Smart Investment

"เสี่ยปู่"เพิ่มสัดส่วน 2 หุ้นกำไรสวย


15 พฤศจิกายน 2566

by.พูเมซ่า 

ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2566 ดัชนีหุ้นจะยังคงผันผวนแรง ขณะที่ปัจจัยที่มีอิทธิพลในช่วงนี้ก็น่าจะเป็นเทศกาลการรายงานผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย

 smart invest สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล ลุยเก็บหุ้น COCOCO - PCC.jpg

บล.เอเซียพลัส ระบุว่า ภาพรวมตลาดการเงินดูสงบขึ้นหลังตัวเลขเงินเฟ้อ ต.ค.66 สหรัฐฯ ออกมาที่ 3.2% YOY ต่ำกว่าที่คาด ทำให้ตลาดเชื่อว่าวัฎจักรขาขึ้นของดอกเบี้ยจบลง และ คาดดอกเบี้ยจะเริ่มลดลงในปี 2567 ผลสืบเนื่องจากความเชื่อดังกล่าวทำให้ BOND YIELD ลดลง และ USD อ่อนค่า ส่วนบ้านเราก็มีความเชื่อมากขึ้นว่า ดอกเบี้ยน่าจะทรงตัวเช่นกัน ส่วนความกังวลเรื่องการกู้เพิ่มของรัฐบาลเพื่อ สนับสนุน DIGITAL WALLET เราประเมินว่าเร็วสุดที่น่าจะเห็นคงเป็น 4Q67 ภายใต้ปัจจัยแวดล้อมดังกล่าวเห็นได้ว่าภาพของตลาดการเงินมีความนิ่งมากขึ้น ส่วนประเด็นอื่นที่มีน้ำหนักต่อทิศทางตลาดได้แก่ การเกิดขึ้นของ THAILAND ESG FUND เบื้องต้นคาดหมายมีเม็ดเงินเข้ามาประมาณ 1 หมื่นล้านบาท/ปี โดย สัดส่วนหุ้นใน SETESG มีน้ำหนักราว 73% ของ MARKET CAP รวม สำหรับ กำไร3Q66 ภาพรวมออกมาสูงกว่าคาดราว 5.4%

จะสังเกตุได้ว่า MSCI รอบนี้ไม่มีหุ้นไทยที่ถูกคัดเข้าดัชนีเลย ส่วนหนึ่งเกิดจากดัชนี หุ้นไทยปรับตัวลงมาเยอะ (MARKET CAP เล็กลง) ส่วนหุ้นที่ถูกคัดออกคาดว่าจะถูก กดดันจำดัน เนื่องจากปรับลงมาลึกแล้ว สังเกตได้จากผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี(YTD) ของแต่ละบริษัทที่ถูกคัดออก อาทิ BGRIM, EGCO, RATCH ติดลบ 26%-41% และ ACE, ASK, KEX, ONEE, RAM, SABUY, TTA, TFG, VIBHA ติดลบ 26%-78%

สรุป ปัจจัยกดดัน SET INDEX ยังมี อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ FLOW ต่างชาติยังไม่ ไหลเข้ามากนัก และทำให้ SET INDEX ไม่ OUTPERFORM ตลาดหุ้นอื่นๆมากเท่าที่ พื้นฐานควรจะเป็น ซึ่งสถานการณ์กดดันตลาดเริ่มนิ่ง ขณะที่ SET INDEX ลงมาลึกจนมี VALUATION ที่น่าสนใจ P/E 67F 14.2 เท่า, PBV 1.3 เท่า (ต่ำ 2SD) และยังมีแรงหนุน ช่วงสั้นจากงบ 3Q66 ออกมาดี และคาดหวังเม็ดเงินจากกองทุนเข้ามาหนุน ต่อเนื่อง ด้วยเม็ดเงินใหม่จากกองทุน TESG ช่วงโค้งสุดท้ายของปี แนะนำ หุ้นที่อยู่ใน SETESG INDEX ที่ถูก SHORT เยอะๆ มีโอกาสได้เม็ดเงินใหม่หนุน บวกกับถูก COVERED SHORT อย่าง EA, GPSC, SCGP, PTTGC, HMPRO, GULF, CPALL, CRC, SCC, MINT, SIRI เป็นต้น

จากการสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในส่วนของการลงทุนของนักลงทุนรายใหญ่ชื่อดังอย่าง"สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล" หรือเสี่ยปู่ พบว่าในเดือนพฤศจิกายน 2566 ได้มีการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้น 2 บริษัท ได้แก่ หุ้น COCOCO หรือบริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) โดยล่าสุดได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นเป็น 23,400,000 หุ้นคิดเป็น 1.59%จากเดิมที่เคยถือหุ้น 22,500,000 หุ้นคิดเป็น 1.53%  และหุ้นPCC หรือบริษัท พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ล่าสุดถือหุ้น29,617,800 หุ้นคิดเป็น 2.41 % จากเดิมเคยถือหุ้น 23,037,500 หุ้นคิดเป็น 1.88%

สำหรับเหตุผลที่สนับสนุนให้"เสี่ยปู่"ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในครั้งนี้ น่าจะเป็นเรื่องของการประเมินทิศทางผลการดำเนินงานน่าจะมีทิศทางที่เติบโตได้ต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดทั้ง 2 บริษัทรายงานผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส3/2566 และ 9 เดือน 2566 มีการเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับจากงวดเดียวกันของปีก่อน รวมทั้งบริษัทฯได้ให้ข้อมูลยืนยันภาพรวมผลการดำเนินงานทั้งปียังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องจากปีก่อนอีกด้วย

“วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO ผู้ผลิต-จำหน่าย และส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวรายใหญ่ของไทย กล่าวว่า บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 (1 ม.ค. -30 ก.ย. 2566) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 350.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.92% โดยเป็นผลมาจากรายได้จากการขายของบริษัทเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ สามารถขยายตลาดไปยังประเทศจีนได้เพิ่มขึ้น จากการจำหน่ายสินค้าประเภทน้ำมะพร้าวไปยังประเทศจีน ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า COCOCO ถือเป็น ผู้นำ ด้านกะทิ และน้ำมะพร้าวรายใหญ่ของเมืองไทย และยังอยู่ในธุรกิจเมกะเทรนด์สุขภาพทั่วโลกที่มีศักยภาพการเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน

ขณะที่บริษัทฯ คาดรายได้ปีนี้เติบโต 30% จากปีก่อน โดยเป็นไปตามทิศทางของคำสั่งซื้อที่เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์ นำโดย กะทิกระป๋อง กะทิพาสเจอร์ไรซ์ น้ำมะพร้าว น้ำมะพร้าวบรรจุกระป๋อง น้ำมะพร้าวพาสเจอร์ไรซ์ ขนมมะพร้าว และอาหารสำเร็จรูป ภายใต้ตราสินค้า Thaicoco และ Cocoburi ประกอบกับได้รับปัจจัยสนับสนุนจากประเทศจีนโดยเฉพาะออเดอร์จากผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าว นอกจากนี้ กลุ่มประเทศอื่นๆ ยังมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยฐานลูกค้าของ COCOCO มาจากต่างประเทศ 90 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมในกลุ่มประเทศอเมริกาเหนือและใต้, กลุ่มประเทศยุโรป, กลุ่มประเทศเอเชีย-แปซิฟิก, กลุ่มประเทศเอเชียใต้, กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง, กลุ่มประเทศโอเชียเนีย และกลุ่มประเทศแอฟริกา

สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นล่าสุดของ COCOCO ประกอบด้วย

 

รายชื่อ

จำนวน(หุ้น)

%การถือครอง

บริษัท เชาว์-อารีย์ โฮลดิ้ง จำกัด

440,000,000

29.93

นาย วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว

330,000,000

22.45

นาย ปิติวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว

66,000,000

4.49

นาง กิติมา ชิ้นปิ่นเกลียว

66,000,000

4.49

นาง นงลักษณ์ ชิ้นปิ่นเกลียว

66,000,000

4.49

น.ส. จินตนา ชิ้นปิ่นเกลียว

66,000,000

4.49

นาย ภานุวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว

66,000,000

4.49

นาย ภาวัส จึงทรัพย์ไพศาล

30,000,000

2.04

นาย สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล

23,400,000

1.59

น.ส. วีรวัลย์ เซี่ยงว่อง

11,908,800

0.81

 

ขณะที่ “กิตติ สัมฤทธิ์”  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (PCC) กล่าวว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปีนี้  มีรายได้รวม 3,352.84 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 95.33 ล้านบาท หรือ 2.93% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากยอดขายกลุ่มสินค้าหม้อแปลงเครื่องมือวัดแรงดันและกระแส, กลุ่มสินค้าสวิตช์ตัดตอนชนิดต่างๆ, กลุ่มสินค้าสวิตช์ใบมีดแรงดันกลางและสูง และกลุ่มอุปกรณ์และระบบควบคุมสำหรับระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ ให้กับกลุ่มลูกค้าภาครัฐ และเอกชนเพิ่มขึ้น และจากงานโครงการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูง

ขณะที่มีกำไรสุทธิ 259.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.83% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากรายได้รวมที่เพิ่มสูงขึ้น และการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้า

ทั้งนี้ บริษัทฯคาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 4,859.98 ล้านบาท  เนื่องจากบริษัทฯมองเห็นโอกาสใหม่ๆ และการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขยายกำลังการผลิตของหม้อแปลงไฟฟ้า  และการขยายตัวของระบบสมาร์ทกริด     ขณะเดียวกันยังเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 4.3 พันล้านบาท และอยู่ระหว่างรอประกาศผลการประมูลของปีนี้อีกจำนวนหนึ่ง

สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นล่าสุดของ PCC ประกอบด้วย

รายชื่อ

จำนวน (หุ้น)

%หุ้น

นาง สุนันทา สัมฤทธิ์

170,846,000

13.93

สมาคมพนักงานกลุ่มบริษัทพรีไซซ

88,820,200

7.24

นาย กิตติ ณัฐชยางกุล

64,886,900

5.29

นาง กรรณกรณ์ เสนีย์มโนมัย

61,507,200

5.01

นาย กิตติ สัมฤทธิ์

58,160,000

4.74

นาย สุธี จุฬานุตรกุล

54,785,700

4.47

น.ส. กนกพร ม้าไว

50,214,125

4.09

นาย หาญเจต ลิขิตสินโสภณ

41,906,900

3.42

นาย สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล

29,617,800

2.41

นาย เอกภพ รักตพงศ์ไพศาล

25,906,800

2.11