จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : ยอดผลิตรถยนต์ปีนี้คาดแตะ1.97 ล้านคัน กระตุ้นธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์ IHL


24 มกราคม 2567
การผลิตรถยนต์ปี 67  กลับมาฟื้นตัว หลังได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด 19 โดย Krungthai COMPASS คาดแตะ 1.97  ล้านคัน  หนุนยอดผลิตสินค้าและยอดขายเบาะหนังรถยนต์ของ บมจ.อินเตอร์ไฮด์ (IHL)  มีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

รายงานพิเศษ Iยอดผลิตรถยนต์ปีนี้คาดแตะ1.97 ล้.jpg

ในช่วงที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 เป็นอย่างมาก ทั้งในฝั่งอุปทานจากปัญหา Supply Chain Disruption อาทิ การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ ทำให้ค่ายรถยนต์ต้องหยุดเดินสายการผลิตชั่วคราว ขณะที่ฝั่งอุปสงค์หดตัวรุนแรงจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อ และภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัว ส่งผลให้ยอดการผลิตรถยนต์ของไทยในปี 2563 ลดลง 29%YoY หรือผลิตได้เพียง 1.4 ล้านคัน จากที่เคยผลิตได้สูงกว่า 2.0 ล้านคัน 
          
อย่างไรก็ดี หลังจากปัญหาต่าง ๆ เริ่มทยอยคลี่คลายลง ภาคการผลิตรถยนต์ของไทยเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น สะท้อนจากยอดการผลิตรถยนต์ปี 2565 ขยายตัว 11.7%YoY ขึ้นมาแตะระดับ 1.88 ล้านคัน และคาดว่าจะทรงตัวต่อเนื่องในปี 2566 แบ่งเป็นยอดการผลิตเพื่อส่งออก 1.08 ล้านคัน และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 0.8 ล้านคัน
        
Krungthai COMPASS ประเมินว่า อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ของไทยในปี 2567 ยังเป็นปีของการฟื้นตัว โดยยอดการผลิตรถยนต์ของไทยในปี 2567 มีโอกาสขยายตัว 4.8%YoY ไปแตะที่ระดับ 1.97 ล้านคัน กลับมาอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 (ปี 2562) จาก 2 แรงขับเคลื่อนหลัก คือ 
        
1. มาตรการ EV 3.0 เริ่มเห็นผลที่ชัดเจนแล้ว โดยค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ที่เข้าร่วมมาตรการฯ เริ่มเดินสายผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย จากมาตรการสนับสนุนของภาครัฐต่าง ๆ ที่ช่วยกระตุ้นและจูงใจให้ภาคเอกชนลงทุนเพิ่มเติมในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะมาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าระยะ 1 (EV 3.0) ที่เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2565
         
เบื้องต้น ประเมินว่าผลของมาตรการ EV 3.0 จะช่วยหนุนยอดการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นราว 5-7 หมื่นคัน หรือคิดเป็น 3-4% ของยอดการผลิตรถยนต์ในปี 2567 ซึ่ง Upside ใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น และล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.66 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติมาตรการ EV 3.5 ที่บังคับใช้ในช่วงปี 2567-2570 เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะส่งผลดีต่อยอดการผลิตรถยนต์ในระยะข้างหน้า
          
2. ยอดจำหน่ายรถยนต์ทั่วโลกทยอยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และความต้องการใช้รถยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engine: ICE) ที่คาดว่าจะยังครองตลาดโลกไปอีกราว 6-7 ปี โดยคาดว่า ยอดการผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกของไทยในปี 2567 มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นไปแตะที่ระดับ 1.13-1.16 ล้านคัน หรือขยายตัวราว 4-8%YoY ตามยอดจำหน่ายรถยนต์ทั่วโลกที่ทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง 
          
ขณะที่ยอดการผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายในประเทศ ของปี 2567 จะอยู่ในระดับทรงตัวที่ 8.05 แสนคัน ซึ่งเป็นผลกดดันจากกำลังซื้อที่อ่อนแอ สืบเนื่องจากปัญหาค่าครองชีพ หนี้ครัวเรือน และดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง ตลอดจนมาตรการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเข้มงวดเพิ่มขึ้น จากความกังวลต่อความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้กู้
การผลิตรถยนต์ที่มีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง  ส่งผลดีต่อธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์ให้เติบโตตามไปด้วย ซึ่ง “องอาจ ดำรงสกุลวงษ์”  ประธานกรรมการบริหาร บมจ.อินเตอร์ไฮด์ (IHL)  ระบุ ธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทยังมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากค่ายรถยนต์พันธมิตรรายใหญ่ ทั้ง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด, บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จํากัด และบริษัทฯ สามารถเดินเครื่องผลิตได้เต็มกำลังการผลิต สอดคล้องกับยอดสั่งซื้อที่มีเข้ามาต่อเนื่อง
IHL