จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : เทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัล หนุนรายได้ I2 เติบโต 15%


31 ตุลาคม 2566
ปัจจุบันระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมีความสำคัญอย่างมากต่อภาคธุรกิจที่จะช่วยให้บริษัทต่างๆประสบความสำเร็จ ซึ่งส่งผลดีต่อ บมจ. ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์  (I2) ฐานะผู้ให้บริการ System Integration (SI) ครบวงจร สนับสนุนผลงานเติบโตก้าวกระโดด

รายงานพิเศษ I2.jpg

พันเอกสรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ผู้ให้บริการด้านดิจิทัลและโทรคมนาคม คาดการณ์เทคโนโลยีในภาคธุรกิจปี 2023 ว่า  หลังจากที่วิกฤตโควิดเริ่มคลี่คลายแล้ว โอกาสของการพัฒนา และเติบโตของธุรกิจจะกลับมาฟื้นตัวและคึกคักมากยิ่งขึ้น ทำให้หลายธุรกิจกลับมาอยู่ในช่วงขาขึ้นอีกครั้ง 

ซึ่งธุรกิจที่รู้ทันตลาด รู้ทันผู้บริโภค จากการใช้เครื่องมือสนับสนุนทางเทคโนโลยีไอทีและดิจิทัล ก็จะสามารถฟื้นตัวได้ก่อน โดยเทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัลในปี 2023 จะมีบทบาทอย่างมากในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ โดยจะช่วยวิเคราะห์เทรนด์การตลาดในอนาคตได้อย่างแม่นยำ ช่วยการวางแผนอย่างเป็นระบบ ประเมินทิศทางการเติบโต และลดความเสี่ยงของความล้มเหลว

โดยบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญและชำนาญในเรื่องของเทคโนโลยี   ต้องนึกถึง บมจ. ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์  (I2) ที่ประกอบธุรกิจบริการ System Integration (SI) แบบครบวงจร ได้แก่ ให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร โทรคมนาคม และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น Infrastructure, Network, Transformation, อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสัญญาณดาวเทียม และเทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงาน

ซึ่ง “อธิพร ลิ่มเจริญ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  I2 กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานโครงการของภาครัฐและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่อง ตามวัตถุประสงค์การใช้เงินระดมทุนเสนอขายหุ้น IPO เพื่อเป็นการต่อยอดและขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้ หนุนรายได้ปี 66 เติบโต 15%

โดยตั้งเป้าหมายปีนี้ได้รับงานเพิ่มอีกกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมลงนามสัญญาจ้างโครงการจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System : BESS) บนพื้นที่เกาะสมุย  จังหวัดสุราษฎร์ธานี มูลค่ารวม 1,541.28 ล้านบาท  ส่งผลให้มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มเป็นกว่า 2.5 พันล้านบาท  และจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในอนาคตเติบโตอย่างก้าวกระโดด

ขณะที่ บล.หยวนต้าวิเคราะห์หุ้น I2  โดยคาดว่า กำไรปกติของบริษัทใน 3Q66  อยู่ที่ 23 ล้านบาท (+209% QoQ, +214% YoY)   กำไรที่เติบโต QoQ และ YoY มาจากรายได้ที่เติบโตอย่างโดดเด่น

ซึ่งหากกำไรปกติ 3Q66 ออกมาตามคาด กำไร 9M66 จะคิดเป็น 64%  ของประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2566 ของเราที่ 76 ล้านบาท (+5%  YoY)  เราคงประมาณการ เนื่องจาก 4Q66 จะเข้าสู่รอบการรับรู้งานขนาดใหญ่

ทั้งนี้เราปรับลด PER ลงเป็น 12x จาก 15x   เพื่อให้สะท้อนการ Derating หุ้นขนาดกลางขนาดเล็กของตลาดในภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงสูงขึ้น ทำให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ปรับลดลงเป็น 3.08 บาทต่อหุ้น

เราคงคำแนะนำ ซื้อ  โดยมีราคาเป้าหมายที่ 3.08  บาท /หุ้น   จากราคาหุ้นปัจจุบันที่ PER66 ที่ 9.4x บนคาดการณ์  บริษัทจ่ายเงินปันผล 5.3% มี Downside Risk ที่จำกัด
I2