เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 02-01-24
02-01-24 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***ปี 2566 ที่ผ่านมา จัดว่าหนักหนาสาหัสจริงๆ สำหรับหุ้นไทยเรา วันทำการสุดท้าย SET INDEX ปิดที่ 1,415.85 จุด เพิ่มขึ้น +5.42 จุด มีมูลค่าการซื้อขายรวม 47,801.77 ล้านบาท
***หันไปดูสถิติหุ้นไทยรอบ 1 ปีที่ผ่านมา (ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.- 28 ธ.ค.66 )ในส่วนของพอร์ตการลงทุนจากแต่ละฝ่าย พบว่าพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติถล่มไม่มียั้ง โดยเริ่มขายมาตั้งแต่เดือนก.พ.เลยทีเดียว! ยอดสุทธิแล้วทั้งปีขายมากๆๆๆๆ ถึง -192,489.94 ล้านบาท ถัดมาจากพอร์ตโบรกเกอร์ขายสุทธิ -5,597.46 ล้านบาท ส่วนฝั่งซื้อสุทธิรอบปี 66 มีนักลงทุนรายย่อยที่สู้ชีวิตสุดๆ ซื้อสุทธิ 116,975.98 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันที่ซื้อสุทธิ 81,111.43 ล้านบาท
***ก้าวเข้าสู่ปีมักงรทอง ..เจ๊จิ๋มได้ภาวนาขอให้เป็นปีที่ดีของพวกเรานะคะ..เล่นหุ้นตัวไหน ขอให้ได้-ขอให้โดน เฮงๆ รวยๆ ปังๆ ทุกท่านนะคะ
***ในฝั่งของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ซึ่งเป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายของปี 2566 ดาวโจนส์ปิดที่ 37,689.54 จุด ลดลง 20.56 จุด หรือ -0.05%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,769.83 จุด ลดลง 13.52 จุด หรือ -0.28% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,011.35 จุด ลดลง 83.78 จุด หรือ -0.56%
***รายงานข่าวระบุว่าที่ยืนในแดนลบ เนื่องจากมีแรงขายทำกำไรและการปรับสถานะการลงทุนก่อนขึ้นปีใหม่ หลังจากตลาดทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงสิ้นปีนี้ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีหน้า ทั้งนี้ในรอบปี 2566 หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี, กลุ่มบริการด้านการสื่อสาร และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวโดดเด่น ขณะที่กลุ่มสาธารณูปโภค, กลุ่มพลังงาน และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ปรับตัวลง
***ส่วนตลาดหุ้นไทยน๊านนนนนน ภาพรวมในปี 2566 ดัชนี SET ลดลง 15.15% มาปิดสิ้นปี 2566 ที่ระดับ 1,415.85 จุด จากระดับ 1,668.66 จุด ณ สิ้นปี 2565 โดยตลาดหุ้นไทยทยอยปรับตัวลงตั้งแต่ต้นปีท่ามกลางปัจจัยกดดันทั้งในและต่างประเทศ อาทิ ความกังวลเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟด ปัญหาในภาคธนาคารของสหรัฐฯ สถานการณ์การเมืองในประเทศ ประเด็นความตึงเครียดในอิสราเอล การปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ตลอดจนสัญญาณการฟื้นตัวช้าของเศรษฐกิจในประเทศ โดยดัชนี SET แตะจุดต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปีที่ระดับ 1,354.73 จุด ในช่วงประมาณกลางเดือนธ.ค. ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนในช่วงปลายปี รับสัญญาณจากเฟดซึ่งบ่งชี้ว่า วงจรดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐฯ ได้จบลงแล้ว และอาจมีการปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2567
***สำหรับสัปดาห์นี้กูรูหุ้นประเมินสัญญาณทางเทคนิค มีแนวรับที่ 1,400 และ 1,380 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,430 และ 1,450 จุด โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค. ของไทย และทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี ISM/PMI ภาคการผลิตและบริการ ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนธ.ค. บันทึกการประชุมเฟด รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI เดือนธ.ค. ของจีน ยูโรโซนและญี่ปุ่น ตลอดจนดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนธ.ค. ของยูโรโซน
*** MGI ไม่รอด!!! โดนจนได้ ตลท.ประกาศห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance เริ่มตั้งแต่ 2-18 ม.ค. 2567 นอกจากนี้ยังมีหลักทรัพย์ตัวอื่นๆ โดนด้วยในช่วงเวลาเดียวกัน คือ BROOK, BROOK-W6 และ BROOK-W7 แต่สำหรับ JTS ขยับขึ้นสู่ระดับ 2 ห้าม Net Settlement, ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance ระหว่างวันที่ 2-18 ม.ค. 2567
***นี่ก้อคนละเรื่องเดียวกันกับ MGI เป็นเรื่องราวของ JKN ยังแก้ปมเรื่องหนี้สินไม่ได้..มีความคืบหน้าล่าสุด ทางบริษัทแจ้งว่าตอนนี้อยู่ระหว่างการจัดทําแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับการจัดกระแสเงินสดในการชําระหนี้ เพื่อเสนอต่อเจ้าหนี้และศาลพิจารณาอนุมัติ .. ดังนั้นแผนธุรกิจตลอดจนแผนฟื้นฟูกิจการจะสามารถนําเสนอได้ภายหลังจากที่ศาลฯ มีคําสั่งให้บริษัทฟื้นฟูกิจการและแต่งตั้งผู้ทําแผนแล้ว ซึ่งจากตารางขั้นตอนและกรอบระยะเวลา โดยประมาณข้างต้น คาดว่าศาลล้มละลายกลางจะมีคําสั่งให้บริษัทฟื้นฟูกิจการและแต่งตั้งผู้ทําแผนประมาณเดือน เมษายน 2567
***ทำเอาอึ้งกันไปสำหรับผู้ถือหุ้น SINGER เพราะตอนนี้บอร์ด SABUY บอกว่าจะยกเลิกแผนการลงทุนแล้วล่ะ!! จากเดิมที่เคยขอมติผู้ถือหุ้นเอาไว้ว่าจะเข้าลงทุนไปเมื่อเดือนเม.ย.66 ที่จะซื้อหุ้นเพิ่มเติม อีก 87,951,300 หุ้น ในราคาเฉลี่ย ไม่เกินหุ้นละ 27 บาท หรือราวๆ 10.70% ผ่านกระดานซื้อขายของตลาดหุ้น ซึ่งมีกำหนดที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในธันวาฯ 66
***เหตุผลที่ SABUY ยกเลิกครั้งนี้ อ้างว่าเป็นเพราะภาวะตลาดทุนที่ผันผวน ผลการดำเนินงานที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวัง และมีปัจจัยพื้นฐานที่ เปลี่ยนแปลงไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา อืมมมมมม!!! ต่างคน-ต่างคิด ต่างคน-ต่างใจ ส่วนราคาหุ้น SINGER ครั้งสุดท้ายปิดตลาดที่ 11.60 บาท รอบระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาเคยขึ้นไปสูงสุดที่ 31.25 บาท และต่ำสุดที่ 7.20 บาท
02-01-24 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***ปี 2566 ที่ผ่านมา จัดว่าหนักหนาสาหัสจริงๆ สำหรับหุ้นไทยเรา วันทำการสุดท้าย SET INDEX ปิดที่ 1,415.85 จุด เพิ่มขึ้น +5.42 จุด มีมูลค่าการซื้อขายรวม 47,801.77 ล้านบาท
***หันไปดูสถิติหุ้นไทยรอบ 1 ปีที่ผ่านมา (ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.- 28 ธ.ค.66 )ในส่วนของพอร์ตการลงทุนจากแต่ละฝ่าย พบว่าพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติถล่มไม่มียั้ง โดยเริ่มขายมาตั้งแต่เดือนก.พ.เลยทีเดียว! ยอดสุทธิแล้วทั้งปีขายมากๆๆๆๆ ถึง -192,489.94 ล้านบาท ถัดมาจากพอร์ตโบรกเกอร์ขายสุทธิ -5,597.46 ล้านบาท ส่วนฝั่งซื้อสุทธิรอบปี 66 มีนักลงทุนรายย่อยที่สู้ชีวิตสุดๆ ซื้อสุทธิ 116,975.98 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันที่ซื้อสุทธิ 81,111.43 ล้านบาท
***ก้าวเข้าสู่ปีมักงรทอง ..เจ๊จิ๋มได้ภาวนาขอให้เป็นปีที่ดีของพวกเรานะคะ..เล่นหุ้นตัวไหน ขอให้ได้-ขอให้โดน เฮงๆ รวยๆ ปังๆ ทุกท่านนะคะ
***ในฝั่งของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ซึ่งเป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายของปี 2566 ดาวโจนส์ปิดที่ 37,689.54 จุด ลดลง 20.56 จุด หรือ -0.05%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,769.83 จุด ลดลง 13.52 จุด หรือ -0.28% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,011.35 จุด ลดลง 83.78 จุด หรือ -0.56%
***รายงานข่าวระบุว่าที่ยืนในแดนลบ เนื่องจากมีแรงขายทำกำไรและการปรับสถานะการลงทุนก่อนขึ้นปีใหม่ หลังจากตลาดทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงสิ้นปีนี้ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีหน้า ทั้งนี้ในรอบปี 2566 หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี, กลุ่มบริการด้านการสื่อสาร และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวโดดเด่น ขณะที่กลุ่มสาธารณูปโภค, กลุ่มพลังงาน และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ปรับตัวลง
***ส่วนตลาดหุ้นไทยน๊านนนนนน ภาพรวมในปี 2566 ดัชนี SET ลดลง 15.15% มาปิดสิ้นปี 2566 ที่ระดับ 1,415.85 จุด จากระดับ 1,668.66 จุด ณ สิ้นปี 2565 โดยตลาดหุ้นไทยทยอยปรับตัวลงตั้งแต่ต้นปีท่ามกลางปัจจัยกดดันทั้งในและต่างประเทศ อาทิ ความกังวลเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟด ปัญหาในภาคธนาคารของสหรัฐฯ สถานการณ์การเมืองในประเทศ ประเด็นความตึงเครียดในอิสราเอล การปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ตลอดจนสัญญาณการฟื้นตัวช้าของเศรษฐกิจในประเทศ โดยดัชนี SET แตะจุดต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปีที่ระดับ 1,354.73 จุด ในช่วงประมาณกลางเดือนธ.ค. ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนในช่วงปลายปี รับสัญญาณจากเฟดซึ่งบ่งชี้ว่า วงจรดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐฯ ได้จบลงแล้ว และอาจมีการปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2567
***สำหรับสัปดาห์นี้กูรูหุ้นประเมินสัญญาณทางเทคนิค มีแนวรับที่ 1,400 และ 1,380 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,430 และ 1,450 จุด โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค. ของไทย และทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี ISM/PMI ภาคการผลิตและบริการ ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนธ.ค. บันทึกการประชุมเฟด รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI เดือนธ.ค. ของจีน ยูโรโซนและญี่ปุ่น ตลอดจนดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนธ.ค. ของยูโรโซน
*** MGI ไม่รอด!!! โดนจนได้ ตลท.ประกาศห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance เริ่มตั้งแต่ 2-18 ม.ค. 2567 นอกจากนี้ยังมีหลักทรัพย์ตัวอื่นๆ โดนด้วยในช่วงเวลาเดียวกัน คือ BROOK, BROOK-W6 และ BROOK-W7 แต่สำหรับ JTS ขยับขึ้นสู่ระดับ 2 ห้าม Net Settlement, ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance ระหว่างวันที่ 2-18 ม.ค. 2567
***นี่ก้อคนละเรื่องเดียวกันกับ MGI เป็นเรื่องราวของ JKN ยังแก้ปมเรื่องหนี้สินไม่ได้..มีความคืบหน้าล่าสุด ทางบริษัทแจ้งว่าตอนนี้อยู่ระหว่างการจัดทําแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับการจัดกระแสเงินสดในการชําระหนี้ เพื่อเสนอต่อเจ้าหนี้และศาลพิจารณาอนุมัติ .. ดังนั้นแผนธุรกิจตลอดจนแผนฟื้นฟูกิจการจะสามารถนําเสนอได้ภายหลังจากที่ศาลฯ มีคําสั่งให้บริษัทฟื้นฟูกิจการและแต่งตั้งผู้ทําแผนแล้ว ซึ่งจากตารางขั้นตอนและกรอบระยะเวลา โดยประมาณข้างต้น คาดว่าศาลล้มละลายกลางจะมีคําสั่งให้บริษัทฟื้นฟูกิจการและแต่งตั้งผู้ทําแผนประมาณเดือน เมษายน 2567
***ทำเอาอึ้งกันไปสำหรับผู้ถือหุ้น SINGER เพราะตอนนี้บอร์ด SABUY บอกว่าจะยกเลิกแผนการลงทุนแล้วล่ะ!! จากเดิมที่เคยขอมติผู้ถือหุ้นเอาไว้ว่าจะเข้าลงทุนไปเมื่อเดือนเม.ย.66 ที่จะซื้อหุ้นเพิ่มเติม อีก 87,951,300 หุ้น ในราคาเฉลี่ย ไม่เกินหุ้นละ 27 บาท หรือราวๆ 10.70% ผ่านกระดานซื้อขายของตลาดหุ้น ซึ่งมีกำหนดที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในธันวาฯ 66
***เหตุผลที่ SABUY ยกเลิกครั้งนี้ อ้างว่าเป็นเพราะภาวะตลาดทุนที่ผันผวน ผลการดำเนินงานที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวัง และมีปัจจัยพื้นฐานที่ เปลี่ยนแปลงไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา อืมมมมมม!!! ต่างคน-ต่างคิด ต่างคน-ต่างใจ ส่วนราคาหุ้น SINGER ครั้งสุดท้ายปิดตลาดที่ 11.60 บาท รอบระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาเคยขึ้นไปสูงสุดที่ 31.25 บาท และต่ำสุดที่ 7.20 บาท
ที่เกี่ยวข้อง
