Smart Investment

GULF รับยิลด์ปันผล INTUCH สูงสุดเกือบ 5%


15 กุมภาพันธ์ 2566
by.พูเมซ่า
ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นปี ดัชนีตลาดหุ้นผันผวนต่อเนื่อง ล่าสุดยังไม่สามารถไต่ระดับขึ้นไปแตะ1,700 จุดไว้ได้และปัจจุบันปัจจัยที่จะมีอิทธิพลจะเป็นการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) รวมทั้งการประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานในรอบปี 2565 ซึ่งมีบริษัทขนาดใหญ่ประกาศออกมาบ้างแล้ว
smart invest GULF โกยปันผลจาก INTUCH  1 หมื่นลบ 150223.jpg
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า แนวโน้มดอกเบี้ยโลกเข้าสู่ปลายวงจรขาขึ้น ทั้งสหรัฐฯ และยุโรป เพิ่มความน่าสนใจในการลงทุนหุ้นที่ให้อัตราปันผลสูง ทั้งนี้ จากการศึกษาทีมกลยุทธ์ พบว่า กลยุทธ์หุ้นปันผล Big Cap ซื้อก่อน XD สั้นๆ 2 สัปดาห์ และขายหลัง XD 1-2สัปดาห์ก็ให้ผลตอบแทนน่าพอใจ 2.8-3.9% และกลยุทธ์หุ้นปันผล Mid-Small Cap ควรสะสมก่อน XD 2 เดือน และขายหลัง XD 1-2สัปดาห์จะให้ผลตอบแทนสูง 9.2-9.6%

ทั้งนี้ กลยุทธ์หุ้นปันผล 2H22F แนะนำ High Yield: ทีมกลยุทธ์ได้ทำการคัดกรองหุ้นปันผลเด่น 2H22F ภายใต้เงื่อนไข 2 ข้อ ดังนี้ 1) เป็นหุ้นที่จะจ่ายเงินปันผล 2H22F สูงกว่า 3%
 2) เป็นหุ้นพื้นฐานที่มีแนวโน้มเติบโตหรือกระแสเงินสดมั่นคง เหมาะแก่การเข้าลงทุน/เก็งกำไรในช่วงนี้ พบว่าหุ้นที่อยู่ภายใต้ CNS Coverage ที่น่าสนใจได้แก่ TISCO (7.0%), NER (5.9%), AP (5.3%), MC (5.2%), ICHI (5.2%), ORI (4.5%), THANI (4.3%), BAM (3.8%), LH (3.6%),SIRI (3.5%), SC (3.3%), RATCH (3.3%), SAWAD (3.0%)
ขณะที่หุ้นปันผลสูงในมุมมองของ Consensus มีหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ VNG, RJK, NER, ILINK, AP, NOBLE, BRI, DCC

สำหรับ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)INTUCH ล่าสุดคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดอัตราหุ้นละ1.56 บาท โดยได้วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date)วันที่  24 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งวันที่จ่ายปันผลวันที่ 21 เมษายน 2566 โดยเป็นการจ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565
ทั้งนี้จากสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า INTUCH ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา มีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง และยังพบว่า ยังให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับที่สูงระดับ 3-4% โดยในอดีตอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึงเกือบ 5%

สำหรับประวัติการจ่ายเงินปันผลของหุ้น INTUCH ตั้งแต่ปี 2563 ถึง 2566 ดังนี้ 

วันที่จ่าย     เงินปันผล(บาท) อัตราผลตอบแทน(%)
27/01/66 1.40     3.72    
08/09/65 1.76 3.86
21/04/65 1.60 3.68    
02/09/64 1.23 3.26
22/04/64 1.35 4.46
03/09/63 1.15 4.75
23/04/63 1.30 4.67

หากพิจารณาจากโครงสร้างผู้ถือหุ้นของINTUCH ล่าสุด ประกอบด้วย 

รายชื่อ จำนวน(หุ้น) %การถือครอง
กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเม้นท์  1,319,668,779 41.15
SINGTEL GLOBAL INVESTMENT PTE. LTD. 801,328,970 24.99
 ไทยเอ็นวีดีอาร์  212,016,010 6.61
GULF ENERGY DEVELOPMENT PCL. 173,812,727 5.42
SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED 65,812,378 2.05
สำนักงานประกันสังคม 44,840,200 1.40
เพิ่มศักดิ์ เก่งมานะ     30,823,100 0.96
STATE STREET EUROPE LIMITED 25,567,404 0.80
ธนาคาร เกียรตินาคิน ภัทร จำกัด (มหาชน) 18,911,400 0.59
ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) 16,441,100 0.51

จากข้อมูลข้างต้น เมื่อนำประวัติการจ่ายเงินปันผลของหุ้น INTUCH ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา  พบว่า“กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเม้นท์” หรือ GULF ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จะได้รับเงินปันผลมูลค่ารวมมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง 3-4% และเคยได้รับผลตอบแทนสูงสุดที่ระดับ 4.75% ซึ่ง GULF ได้เริ่มเข้ามาลงทุนถือหุ้นINTUCH จนมีชื่อปรากฎในโครงสร้างผู้ถือหุ้นช่วงปลายปี 2563 โดยแต่ละปีจะรับเงินปันผลเพิ่มสูงขึ้น หรือประมาณ 3-4 พันล้านบาทต่อปี 

วันที่จ่าย เงินปันผล(บาท) จำนวน(ล้านหุ้น) มูลค่าที่ได้รับ(ลบ.)
21/04/66 1.56     1,319 1,847
27/01/66 1.4 1,319 1,847
8/09/65     1.76 1,293 2,276 
21/04/65 1.6 1,122 1,795 
2/09/64     1.23     1,354     1,666 
22/04/64     1.35     505     682 
3/9/1963 1.15     256 294 
รวม     10,407

อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนดังกล่าว ยังไม่ได้นับรวมกับส่วนต่างราคาหุ้นINTUCH ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบันราคาหุ้นเพิ่มขึ้นประมาณ 30.13% จากราคา 57.25 บาทต่อหุ้นมาอยู่ที่ 74.50 บาท โดยราคาเคยปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 90.75 บาท  ดังนั้นมูลค่าการถือครองหุ้นของGULF ก็ย่อมมากขึ้นเช่นกัน