค.จากไฉซิน และ อียู รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนม.ค.
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายฟรีวีซ่าไทย-จีนถาวร โดยหุ้นที่ได้อานิสงส์จากนโยบายดังกล่าว ได้แก่ AOT, AAV, MINT, CENTEL, ERW, SPA และ SKY
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินว่า สัปดาห์นี้จับตาการประชุม FOMC และประกาศตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐ และการประชุมเฟดซึ่งคาดว่าจะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25%-5.50% และหากไม่มีสัญญาณลบจากรายงานการประชุมเฟดเพิ่มเติมจะเป็นแรงหนุนต่อราคาทองคำ
โดยฝ่ายวิจัยประเมินว่าทางเทคนิคราคาทองคำกำลังสร้างฐานเหนือ 2,000$/oz อีกทั้งความตึงเครียดในตะวันออกกลางเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นแรงหนุนต่อสินทรัพย์ปลอดภัย คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนในกรอบ 2,000-2,040 $/oz จึงแนะนำซื้อขายตามกรอบที่ให้ไว้

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังแกว่งตัวผันผวน โดยมีแรงหนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อที่ชะลอตัวในสหรัฐ ขณะที่ปัจจัยในประเทศได้ปัจจัยบวกจากกลุ่มท่องเที่ยวหลังมีมาตรการฟรีวีซ่าถาวรไทย-จีนโดยจะเริ่มใช้ตั้งแต่ 1 มี.ค.เป็นต้นไป ขณะที่ยังมีประเด็นการวินิจฉัยคดี “พิธา-ก้าวไกล” หาเสียงแก้ไขมาตรา 112 ล้มล้างการปกครองหรือไม่ที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดในวันที่ 31 ม.ค. จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ 1,350-1,400 จุด
ทั้งนี้สหรัฐเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.6%YoY ในเดือนธ.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จากระดับ 2.6% ในเดือนพ.ย. บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัวสนับสนุนตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเห็นได้จาก FedWatch Tool ของ CME Group ให้น้ำหนัก 97.4% ที่ FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งแรกของปีในวันที่ 30-31 ม.ค. และเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐ
ขณะที่ปัจจัยบวกในประเทศสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เตรียมผลักดันโครงการลงทุนภาครัฐเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีอยู่ 127 โครงการมูลค่าประมาณ 1.16 ล้านล้านบาท โดยทุกจำนวน 1 แสนล้านบาทของการลงทุนคาดว่าจะช่วยผลักดัน GDP ให้ขยายตัวได้ประมาณ 0.3%
ในส่วนของปัจจัยลบมาจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่ยังตึงเครียด ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวไม่เต็มที่ และภาระหนี้ครัวเรือนสูง
ส่วนปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ วันนี้ (30 ม.ค.) จะมีการประชุมครม., วันที่ 31 ม.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย และกำหนดการวินิจฉัยคดี “พิธา-ก้าวไกล” หาเสียงแก้ไขมาตรา 112 ล้มล้างการปกครองหรือไม่และวันที่ 7 ก.พ. กำหนดการประชุมกนง. ครั้งที่ 1/2567 ส่วนปัจจัยต่างประเทศวันนี้ (30 ม.ค.) สหรัฐ รายงานดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนธ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค., วันที่ 31 ม.ค. จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการเดือนม.ค., สหรัฐ รายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.จาก ADP และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ (เช้าวันที่ 1 ก.พ.) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, วันที่ 30-31 ม.ค. กำหนดการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED), วันที่ 1 ก.พ. จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนม.ค.จากไฉซิน และ อียู รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนม.ค.
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายฟรีวีซ่าไทย-จีนถาวร โดยหุ้นที่ได้อานิสงส์จากนโยบายดังกล่าว ได้แก่ AOT, AAV, MINT, CENTEL, ERW, SPA และ SKY
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินว่า สัปดาห์นี้จับตาการประชุม FOMC และประกาศตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐ และการประชุมเฟดซึ่งคาดว่าจะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25%-5.50% และหากไม่มีสัญญาณลบจากรายงานการประชุมเฟดเพิ่มเติมจะเป็นแรงหนุนต่อราคาทองคำ
โดยฝ่ายวิจัยประเมินว่าทางเทคนิคราคาทองคำกำลังสร้างฐานเหนือ 2,000$/oz อีกทั้งความตึงเครียดในตะวันออกกลางเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นแรงหนุนต่อสินทรัพย์ปลอดภัย คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนในกรอบ 2,000-2,040 $/oz จึงแนะนำซื้อขายตามกรอบที่ให้ไว้
ยอดนิยม
GULF ลั่นกรณี KBANK ซื้อหุ้นคืน จำกัดสิทธิ "ซื้อขายหุ้น" ของบริษัทไม่ได้ แม้ KBANK ร่อนหนังสือวอนห้ามจำหน่าย
“พงษ์ศักดิ์” ทุ่ม 3.5 พันลบ. เทนเดอร์ SVI หุ้นละ 7.50 บาท ก่อนเพิกถอนออกจากตลาดหุ้น
“เซียนมี่” รับทรัพย์ 146 ลบ. หลัง “พงศ์ศักดิ์” ทำเทรนเดอร์ หุ้น SVI ที่ราคา 7.50 บาท
โบรกฯ คาด IRPC พลิกมีกำไร ครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส หลังสต๊อกน้ำมันเป็นบวก-GIM พุ่ง