เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 14-12-23
14-12-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***วันนี้จะมี 2 หุ้นน้องใหม่ไอพีโอป้ายแดงเข้าทำการซื้อขายในตลาดหุ้น..มาเริ่มกันที่ “ANI” หรือ บมจ. เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล (มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 9,702 ลบ.) ทำธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินชั้นนำกว่า 20 สายการบินใน 8 ประเทศและเขตบริหารพิเศษในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ซึ่งได้แก่ ประเทศไทย สิงคโปร์ เวียดนาม สาธารณรัฐประชาชนจีน เขตบริหารพิเศษฮ่องกง มาเลเซีย กัมพูชา และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ครอบคลุมเส้นทางการบินซึ่งมีปลายทางกว่า 400 แห่งในทุกภูมิภาคทั่วโลก
***ANI ขายหุ้นไอพีโอจำนวน 554,738,900 หุ้น ในราคาหุ้นละ 5.25 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 2,912,379,225 บาท มีบล.เกียรตินาคินภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย เงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำใช้ในการปรับโครงสร้างทางการเงินจากการเข้าซื้อธุรกิจ GSA ในสิงคโปร์และมาเลเซียที่ซื้อมาในช่วงปลายปี 2565 ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ เพื่อการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต
***และเมื่อวาน ANI ก้อแจ้งข่าวดีเกี่ยวกับผลประกอบการมารอไว้แล้ว โดยในไตรมาส 3/66 มีกำไรสุทธิ 240.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 101.34 ล้านบาท และงวด 9 เดือนกำไรสุทธิรวม 651.60 ล้านบาท จากที่ทำได้ 328.94 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน เเละในการเข้าตลาดเทรดนั้นส่วนของผู้ถือหุ้นเดิมแสดงความพร้อมใจว่าจะไม่เทขายออกมา... ร่วมจับตาดูกันว่า ตลอดทั้งวันราคาหุ้นจะยืนได้แค่ไหน เอาใจช่วยนะ
***อีกรายที่จะเข้าเทรดวันนี้คือ MGI หรือ บมจ.มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เข้าตลาด mai ภายใต้กลุ่มอุปโภคบริโภค (มีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,039.50 ลบ.) ทำธุรกิจพาณิชย์จากการจัดประกวดนางงาม “มิสแกรนด์ ไทยแลนด์” และ ”มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล” ตลอดจน ธุรกิจสื่อและบันเทิง และธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน โดยสินค้าที่บริษัทจำหน่ายเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าและผิวกาย ผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์อาหารและอาหารเสริม ภายใต้ตราสินค้าของบริษัท ได้แก่ “Miss Grand” “NangNgam”
***MGI ขายหุ้นไอพีโอจำนวน 60 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 4.95 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 297 ล้านบาท ทั้งนี้การกำหนดราคามาจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E Ratio) เท่ากับ 11.76 เท่า ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิ 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566) มีบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล.เอเอสแอล เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย สำหรับเงินที่ได้จะนำไปลงทุนปรับปรุงตกแต่งอาคารสำนักงาน พัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าและผลิตรายการทางออนไลน์ พัฒนาขีดความสามารถของระบบสารสนเทศ ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท
***เจ๊จิ๋มขอส่งกำลังแรงใจไปให้กับน้องใหม่ป้ายแดงทั้ง 2 แห่ง ANI-MGI ให้ราคาหุ้นเปิดแรงๆ ยืนเหนือจอง หุ้นเป็นสีเขียวสดใสสบายตาไปตลอดทั้งวัน ...เพื่อเป็นผู้นำร่องให้กับไอพีโอตัวอื่นๆ ที่กำลังเข้าคิวกันยาวเหยียดและรอเวลาที่เหมาะสมเข้ามาซื้อขายในอนาคตต่อไป
***ส่วนเรื่องที่อยู่ในกระแสอย่างการจัดการหนี้และพักหนี้ โดยรัฐบาลนั้น มีการประเมินว่าไม่มีผลกระทบหุ้นกลุ่มแบงก์ แต่คาดมีผลกระทบเล็กน้อยต่อกลุ่ม Finance เนื่องจากโครงการนี้มีความเกี่ยวข้องกับสถาบันการเงินของรัฐ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธกส. และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFI) จึงมองผลกระทบจำกัดต่อ KTB หรือแทบจะไม่มีผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มแบงก์ นอกจากนี้ลูกค้าในกลุ่มแบงก์ยังเป็นคนละกลุ่มกับที่ทางภาครัฐเข้าให้การช่วยเหลือ สำหรับด้านสินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่ที่จะมีการกำหนดเพดานดอกเบี้ย เรามองว่าอัตราดอกเบี้ยของธนาคารไม่เกินระดับเพดานที่กำหนดอยู่แล้ว จึงไม่มีผลกระทบ แต่อาจจะมีผลกระทบทางลบเล็กน้อยต่อกลุ่ม Finance
***ขอแสดงความยินดีกับ AMA ด้วยคนค่ะ ตอนนี้ได้รับมอบเรือใหม่ Global Saturn ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น “ญาณี (Yanee)” เรียบร้อยแล้ว โดยมีขนาดน้ำหนักบรรทุก 13,000 เดทเวทตัน สร้างในปี 2552 มีอายุการใช้งานคงเหลือประมาณ 16 ปี เป็นเรือบรรทุกน้ำมัน และสารเคมี จำนวน 1 ลำ แว่วๆ ว่าบริษัทฯ มีแผนที่จะนำเรือบรรทุกน้ำมัน และสารเคมีลำใหม่ไปให้บริการขนส่งสินค้าเหลวในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เช่น จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เป็นต้น ภูมิภาคเอเชียใต้ เช่น อินเดีย ศรีลังกา และบังคลาเทศ และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ ซึ่งจะทำให้มีรายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือเพิ่มขึ้น
***สนใจอยากได้ผลตอบแทนจากหุ้นกู้ดีๆ เชิญทางนี้ค่ะคุน!!!! MTC เตรียมเปิดขายหุ้นกู้ 2 ชุดใหม่ อัตราดอกเบี้ย 4.25-4.40% ต่อปี เตรียมเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 21-22 และ 25 ธันวาฯนี้ ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 11 แห่ง ดังนี้
1. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
2. ธนาคารซีไอเอ็มบี จำกัด (มหาชน)
3. บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด
4. บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
5. บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด
6. บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด
7. บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
8.บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)
9. บริษัทหลักทรัพย์ พาย จํากัด (มหาชน)
10. บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด
11. บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน)
***ทั้งนี้ หุ้นกู้ 2 ชุดของ MTC ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566
-หุ้นกู้ชุดที่ 1 มีอายุ 1 ปี 5 เดือน 15 วัน โดยครบกำหนดไถ่ถอนปี 2568 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.25% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ โดยดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะมีระยะเวลา 2 เดือน 15 วัน
-หุ้นกู้ชุดที่ 2 มีอายุ 2 ปี 5 เดือน 14 วัน ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2569 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.40% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ โดยดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะมีระยะเวลา 2 เดือน 14 วัน
***ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงจาก MTC "ปริทัศน์ เพชรอำไพ" มั่นใจว่าหุ้นกู้ทั้ง 2 ชุดใหม่ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เพราะนอกจากประเด็นการให้อัตราผลตอบแทนที่ดีแล้ว ยังได้รับความเชื่อมั่นด้วยเพราะเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ที่บริหารงานภายใต้หลักธรรมาภิบาล และมีศักยภาพที่จะผลักดันการเติบโตได้อย่างมั่นคง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ MTC ขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ และให้ความสำคัญกับการดูแลและบริหารหนี้ พร้อมกับการให้บริการที่เป็นเลิศ สร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า ควบคู่กับการเพิ่มช่องทางให้ลูกค้าได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรมและโปร่งใส เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยบริษัทฯได้ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโตสู่ระดับ 200,000 ล้านบาทในปี 2569
14-12-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***วันนี้จะมี 2 หุ้นน้องใหม่ไอพีโอป้ายแดงเข้าทำการซื้อขายในตลาดหุ้น..มาเริ่มกันที่ “ANI” หรือ บมจ. เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล (มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 9,702 ลบ.) ทำธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินชั้นนำกว่า 20 สายการบินใน 8 ประเทศและเขตบริหารพิเศษในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ซึ่งได้แก่ ประเทศไทย สิงคโปร์ เวียดนาม สาธารณรัฐประชาชนจีน เขตบริหารพิเศษฮ่องกง มาเลเซีย กัมพูชา และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ครอบคลุมเส้นทางการบินซึ่งมีปลายทางกว่า 400 แห่งในทุกภูมิภาคทั่วโลก
***ANI ขายหุ้นไอพีโอจำนวน 554,738,900 หุ้น ในราคาหุ้นละ 5.25 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 2,912,379,225 บาท มีบล.เกียรตินาคินภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย เงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำใช้ในการปรับโครงสร้างทางการเงินจากการเข้าซื้อธุรกิจ GSA ในสิงคโปร์และมาเลเซียที่ซื้อมาในช่วงปลายปี 2565 ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ เพื่อการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต
***และเมื่อวาน ANI ก้อแจ้งข่าวดีเกี่ยวกับผลประกอบการมารอไว้แล้ว โดยในไตรมาส 3/66 มีกำไรสุทธิ 240.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 101.34 ล้านบาท และงวด 9 เดือนกำไรสุทธิรวม 651.60 ล้านบาท จากที่ทำได้ 328.94 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน เเละในการเข้าตลาดเทรดนั้นส่วนของผู้ถือหุ้นเดิมแสดงความพร้อมใจว่าจะไม่เทขายออกมา... ร่วมจับตาดูกันว่า ตลอดทั้งวันราคาหุ้นจะยืนได้แค่ไหน เอาใจช่วยนะ
***อีกรายที่จะเข้าเทรดวันนี้คือ MGI หรือ บมจ.มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เข้าตลาด mai ภายใต้กลุ่มอุปโภคบริโภค (มีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,039.50 ลบ.) ทำธุรกิจพาณิชย์จากการจัดประกวดนางงาม “มิสแกรนด์ ไทยแลนด์” และ ”มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล” ตลอดจน ธุรกิจสื่อและบันเทิง และธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน โดยสินค้าที่บริษัทจำหน่ายเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าและผิวกาย ผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์อาหารและอาหารเสริม ภายใต้ตราสินค้าของบริษัท ได้แก่ “Miss Grand” “NangNgam”
***MGI ขายหุ้นไอพีโอจำนวน 60 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 4.95 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 297 ล้านบาท ทั้งนี้การกำหนดราคามาจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E Ratio) เท่ากับ 11.76 เท่า ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิ 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566) มีบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล.เอเอสแอล เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย สำหรับเงินที่ได้จะนำไปลงทุนปรับปรุงตกแต่งอาคารสำนักงาน พัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าและผลิตรายการทางออนไลน์ พัฒนาขีดความสามารถของระบบสารสนเทศ ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท
***เจ๊จิ๋มขอส่งกำลังแรงใจไปให้กับน้องใหม่ป้ายแดงทั้ง 2 แห่ง ANI-MGI ให้ราคาหุ้นเปิดแรงๆ ยืนเหนือจอง หุ้นเป็นสีเขียวสดใสสบายตาไปตลอดทั้งวัน ...เพื่อเป็นผู้นำร่องให้กับไอพีโอตัวอื่นๆ ที่กำลังเข้าคิวกันยาวเหยียดและรอเวลาที่เหมาะสมเข้ามาซื้อขายในอนาคตต่อไป
***ส่วนเรื่องที่อยู่ในกระแสอย่างการจัดการหนี้และพักหนี้ โดยรัฐบาลนั้น มีการประเมินว่าไม่มีผลกระทบหุ้นกลุ่มแบงก์ แต่คาดมีผลกระทบเล็กน้อยต่อกลุ่ม Finance เนื่องจากโครงการนี้มีความเกี่ยวข้องกับสถาบันการเงินของรัฐ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธกส. และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFI) จึงมองผลกระทบจำกัดต่อ KTB หรือแทบจะไม่มีผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มแบงก์ นอกจากนี้ลูกค้าในกลุ่มแบงก์ยังเป็นคนละกลุ่มกับที่ทางภาครัฐเข้าให้การช่วยเหลือ สำหรับด้านสินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่ที่จะมีการกำหนดเพดานดอกเบี้ย เรามองว่าอัตราดอกเบี้ยของธนาคารไม่เกินระดับเพดานที่กำหนดอยู่แล้ว จึงไม่มีผลกระทบ แต่อาจจะมีผลกระทบทางลบเล็กน้อยต่อกลุ่ม Finance
***ขอแสดงความยินดีกับ AMA ด้วยคนค่ะ ตอนนี้ได้รับมอบเรือใหม่ Global Saturn ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น “ญาณี (Yanee)” เรียบร้อยแล้ว โดยมีขนาดน้ำหนักบรรทุก 13,000 เดทเวทตัน สร้างในปี 2552 มีอายุการใช้งานคงเหลือประมาณ 16 ปี เป็นเรือบรรทุกน้ำมัน และสารเคมี จำนวน 1 ลำ แว่วๆ ว่าบริษัทฯ มีแผนที่จะนำเรือบรรทุกน้ำมัน และสารเคมีลำใหม่ไปให้บริการขนส่งสินค้าเหลวในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เช่น จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เป็นต้น ภูมิภาคเอเชียใต้ เช่น อินเดีย ศรีลังกา และบังคลาเทศ และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ ซึ่งจะทำให้มีรายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือเพิ่มขึ้น
***สนใจอยากได้ผลตอบแทนจากหุ้นกู้ดีๆ เชิญทางนี้ค่ะคุน!!!! MTC เตรียมเปิดขายหุ้นกู้ 2 ชุดใหม่ อัตราดอกเบี้ย 4.25-4.40% ต่อปี เตรียมเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 21-22 และ 25 ธันวาฯนี้ ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 11 แห่ง ดังนี้
1. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
2. ธนาคารซีไอเอ็มบี จำกัด (มหาชน)
3. บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด
4. บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
5. บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด
6. บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด
7. บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
8.บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)
9. บริษัทหลักทรัพย์ พาย จํากัด (มหาชน)
10. บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด
11. บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน)
***ทั้งนี้ หุ้นกู้ 2 ชุดของ MTC ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566
-หุ้นกู้ชุดที่ 1 มีอายุ 1 ปี 5 เดือน 15 วัน โดยครบกำหนดไถ่ถอนปี 2568 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.25% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ โดยดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะมีระยะเวลา 2 เดือน 15 วัน
-หุ้นกู้ชุดที่ 2 มีอายุ 2 ปี 5 เดือน 14 วัน ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2569 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.40% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ โดยดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะมีระยะเวลา 2 เดือน 14 วัน
***ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงจาก MTC "ปริทัศน์ เพชรอำไพ" มั่นใจว่าหุ้นกู้ทั้ง 2 ชุดใหม่ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เพราะนอกจากประเด็นการให้อัตราผลตอบแทนที่ดีแล้ว ยังได้รับความเชื่อมั่นด้วยเพราะเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ที่บริหารงานภายใต้หลักธรรมาภิบาล และมีศักยภาพที่จะผลักดันการเติบโตได้อย่างมั่นคง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ MTC ขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ และให้ความสำคัญกับการดูแลและบริหารหนี้ พร้อมกับการให้บริการที่เป็นเลิศ สร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า ควบคู่กับการเพิ่มช่องทางให้ลูกค้าได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรมและโปร่งใส เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยบริษัทฯได้ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโตสู่ระดับ 200,000 ล้านบาทในปี 2569
ที่เกี่ยวข้อง
